‘นายกฯ’ ดอดไปสุวรรณภูมิ ตั้ง KPI นทท.ขาเข้ารอไม่เกิน 30 นาที ขาออกไม่เกิน2ชม.

‘นายกฯ’ ดอดไปสุวรรณภูมิ ตั้ง KPI นทท.ขาเข้ารอไม่เกิน 30 นาที ขาออกไม่เกิน2ชม.

“เศรษฐา” ดอด ลงพื้นที่ดูระบบตรวจคนเข้าเมือง สุวรรณภูมิ ก่อนยกระดับสนามบินทั่วประเทศ มี.ค.นี้ สั่ง ลิงค์ระบบ แก้ปัญหานักท่องเที่ยวรอนาน ตั้ง KPI ขาเข้ารอตรวจลงตราไม่เกิน 30 นาที ขาออก ไม่เกิน 2 ชม. หวัง เพิ่มเวลาจับจ่ายในประเทศไทย

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยระบบตรวจคนเข้าเมืองที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยไม่ได้แจ้งวาระงานล่วงหน้า ว่า ประมาณต้นเดือนมี.ค.นี้ จะมีการยกระดับสนามบินทั่วประเทศ เป็นแผนงานใหญ่ โดยสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งระบบตรวจคนเข้าเมือง ระบบจัดการทั้งหมดก็เป็นเรื่องสำคัญ ก็อยากไปเห็นด้วยตา เพราะมีโอกาสที่จะทำให้ดีขึ้นอีกเยอะมาก เริ่มตั้งแต่งานระบบไอทีซึ่งมีหลายเจ้ามาทำ อาจไม่เชื่อมโยงกัน ความเสถียรของระบบ และเรื่องของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองก็ยังไม่พอ ตนมีโอกาสไปดูพื้นที่ที่เขาพักผ่อนกัน ความเป็นอยู่ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็ได้สั่งให้มีการปรับปรุงไป 

นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ในส่วนของระบบตรวจคนเข้าเมืองที่ล่มบ่อย ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งก็ต้องแก้ไขอย่างบูรณาการ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของระบบ เนื่องจากมีหลายระบบเข้ามา โดยระบบแบ็คอัพก็ไม่ดี พอคนเข้ามาเยอะระบบมันหน่วง ยกตัวอย่างเวลาคนเข้ามาเยอะๆ ต่อคนKPI ประมาณ 45 วินาที แต่เมื่อคนเข้ามาเยอะ ทุกจุดมีการใช้งานเยอะ กลายเป็นนาทีกว่า ทำให้ช้าอีก ตรงนี้ก็เป็นปัญหาใหญ่ วันนี้จะมีการประชุมช่วงบ่ายและจะประชุมอย่างต่อเนื่องทั้งสัปดาห์นี้ จะได้แก้ไขอย่างบูรณาการ คงใช้เวลาประมาณ 12 เดือน คงจบหมดได้ 

นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวขาออกซึ่งคิวยาวมากนั้น ตั้งแต่ตรวจลงตราพาสปอร์ต เอ็กซเรย์กระเป๋า จนแบ็คอัพออกมาข้างนอกทำให้เวลาเช็คอินพื้นที่ก็ไม่เพียงพอ อย่างที่ตนพูดไป ขาออกเราเองไม่อยากให้มีการตรวจเช็กเยอะ แต่มีปัญหา 2 อย่าง คือ เรื่องคนที่อยู่เกินกำหนด และคนที่มีความผิดหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะฉะนั้น ตรงนี้เรื่องระบบไอทีต้องลิ้งค์ให้ได้หมด ถ้าเป็นระบบออฟติคที่เช็คได้ก็ต้องตรวจให้ได้และแจ้งเตือนขึ้นมาให้ได้ อันนี้เป็นแผนระยะกลาง ที่ให้นโยบายไปและจะเรียกประชุมอีกครั้ง ถ้าเกิดไม่ต้องให้มีการตรวจเป็นเคาน์เตอร์ที่ต้องประทับตราแล้วออกไป จะทำให้เวลาในการเดินทางออกนอกประเทศสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทาง ตั้งแต่เข้ามาประเทศไทยก็อยากให้มีความสะดวกสบายตั้งแต่ลงเครื่องบิน มีช่องทางเข้าชัดเจนไม่ต้องนั่งรถบัสให้เปียกฝน เข้ามาถึงก็ไม่ต้องคอยนานเกิน 30นาที รับกระเป๋าแล้วออกไปได้ ระบบแท็กซี่เข้ามาก็ต้องเหมาะสม ถูกต้อง 

นายกฯ กล่าวว่า ขากลับมาก็ไม่อยากให้เข้ามาเกิน2ชั่วโมง เมื่อสักครู่ตนสอบถามไปใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง เรื่องนี้เราก็เห็นใจนักท่องเที่ยว แทนที่จะเอาเวลาไปท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยเพิ่มก็ต้องมาเสียเวลามาสนามบิน ตรงนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่จะทำให้ประเทศไทยเรื่องการท่องเที่ยวดีขึ้น     

อย่างไรก็ตาม นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้จำนวนนักท่องเที่ยวเทียบเท่าก่อนโควิดแล้ว ก็ต้องใช้วิธีบริหารจัดการกันไป ให้ KPI ไปว่า นักท่องเที่ยวถ้าเข้ามาแล้ว ไม่ควรจะคอยประทับตราหนังสือเดินทางเกิน 30 นาที ขณะที่การรับกระเป๋าที่ต้องรอนานนั้น ตนได้สอบถามมา ก็เห็นว่าดีขึ้นแล้ว ก็จะพยายามทำให้ดีขึ้นอีกในส่วนของงานระบบสายพาน

นายกฯ กล่าวว่า กำลังพลของตำรวจตม. ที่ยังไม่เพียงพอ บ่ายนี้อาจจะเรียกผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมาประชุม ก็ได้ขอไปทางสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพราะเป็นปัญหาระยะยาวที่อยากแก้ไขรวดเดียวเลย