3 ปัจจัย สกัด 'ธิติ'นั่ง ป.ป.ช. ปริศนา 'บิ๊กตำรวจ'ตัดไฟต้นลม ?

3 ปัจจัย สกัด 'ธิติ'นั่ง ป.ป.ช. ปริศนา 'บิ๊กตำรวจ'ตัดไฟต้นลม ?

จากนี้ต้องจับตากลเกม-กลไกทางอำนาจ จะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียง ยิ่งในวันที่ “สองลุง” เริ่มอัสดง จะมี “บิ๊กเนม” คนใดเข้ามาเป็นคนคุมเกมแบบเบ็ดเสร็จหรือไม่

Key Point:

  • ล็อกถล่มหลัง สว. โหวตคว่ำ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ชวดนั่งกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งที่ถูกจับจ้องว่ามีพลังพิเศษจาก "ลุง" คอยสนับสนุน
  • ทว่าอีกหนึ่ง "ลุง" อาจจะไม่แฮปปี้ หาก พล.ต.ท.ธิติ เข้าวิน เพราะยืนอยู่คนละฝั่ง หากปล่อยอาจจะเป็นหนามยอกอก
  • เช่นเดียวกับ "บิ๊กตำรวจ" คู่กรณี "อดีตตำรวจเบอร์หนึ่ง" มีคดีเข้าคิวรอให้สอบสวนในชั้น ป.ป.ช. หลายคดี จึงต้องออกแรงขวาง พล.ต.ท.ธิติ

ล็อกถล่ม หลังสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โหวตคว่ำชื่อ “บิ๊กจ้าว” พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ชวดนั่งเก้าอี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

เดิมที พล.ต.ท.ธิติ ถูกวางตัวให้เข้ามาแทน พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ และเส้นทางในชั้นกรรมการสรรหาราบรื่นมาโดยตลอด ไม่มีอุปสรรคมากีดขวาง

ข้ออภิปรายก่อนโหวตลับกรณีที่ตำแหน่งทางราชการ ไม่เทียบเท่าตำแหน่งอธิบดี มีการตรวจสอบกันแล้วในขั้นตอนของการพิจารณาของคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อ ซึ่งผ่านมาได้ด้วยดี

เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นปัญหามานาน เพราะถ้ายึดการเทียบตำแหน่งทางราชการ ในส่วนของเหล่าทัพจะมีเพียง ผบ.ทสส. - ผบ.ทบ. - ผบ.ทอ. - ผบ.ทร. - ผบ.ตร. เพียงเท่านั้นที่สามารถเทียบเท่าอธิบดีได้

ทำให้มีการกำหนดกฎเกณฑ์เทียบตำแหน่งในปี 2562 ให้แต่ละหน่วยงานกำหนดกันเอาเอง โดย กตร.ออกระเบียบในปี 2563 กำหนด 262 ตำแหน่งในตำรวจเทียบเท่าอธิบดี

ทว่า ตำแหน่งเทียบเท่าอาจจะเป็นเพียงข้ออ้าง เพราะเกมสกัด “พล.ต.ท.ธิติ” มีพลังแฝงอยู่หลายทิศหลายทาง เนื่องจากแบ็คอัพพวกพ้องน้องพี่ยืนกันคนละขั้ว

“พล.ต.ท.ธิติ” ถูกมองว่าเป็นสายตรงของ “ลุงอดีตเบอร์หนึ่ง” และ “บิ๊กตำรวจอดีตเบอร์หนึ่ง” คอยให้การสนับสนุน จนอาจมีการเทเสียงโหวตของ สว. สายตรงให้อย่างล้นหลาม ทำให้นักวิเคราะห์เชื่อว่าเกมนี้ไม่น่าพลิกโผ

อย่างไรก็ตาม เสียงโหวตออกมา ปรากฏว่า สว. มีมติไม่เห็นชอบ 88 คะแนน เห็นชอบ 80 คะแนน และไม่ออกเสียง 30 คะแนน ทำให้คะแนนเห็นชอบน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน สว.

โดยมี 3 กระแสข่าว ที่ทำให้ “พล.ต.ท.ธิติ” ไปไม่ถึงฝันจนต้องกลับ บชน.

กระแสแรก “ลุงอดีตเบอร์หนึ่ง” ไม่เข้ามาคอนโทรลเสียง สว.แล้ว เพราะต้องการพาตัวเองถอยฉากให้พ้นจากการเมือง เพราะหากมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างจะกระทบต่องานหลัก แม้ “บิ๊กตำรวจอดีตเบอร์หนึ่ง” จะขอให้ช่วยออกแรงกดปุ่ม แต่ “ลุงอดีตเบอร์หนึ่ง” ขออยู่นิ่ง

กระแสสอง “ลุงอดีตเบอร์สอง” ซึ่งยังวนเวียนอยู่ในสารบบทางการเมือง แม้จะเก็บตัวเงียบไปพักใหญ่ แต่ระยะหลังเริ่มออกมาแอ็คชั่น ส่งสัญญาณทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ออกแรงสกัด “พล.ต.ท.ธิติ” เพราะยืนอยู่คนละสาย ไม่ใช่เด็กในบ้าน

ที่สำคัญ “ลุงอดีตเบอร์สอง” หวังที่จะสร้างขุมกำลังใน “องค์กรตรวจสอบ” ให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง เพื่อเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง การขยับหมากแต่ละตัวจึงต้องเก็บทุกรายละเอียด

กระแสสาม “บิ๊กตำรวจ” กระบี่มือหนึ่งด้านสอบสวน คู่รักคู่แค้น “บิ๊กตำรวจอดีตเบอร์หนึ่ง” มีคดีอยู่ในชั้น ป.ป.ช. หลายคดี หากปล่อยให้ “พล.ต.ท.ธิติ” ฝ่าด่านเข้าไปนั่ง กรรมการ ป.ป.ช. ย่อมมีโอกาสถูกเช็คบิลได้ทุกเมื่อ

ว่ากันว่า “บิ๊กตำรวจ” ออกแรงมาเป็นพิเศษ เพราะหากปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยให้คู่แข่งมีอำนาจ อนาคตทางข้าราชการตำรวจที่หวังว่าจะได้นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. อาจจะมีอุปสรรค การตัดไฟตั้งแต่ต้นลม แม้จะเสียเท่าไรก็คุ้ม

นอกจากนี้ ต้องจับตาการประชุม สว. ที่ยังต้องเลือกกรรมการ ป.ป.ช. อีกคน โดย ภัทรศักดิ์ วรรณแสง ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา ในฐานะอดีตรองประธานศาลฎีกา ได้รับการเสนอชื่อให้มาดำรงตำแหน่งแทน ณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา อดีต กรรมการ ป.ป.ช. ที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์

จากนี้ต้องจับตากลเกม-กลไกทางอำนาจ จะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียง ยิ่งในวันที่ “สองลุง” เริ่มอัสดง จะมี “บิ๊กเนม” คนใดเข้ามาเป็นคนคุมเกมแบบเบ็ดเสร็จหรือไม่