‘ทักษิณ’ พักโทษ-ติดบ่วง112 เสริมแรงหนุน ขย่ม ‘รัฐบาล’

‘ทักษิณ’ พักโทษ-ติดบ่วง112 เสริมแรงหนุน ขย่ม ‘รัฐบาล’

“ทักษิณ” เป็น “ศัตรูที่รัก” ของฝ่ายขวาจัด ก็ไม่คงผิด แต่สิ่งที่ไม่แน่ชัดวันนี้ คือ สถานะทักษิณ ในสายตาอนุรักษ์นิยมเดิม ยังเป็นที่รัก หรือศัตรูกันแน่ ในวันที่พลิกขั้วสลัด “ก้าวไกล” ไปเป็นฝ่ายค้านสำเร็จแล้ว

Key Points

  • รัฐบาลเศรษฐา เข้าโหมดเจอด่านหินของจริง “ดิจิทัลวอลเล็ต” โดน “ป.ป.ช.” ตีกรอบ ปรับเงื่อนไข หากละเลยแม้แต่ข้อเดียว ก็สุ่มเสี่ยงขัดกฎหมาย
  • งบประมาณ ปี67 กว่าจะได้ใช้กลางปี อาจกระทบแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล จนกระทบความนิยม “เพื่อไทย” ตามมา 
  • ในจังหวะที่ สว. เตรียมลากรัฐบาลซักฟอก น่าจับตาจะมีทีเด็ด หรือแค่เล่นปาหี่ มวยล้มต้มคนดู
  • อีกเงื่อนไขสำคัญคือ “ทักษิณ ชินวัตร” ศัตรูที่รัก ของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่ใกล้พักโทษ แต่ก็ติดบ่วง “ม.112” 
  • ความน่าสนใจคือ ผู้นำจิตวิญญาณของเพื่อไทย ยังเป็นคนที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ยังคงชมชอบ หรือหมดรักแล้วกันแน่ ในวันที่ยืมมือผลัก “ก้าวไกล” ไปเป็น “ฝ่ายค้าน” สำเร็จ

การเมืองกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน เข้าสู่วงจรอำนาจมาประมาณ 5 เดือน หมดเวลาฮันนีมูน ปรับเข้าโหมดของจริง การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล เจอด่านหินมากขึ้นเรื่อยๆ

นโยบายเรือธง แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท 50 ล้านคน กำลังเจอแรงต้านจากหน่วยงานสำคัญ โดยเฉพาะ ป.ป.ช. กับข้อเสนอแนะที่ค่อนข้างสวนทางกับเงื่อนไขรัฐบาลโดยสิ้นเชิง

การเดินหน้าลุยไฟโดยละเลยคำแนะนำของ ป.ป.ช. แม้แต่ข้อเดียว ย่อมสุ่มเสี่ยงโดนเช็กบิลตามมาทีหลัง มิหนำซ้ำ งบประมาณ ปี2567 กว่าจะได้เบิกจ่ายก็ปาเข้าไปช่วงกลางปีนี้ กว่าเม็ดเงินจะได้แสดงประสิทธิภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการลงทุนต่างๆ ความล่าช้าตรงนี้อาจกระทบเป้าหมายในการบูมเศรษฐกิจของรัฐบาลเต็มๆ

การทำผลงานที่ยังไม่ได้น้ำได้เนื้อจึงเป็นความเสี่ยงที่จะกระทบกับคะแนนนิยมของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้เช่นเดียวกัน

ขณะที่ด่านในสภาตามที่ สว. ตั้งท่าจะอภิปรายรัฐบาล แม้จะไม่ลงมติ แต่หลายฝ่ายก็จับตามองค่อนข้างมากว่า สว.ชุดนี้ซึ่งเคยได้ฉายาสภาฝักถั่ว จะใช้โอกาสนี้พิสูจน์ตัวเองหรือไม่อย่างไร ในจังหวะที่ใกล้ครบวาระกลางปีนี้

