‘นายกฯ’ ทัวร์เบตง ชิมเมนูปลาขึ้นชื่อ สั่งยกระดับด่านชายแดน รับท่องเที่ยว
![‘นายกฯ’ ทัวร์เบตง ชิมเมนูปลาขึ้นชื่อ สั่งยกระดับด่านชายแดน รับท่องเที่ยว](https://image.bangkokbiznews.com/uploads/images/md/2024/02/Ruxjif4uT0NX3xGLfVTa.webp?x-image-process=style/LG)
"เศรษฐา" ลงพื้นที่ "เบตง" ชิมเมนู "ปลานิลสายน้ำไหล - ปลาพลวงชมพู" เยี่ยมชม "สวนดอกไม้เมืองหนาว - ตรวจด่านศุลกากร" นายกฯ เผย ตั้งใจให้เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงในภูมิภาค การค้าชายแดน การลงทุน ท่องเที่ยว สั่งยกระดับด่าน ขจัดอุปสรรคขัดขวางความเจริญ เร่งเลิกแบบ ตม.6
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมคณะลงพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา โดยได้เยี่ยมชม และรับฟังการบรรยายวิธีการเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหลเบตง และปลาพลวงชมพูฮาลาบาลา สู่ GI ไทย ณ ร้านอาหารบ่อปลานิลสายน้ำไหล (โกหงิ่ว) ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ซึ่งวิธีการเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหล เป็นรูปแบบการเลี้ยงในระบบน้ำไหลผ่าน โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการผันน้ำจากลำธารเข้าสู่ฟาร์ม ซึ่งวิธีการเลี้ยงปลานิลผ่านระบบน้ำไหล ทำให้ผลิตปลานิลที่มีคุณภาพสูง สามารถสร้างรายได้แก่ เกษตรกรปลานิล ขนาด 1 กิโลกรัม ขึ้นไปในราคา 90-100 บาทต่อกิโลกรัม จากนั้น นายกฯ และคณะเดินทางเยี่ยมชมกิจกรรมชมสวนดอกไม้เมืองหนาวเบตง (สวนหมื่นบุปผา) สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดยะลา ซึ่งสามารถรับชมดอกไม้ได้มากกว่า 30,000 ต้น ดอกไม้มากกว่า 100 สายพันธุ์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ชุมชนสินค้าท้องถิ่น เทียนไขหอม DIY ที่นำดอกไม้อบแห้งในพื้นที่มาให้เลือกสรร เห็ดหลินจือเบตง และสปาเท้าอุโมงค์ปิยะมิตรด้วย
ทั้งนี้ นายกฯ โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว ระบุว่า ผมแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารบ่อปลานิลสายน้ำไหล (โกหงิ่ว) ที่นี่อยู่บนเขา แต่เลี้ยงปลาได้คุณภาพดีผ่านระบบน้ำไหล ซึ่งก็คือ น้ำไหลจากภูเขาลงข้างล่างนั่นเอง
ด้วยความที่เป็นน้ำธรรมชาติจากภูเขา น้ำจึงใส มีความเย็นอุณหภูมิเฉลี่ย 19-20 องศาเซลเซียส เลี้ยงในบ่อซีเมนต์ ไม่ลึกมาก ทําให้ปลานิลไม่มีกลิ่นโคลน ไม่เหม็นคาว เนื้อแน่น หวานอร่อย ครับ
ปลาอีกชนิดหนึ่งที่ขึ้นชื่อของยะลาคือ ปลาพลวงชมพู ที่มีเกล็ดสวย สีชมพู บริเวณครีบ หลัง และครีบหางเป็นสีแดง และได้รับการประกาศให้เป็นปลาประจําจังหวัดยะลาเมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา ปลาชนิดนี้พิเศษตรงกินได้ทั้งเกล็ดเลยครับ โดยเกล็ดปลาอุดมไปด้วยคอลลาเจนสูง
นอกจากนั้น นายกฯ ยังได้ติดตามการดำเนินงานของด่านศุลกากรเบตง จ.ยะลา สั่งการเร่งแก้ไขปัญหาช่องทางเดินรถ รองรับรถ และการเดินทางของนักท่องเที่ยว
จากนั้น นายเศรษฐา เดินทางต่อไปยังด่านศุลกากรเบตง เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน โดยมีนายธรรมธร เกตุแก้ว ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร รักษาราชการแทนนายด่านศุลกากรเบตง และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรเบตงให้การต้อนรับ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
