'วันนอร์' ขอรอคำวินิจฉัยศาล ปม 'ก้าวไกล' แก้ม.112 พันดันกฎหมายนิรโทษหรือไม่

'วันนอร์' ขอรอคำวินิจฉัยศาล ปม 'ก้าวไกล' แก้ม.112 พันดันกฎหมายนิรโทษหรือไม่

ประธานสภา ขอรอฝ่ายกฎหมายเช็กละเอียดคำวินิจฉัยศาลรธน. ปม "ก้าวไกล" แก้ม.112-ล้มล้างการปกครองก่อนเคาะที่ประชุมจะพูดโยงถึงสถาบันฯได้อีกหรือไม่ ยันยึดหลักกฏหมาย-ข้อบังคับฯ

 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ที่ไม่สามารถใช้กระบวนการนอกสภาฯได้ โดยก่อนหน้านี้ก็มีการยื่นกฎหมายนิรโทษกรรม ที่ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ด้วย จะมีการทำความเข้าใจอย่างไรกับสมาชิกอย่างไรว่า ต้องรอดูคำวินิจฉัยทั้งหมดของศาลฯก่อน เพื่อนำมาประกอบและให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมถึงฝ่ายกฎหมายของประธานสภาฯ ดูรายละเอียด และเสนอกลับมาอีกครั้ง

เมื่อถามว่าจะมีการยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กับ 44 สส.พรรคก้าวไกลที่ได้เคยเสนอร่างกฎหมายแก้ไขมาตรา112 เมื่อปี 2564 จะส่งผลอย่างไรหรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องนอกสภาฯ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของผู้ที่ร้องและผู้ถูกร้องต่อองค์กรอิสระทั้งหลาย ตนไม่อาจอาจจะก้าวล่วงได้ 

เมื่อถามว่าต่อจากนี้จะมีการควบคุมการประชุมสภาฯอย่างเข้มงวดหรือไม่ จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้หยุดการกระทำ ประธานสภาฯ กล่าวว่า เราคงดูไปตามกฏหมาย ทางสภาฯก็มีฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายกฎหมายคอยกลั่นกรอง เราก็ดูไปตามขั้นตอน เป็นเรื่องปกติทั่วไป ไม่มีอะไรเข้มงวดหรือไม่เข้มงวด เป็นไปตามกฏหมายข้อบังคับของสภาฯ 

เมื่อถามว่าหลังจากนี้การประชุมสภาฯไม่ควรจะไปพูดพาดพิงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า โดยปกติแล้ว มีข้อบังคับที่กำหนดไว้ไม่ให้พูดถึงเรื่องสถาบันฯ และห้ามพูดถึงบุคคลภายนอก หากพูดออกไปผู้พูดก็ต้องรับผิดชอบ ทางสภาฯจะถือข้อบังคับและกฎหมาย 

เมื่อถามย้ำว่า ต่อจากนี้เรื่องมาตรา 112 จะไม่สามารถนำมาพูดในสภาฯได้อีกแล้วใช่หรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวว่า ตรงนี้ตนไม่สามารถจะวิจารณ์ได้ ต้องขอดูรายละเอียดของคำวินิจฉัยทั้งหมด และฝ่ายกฎหมายจะเสนอให้ประธานและรองประธานสภาฯ รับทราบต่อไป