หรือสุดท้ายจะเป็นแค่ปาหี่ โชว์มวยล้มต้มคนดู ยังต้องติดตามกันต่อไป เพราะหลายโครงการสำคัญของรัฐบาลยังไม่ได้เริ่มนับหนึ่ง ยังไม่ได้เบิกจ่ายใช้งบประมาณ สังคมก็อยากเห็นว่า สว. จะมีข้อมูลเด็ดอะไรมาเปิดแผลรัฐบาล ถึงความไม่ชอบมาพากลต่างๆ

ทางฝ่ายรัฐบาล พร้อมให้สว.ชำแหละ มีสล็อตว่างช่วงวันที่ 25 มีนาคมนี้

มีการเก็งข้อสอบว่า ทาง สว. จะหยิบยกกรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาขย่มรัฐบาล กรณีรับโทษถูกคุมขังอยู่แต่ในโรงพยาบาลตำรวจ ชั้น14 ชนิดที่ยังไม่ได้ก้าวเท้าเข้าเรือนจำจริงๆ แม้แต่วันเดียว

เผลอๆ ถ้า สว. เอาจริงเรื่องขยี้ปม ทักษิณ ถูกจุดอาจเป็นหัวเชื้อจุดให้กลุ่มต้านลุกพรึบขึ้นมาได้ก็ไม่แน่

เพราะจังหวะก่อนที่ สว.จะอภิปรายรัฐบาล ในส่วนของทักษิณ ที่แทบจะเชื่อขนมกินได้ว่าจะเข้าเกณฑ์พักโทษในวันที่ 18 ก.พ.นี้ ก็ยังมีบ่วงสำคัญในข้อหา มาตรา 112 พันแข้งพันขา

คดีนี้เป็นจุดชี้วัดสำคัญ ไม่เฉพาะสถานะ ทักษิณ ยังอาจส่งผลสะเทือนถึงสถานะรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ไม่มากก็น้อย ในเมื่อผู้นำจิตวิญญาณอยู่ในข่ายสุ่มเสี่ยง ไม่รู้ผลลัพธ์จะออกหัวหรือก้อย

รวมถึงดีลกลับบ้านกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม มีเงื่อนไขในส่วนนี้พ่วงหรือไม่ หรือถึงวันนี้ดีลเดิมที่เคยตกลงกันไว้ เกิดมีการผิดข้อตกลงอะไรอย่างไร ข้อหาหนักจึงแอ็กทีฟกวนใจในช่วงที่ทักษิณใกล้ได้รับการพักโทษ

แถมเจ้าตัวยังถูกพนักงานสอบสวน ปอท.อายัดตัวเพื่อสอบสวน แจ้งข้อหา ซึ่งก็ไม่แน่ว่าถึงตอนนั้นจะได้รับการประกันตัวระหว่างสู้คดี หรือต้องอยู่ในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ต่อไปในสถานที่ซึ่งไม่ใช่โรงพยาบาล

ดังนั้น รัฐบาลที่กำลังเจอปัจจัยเร่งเร้าจากหลายทางที่ส่งให้อุณหภูมิการเมืองพุ่งสูง ส่วนใหญ่ล้วนมาจากปัจจัยที่เกิดขึ้นจากบริบทของเพื่อไทยเองทั้งสิ้น

การจะประคองให้รัฐนาวาลำนี้ให้อยู่รอดปลอดภัยครบ4ปี ตามที่เศรษฐา เคยลั่นวาจาไว้นั้น ตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพที่สุด อาจเป็นคนที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร

ผู้ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมมองว่าเป็น “ศัตรู” ในบางเวลา และในบางเวลามองว่าเป็น “มิตรที่รัก” เมื่อต้องอาศัยประโยชน์ เพื่อหวังผลในทางการเมือง

เรียกง่ายๆ ว่าทักษิณเป็นศัตรูที่รักของฝ่ายขวาจัด ก็ไม่คงผิด แต่สิ่งที่ไม่แน่ชัดวันนี้ คือ สถานะทักษิณ ในสายตาอนุรักษ์นิยมเดิม ยังเป็นที่รัก หรือศัตรูกันแน่ ในวันที่พลิกขั้วสลัดก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านสำเร็จแล้ว