‘แรมโบ้ เสกสกล’ ให้ข้อมูล ตำรวจ ปปป.เร่ง เอาผิดผู้ต้องหาขบวนการตบทรัพย์

‘แรมโบ้ เสกสกล’ ให้ข้อมูล ตำรวจ ปปป.เร่ง เอาผิดผู้ต้องหาขบวนการตบทรัพย์

‘แรมโบ้ เสกสกล’ ให้ข้อมูล ตำรวจ ปปป.เร่งดำเนินคดี ผู้ต้องหาขบวนการตบทรัพย์ หลังแจ้งความไว้6ครั้ง เพราะถูกคุกคามข่มขู่ แต่คดีไม่คืบ

7 ก.พ.2567 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ "แรมโบ้อีสาน" เดินทางเข้ามาพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม กรณีของนายเอกลักษณ์ วารีชล หนึ่งในขบวนการตบทรัพย์ อธิบดีกรมการข้าว

 โดยนายเสกสกล ระบุ วันนี้มาเพื่อติดตามเร่งรัดการดำเนินคดีของตนเองที่เคยแจ้งความไว้ในหลาย สน. ตั้งแต่ปี 2565 -2566 ในคดี ที่ถูก กรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท และเคยไปแจ้งความไว้รวมทั้งหมด 6ครั้ง เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นาย อ.  หนึ่งในผู้ต้องขบวนการตบทรัพย์ เพราะคดียังไม่มีความคืบหน้า  และเป็นคดีลักษณะเดียวกัน คือ มีผู้กระทำความผิดคือ นาย อ. เหมือนกัน และเขายังทำแล้วทำอีก ส่วนรายละเอียดคดี ขอปรึกษา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ก่อน แต่ที่อยากให้เร่งรัดการดำเนินคดีเพราะบุคคลนี้ เพราะมีพฤติกรรมซ้ำซาก ทำแล้วทำอีกได้ใจ และมองว่าคนคนนี้ เป็นอันตรายต่อสังคม และเป็นอันตรายต่อบ้านเมือง ถ้าปล่อยให้ใช้พฤติกรรมไปกระทำแบบที่ตนเองโดนกระทำ จนน้ำตาตกใน รู้สึกเจ็บปวดมาก

   “และที่ผ่านมาเขาคุกคามผม ขนาดผมเป็นถึงผู้ช่วยนายกฯ ยังโดนกระทำ แล้วประชาชนตาสีตาสา ประชาชนคนธรรมดาทั่วไป เขาจะอยู่กันยังไง ไม่อยากให้พฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้น และไม่อยากให้คนคนนี้ มีที่ยืนในสังคมไทย และได้นำข้อมูลที่มีทั้งหมดมายื่นให้ และให้เร่งรัดดำเนินคดี มาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ รวมถึงหลักฐานที่มี เช่น คลิปเสียงที่เคยบันทึกไว้ด้วย"

นายเสกสกล ยังกล่าวว่า นายอ. มากรรโชกทรัพย์ ข่มขู่ตบทรัพย์ตนเองทุกรูปแบบ จนตนเองทนไม่ไหว ต้องไปแจ้งความ และปรึกษาผู้ใหญ่หลายท่าน และยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีอะไรผิดสักเรื่อง ส่วนตัวเลขที่ตนเองถูกกรรโชกทรัพย์ หลักหลายแสนบาท ตั้งแต่ปี65ต่อเนื่องปี 66 และพฤติกรรมของนายอ. ก็ไม่หยุด และตนเองยังถูกคุมคามตลอด “ไม่หยุดจะเอาให้ได้ พอไม่ได้ก็จะไปร้องคนโน้นคนนี้ ให้มีตัวละครใหม่มาเล่นงานผม”

 อย่างในปี2566 ก็มีไปชวนหน้าใหม่ นาย ว. มาใส่ร้ายตนเองอีก และกรณีนี้เคยเป็นข่าว และตนเองเคยแถลงข่าวตอบโต้ไปแล้วที่ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงเคยเตือนแล้วว่าระวังถูกนาย อ.ใช้เป็นเครื่องมือ และในฐานะที่ยืดหยัดเรื่องความถูกต้องชอบธรรม ว่า พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ไม่ต่างจากแก๊งค์ตบทรัพย์ แก๊งค์ 18 มงกุฎ เคยพูดไป ก็ไม่มีใครฟัง และข่าวก็เงียบไป 

 และสำหรับคดีของตนเอง ไม่มีนาย ศ. ส่วนมี นายจ. หรือไม่ ยังไม่ขอตอบแต่อยู่ในกระบวนการสอบสวนอยู่แล้ว ทั้งนี้ ยังไม่ขอตอบรายละเอียดในสำนวน ขอให้การกับเจ้าหน้าที่ก่อน และในตอนนั้นตนเองก็อยากจะใช้วิธีล่อจับเหมือนกัน แต่เทคนิควิธีการขอให้ข้อมูลกับตำรวจก่อนเช่นกัน

นายเสกสกล ยืนยันว่า วันนี้ไม่ได้มาเปิดหน้าชน แต่ในฐานะผู้ถูกกระทำ และนำสิ่งที่ไม่ชอบมาทำกับตนเอง ตนจึงอยากให้เอาคนผิดที่ตบทรัพย์มาลงโทษตามกฎหมายไม่อยากให้ไปทำกับใคร  และเชื่อว่า พยานหลักฐานที่ตนเองมี ได้ให้ไว้ตอนแจ้งความที่ สน.หมดแล้ว และเป็นรายละเอียดที่สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้เลย

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นประเด็นทางการเมืองหรือไม่ นายเสกสกล ระบุว่า ไม่ได้เป็นประเด็นทางการเมือง แต่เป็นของการถูกกรรโชกทรัพย์  ก่อนที่ จะนำเอกสารหลักฐานเข้าไปให้ข้อมูลกับรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและชุดสืบสวน โดยบอกว่า หลพูดคุยกับตำรวจแล้ว จะมาเปิดเผยรายละเอียดที่ถูกตบทรัพย์ให้สื่อมวลชนรับทราบอีกครั้ง

ขณะเดียวกัน ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ประชุมคณะทำงานชุดใหญ่ ที่ประกอบด้วย ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน ปปป. /พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม /รวมถึง พนักงานสอบสวน ปอท. ภายหลังจากที่ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมาดูแลคดีนี้ 
 
 โดยการประชุม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกว่า จะมีการประชุมกันในทุกเรื่องที่เป็นความคืบหน้าในการทำคดีนี้ เพื่อวางแผนตั้งรับการทำงาน และขยายผลบุคคลที่ร่วมกระทำความผิด รวมถึงความชัดเจนในการออกหมายจับเพิ่มเติม และเตรียมขยายผลวงความเสียหายคดีตบทรัพย์เพิ่มเติม ที่พบว่า มีความเสียหายอีก1-2วง ที่ยังรอผู้เสียหายนำหลักฐานและเข้ามาแจ้งความดำเนินคดี