‘ทักษิณ’พักโทษ ‘ก้าวไกล’ขยับ เขย่าอภิสิทธิ์ชน 2 มาตรฐาน

‘ทักษิณ’พักโทษ ‘ก้าวไกล’ขยับ เขย่าอภิสิทธิ์ชน 2 มาตรฐาน

การออกมาของทักษิณ จึงถูกมองว่าเต็มไปด้วยแรงสั่นสะเทือนถึงทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล แถมเป็นปัจจัยเร่งชั้นดีให้ฝ่ายตรงข้ามรุมชำแหละผู้มีอำนาจทางการเมืองอย่างเลี่ยงไม่ได้

Key Points 

  • เมื่อทักษิณ เป็นอิสระจากการพักโทษ ยิ่งเพิ่มอุณหภูมิการเมืองให้ร้อนขึ้น
  • ก้าวไกล ออกโรงจวกความเป็นอภิสิทธิ์ชนที่ทักษิณได้รับ   
  • แรงกระเพื่อมที่มีทักษิณเป็นศูนย์กลาง กำลังสร้างความสั่นคลอนให้ทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล

การออกจากสถานที่คุมขังของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากเข้าเงื่อนไขการพักโทษ ได้เดินทางออกจากโรงพยาบาลตำรวจ กลับสู่ บ้านจันทร์ส่องหล้า ที่จากมา 17 ปี

ภาพของทักษิณที่ปรากฎตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ถูกควบคุมตัวในโรงพยาบาล ถูกตั้งข้อสังเกตมากมาย มีการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง โดยเฉพาะคอมเมนต์ในโซเชียลมีเดีย

ภาพการนั่งริมสระน้ำในบ้านจันทร์ส่องหล้า ที่ลูกสาวคนเล็ก อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ลงสื่อสังคมออนไลน์ ยิ่งทำให้เห็นชัดถึงมุมมองในสังคมที่แตกต่างหลากหลาย ขยายวงชัดเจนถึงกลุ่มคนที่สนับสนุนครอบครัวชินวัตร และกลุ่มที่อยู่ตรงข้าม

ในจังหวะที่พรรคร่วมรัฐบาล เคลื่อนไหวแสดงความยินดีกับอิสรภาพของทักษิณ ที่มีเพียง ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ และพลังประชารัฐ ยังสงวนท่าที ไม่ได้แสดงออกถึงความเป็นไปที่เกิดขึ้นกับทักษิณ

น่าสนใจว่า 2 พรรคร่วมรัฐบาล ที่มีดีเอ็นเอมาจากขั้วอำนาจเก่า ต่อสู้กับระบอบทักษิณมายาวนาน ในรูปแบบต่างๆ แม้วันนี้จะจับมือร่วมรัฐบาลด้วยความจำเป็น เพื่อขวางพรรคก้าวไกลไม่ให้มีอำนาจ จะรู้สึกอึดอัดกับแรงเสียดทานทางการเมืองในสถานการณ์เช่นนี้มากน้อยเพียงใด

ในทางกลับกัน ดูเหมือนก้าวไกล กำลังได้จุดเปลี่ยนของสถานการณ์ จากที่ถูกรุมกระหน่ำเรื่องขบวนเสด็จ อันเป็นผลพวงจากการกระทำของเด็ก ที่ถูกมองเป็นลูกคู่เคลื่อนไหวนอกสภา

ทันทีที่ทักษิณถูกปล่อยตัว ก้าวไกล ออกแถลงการณ์ โจมตีกระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับอดีตนายกฯ ตลอด 180 วันที่ผ่านมา ได้รับสิทธิรักษาตัวนอกโรงพยาบาลที่เรือนจำเป็นกรณีพิเศษ ขาดความโปร่งใสเรื่องอาการป่วย จนได้รับสิทธิพักโทษปล่อยตัวกลับบ้าน กลับเพิ่มคำถามที่มีในใจของประชาชนจำนวนมาก ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาล บังคับใช้กฎหมายกับทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติหรือไม่

“พรรคก้าวไกลยืนยันว่า สังคมไทยต้องการระบอบประชาธิปไตยที่ยึดหลักนิติรัฐและกระบวนการยุติธรรมเพื่อทุกคน ปราศจากระบบสองมาตรฐานหรือนิติรัฐแบบอภิสิทธิ์ชน” แถลงการณ์พรรคก้าวไกล ระบุ

การขยับของก้าวไกล อาจเป็นการส่งสัญญาณนับหนึ่งในการต่อกรกับเครือข่ายทักษิณหรือไม่ อย่างไร หลังสงวนท่าที แทบไม่มีแอ็คชั่นในกรณีทักษิณเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่นานสองนาน จนก้าวไกลถูกข้อครหามากมาย ถึงดีลลับกับผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทย ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงฟอร์มรัฐบาล 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า แรงกระเพื่อมที่มีศูนย์กลางมาจากทักษิณ กำลังสร้างความสั่นคลอนถึงผู้นำและรัฐบาล ที่ถูกตั้งคำถามถึงความชอบธรรมในกรณีดังกล่าว และอาจถูกลากไปชำแหละในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

รวมถึงการปรับ ครม. รัฐมนตรีหลายคนของเพื่อไทย อาจหนาวๆ ร้อนๆ ในวันที่นายใหญ่ ยังเป็นศูนย์กลางอำนาจ

ไม่เว้นแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค ก็อาจกำลังหวั่นใจ เพราะมีการพูดต่อๆกันมาพักใหญ่ กับความพยายามจะเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจในรัฐบาล ถึงขนาดว่ากันว่าจะเอาออกจากรัฐบาลเลยทีเดียว

การออกมาของทักษิณ จึงถูกมองว่าเต็มไปด้วยแรงสั่นสะเทือนถึงทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล แถมเป็นปัจจัยเร่งชั้นดีให้ฝ่ายตรงข้ามรุมชำแหละผู้มีอำนาจทางการเมืองอย่างเลี่ยงไม่ได้