โดยนายธรรมธร กล่าวว่า ดุลการค้าระหว่างไทยกับมาเลเซีย ถือว่าไทยได้ดุลการค้า มีชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาจำนวนมากในช่วงเดือนมกราคม 2567 โดยเฉพาะช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด ทำให้เกิดปัญหาช่องทางจราจรฝั่งขาเข้าด่านศุลกากร มีขนาดเล็ก และแคบ ไม่สามารถให้รถยนต์บรรทุกสินค้า และรถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ขับผ่านเข้ามาได้ รวมทั้งที่จอดรถ และพื้นที่ให้บริการไม่เพียงพอต่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก
โดยผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร ได้เสนอแนวทางการพัฒนาฯ ดังนี้
1. ขยายพื้นที่เพื่อจัดทำช่องจราจร 2-4 จราจร เพื่อเป็นช่องทางสำหรับการผ่านเข้ามาของรถยนต์บรรทุกสินค้า และรถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ พร้อมปรับปรุงพื้นที่เพื่อติดตั้งเครื่องชั่ง สำหรับชั่งรถยนต์บรรทุกสินค้าขาเข้า
2. จัดสร้างลานจอดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล/รถยนต์บรรทุก และรถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ (รถบัส) เพื่อจอดพักสำหรับนักท่องเที่ยว และผู้มาติดต่อราชการ จัดสร้างห้องน้ำสำหรับบริการนักท่องเที่ยว และผู้มาติดต่อราชการ
และ 3. จังหวัดยะลา มีข้อสั่งการให้ดำเนินแผนการพัฒนาด่านศุลกากรเบตง โดยให้สำนักงานโยธาธิการจังหวัด และผังเมืองยะลา ดำเนินการออกแบบเพื่อขยายด่านศุลกากรเบตง เพื่อรองรับการเจริญเติบโตในอนาคต
ภายหลังรับฟังบรรยายสรุป และรับฟังข้อเสนอแนะ นายกฯ กล่าวมอบนโยบายว่า เบตง จังหวัดยะลา เป็นพื้นที่ชายแดนที่มีความสำคัญ รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงในภูมิภาคในเรื่องการค้าชายแดน การลงทุน และการท่องเที่ยว สำหรับโครงการที่เสนอมา ขอให้กรมศุลกากร สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมโยธาธิการ และผังเมือง และจังหวัดยะลา พิจารณาจัดลำดับความสำคัญ และความเหมาะสมในการดำเนินโครงการ รวมถึงกำหนดแผนงาน และงบประมาณที่ชัดเจน เพื่อจะได้ผลักดันการพัฒนาต่อไป
นายกฯ กล่าวต่อไปว่า ขอให้ร่วมกันเร่งพิจารณาแผนระยะสั้น เพื่อแก้ไขปัญหาความแออัด และล่าช้าในการพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งพิธีการศุลกากรการขนส่งสินค้าข้ามแดน รวมทั้ง ร่วมกันผลักดันให้เกิดศูนย์ให้บริการเบ็ดเสร็จ OSS ทำให้การบริการมีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ นายกฯ ได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างไทยและมาเลเซีย รวมทั้ง พัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดยะลาต่อไป
นายกฯ กล่าวอีกว่า ความสงบจะช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจในเบตงดีขึ้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่เป็นตัวขัดขวางความเจริญ รวมถึงความไม่สะดวกต่างๆ ทั้งนี้ ขอให้เร่งรัดดำเนินการยกเว้นรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้าใน หรือออกไปนอกราชอาณาจักร (แบบ ตม.6) โดยกำชับให้กระทรวงการต่างประเทศ เร่งนำเรื่องให้ ครม.พิจารณา ส่วนเรื่องการแก้ไขผังเมืองเป็นเรื่องระยะยาว ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาปรับผังเมืองใหม่ทั้งหมดให้เหมาะสมกับความเจริญในปัจจุบันต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบนโยบายให้เร่งขยายพื้นที่บริเวณด่านเข้าออกศุลกากรให้มีช่องจราจรและลานจอดรถให้กว้างขึ้น ตลอดจนเร่งดำเนินการขยายถนนเส้น 410 ระยะทางราว 110 กิโลเมตร ที่วิ่งตรงจากตัวเมืองยะลา ตรงไปยังเบตง โดยทั้งหมดนี้ของบูรณาการแผนให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์