‘เศรษฐา’ เผย ลุยต่อยอด ฟรีวีซ่าเชงเก้น-อินเดีย

ที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าหลังร้องขอให้สหภาพยุโรปยกเลิกวีซ่าเชงเก้นในประเทศไทย ว่า กระทรวงการต่างประเทศกำลังเดินหน้าต่อไป ตนได้พูดคุยกับประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีเบลเยี่ยม ประธานสภาสหภาพยุโรป (EU) โดยได้สอบถามถึงเรื่องคนไทยที่ไปอยู่ในEU มีปัญหาหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีปัญหาเลย แต่เราเองก็บอกว่าให้ยกระดับตรงนี้ เพราะจะเป็นการสนับสนุนแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกับประชาชน ทั้งในเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยที่เราไม่เป็นคู่ขัดแย้งหรือมีประเด็นอะไรกัน ซึ่งนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ พยายามทำงานอยู่แต่ต้องใช้เวลา

นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่อยากจะบอกว่าเป็นไปได้หรือไม่ได้ ไม่อยากพูดไปก่อน ยืนยันว่าทุกฝ่ายทำงานเต็มที่ และอยากให้เกิดขึ้นจริง โดยการเดินทางเยือนประเทศเยอรมนีและฝรั่งเศส ตนจะพูดคุยเรื่องนี้ ของพวกนี้ต้องใช้เวลาพอสมควร เช่น ฟรีวีซ่า ระหว่างไทยและจีน มีคนบอกว่าทำไม่ได้ เราก็ทำได้ 1 มี.ค.ก็จะเปิดใช้ รวมถึงถ้าตนจะเดินทางไปอินเดีย จะมีการพูดคุยเรื่องวีซ่าเช่นเดียวกัน

เมื่อถามถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.พรรคก้าวไกล ระบุ รัฐบาลไม่มีแผนสองนอกจากดิจิทัลวอลเล็ต เปรียบเสมือนเอาไข่ใส่ในตะกร้าใบเดียว นายกฯ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วประเทศเรามีนโยบายหลายอย่าง รัฐบาลแถลงนโยบายไปหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกระตุ้นการท่องเที่ยว การเซ็นสัญญาเขตการค้าเสรี (FTA) ที่จะเพิ่มมากขึ้น การลงทุนข้ามชาติ นโยบายการเกษตร  ยืนยันว่าไม่ได้ใส่ตระกร้า แต่ถ้าเกิด สส.ของพรรคฝ่ายค้าน คลางแคลงใจก็จะมีการแถลงข่าวให้ทราบไปเรื่อยๆ เพื่อพูดคุยและชี้แจงให้กระจ่าง ก็อาจจะเป็นความบกพร่องของรัฐบาลที่ไม่แถลง ก็จะมีการพูดคุยกันต่อไป ถือเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะเสนอแนะมา หน้าที่ของรัฐบาลก็รับฟัง และไปพูดคุยกัน ไม่ได้มีอะไรเพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเราทำอะไรอยู่ อาจจะยังพูดไม่เยอะพอ

เมื่อถามว่า นายพิธา มองว่ารัฐบาลไม่มีแผนสำรอง นายกฯ กล่าวว่า มันไม่ใช่ ก็เหมือนคำพูดที่ตนพูดไปแล้ว ตนเชื่อว่าเราต้องมีแผนงาน เพียงแต่อาจจะยังพูดไม่พอ ขอบคุณสำหรับคำเตือนและคำแนะนำ เดี๋ยวเราจะไปพูดคุยให้เยอะขึ้น

เมื่อถามว่า คือให้ความมั่นใจประชาชนใช่หรือไม่ว่าจะเดินหน้าโครงการ นายกฯ กล่าวว่า เราให้ความมั่นใจประชาชนอยู่แล้ว และตนเชื่อว่าประชาชนก็มั่นใจว่ารัฐบาลทำเต็มที่ เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ใช่เฉพาะเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียว เรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ยกระดับสาธารณสุข เรื่องความปลอดภัยระบบสาธารณสุข ชีวิตความเป็นอยู่ การส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมที่ใช้ไฮเทคระยะยาว หรือยกระดับการศึกษา รวมถึงการยกระดับพาสปอร์ตไทยให้ดี มีศักดิ์ศรีมากยิ่งขึ้น ฟรีวีซ่า วีซ่าเชงเก้นยุโรป ซึ่งมีหลายเรื่อง ซึ่งเราพยายามทำอยู่อีกหลายเรื่องเต็มไปหมด ก็ดีจะได้เป็นเวทีในการพูดว่าเราทำอะไรไปบ้าง ไม่ได้คิดอะไร

เมื่อถามว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตในวันที่ 15 ก.พ.นี้ จะคืบหน้าเลยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวมีประชุม ยืนยันอยากให้ทุกฝ่ายพูดมาให้หมด

เมื่อถามว่า ต้องการย้ำกับประชาชนหรือไม่ว่าเหตุที่โครงการล่าช้าเพราะต้องทำให้เกิดความรอบคอบ นายกฯ กล่าวว่า ตนว่าทุกคนทราบอยู่แล้วตั้งแต่ตอนต้น บอกว่าเราไม่ฟังความคิดเห็น แต่การฟังความคิดเห็นต้องใช้เวลาเพราะอยู่ในสังคมที่มีความเห็นต่าง เราเองก็ต้องทำให้ทุกฝ่ายสบายใจมากที่สุดเท่าที่สามารถทำได้  เราพยายามรับฟังแล้ว และก็พยายามแก้ปัญหาและอธิบายแล้ว