กมธ.สภาฯลุยสอบงบ 'กรมการข้าว-ฝนหลวงฯ' คาใจจัดงานวันข้าว งบเพิ่ม10ล้าน

กมธ.สภาฯลุยสอบงบ 'กรมการข้าว-ฝนหลวงฯ' คาใจจัดงานวันข้าว งบเพิ่ม10ล้าน

“กมธ.ติดตามงบฯ” ลุยสอบงบ "กรมการข้าว-กรมฝนหลวงฯ" - “ณัฐพงษ์” เผย อธิบดีกรมฝนหลวงรับปาก เข้าชี้แจงกมธ. 15 ก.พ. ส่วนอธิบดีกรมการข้าวรอหนังสือชี้แจง ปัด เครื่องมือ "นักตบทรัพย์" ด้าน “กรุณพล”คาใจงบวันข้าวแห่งชาติงอกจาก 5 ล้าน เพิ่มเป็น 15 ล้าน แถมทีโออาร์ให้จ้างออร์แกไนซ์

ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการรศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ  แถลงกรณีมีการจับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียนชื่อดัง และนายยศวริศ ชูกล่อม  หรือ เจ๋ง ดอกจิก อดีตสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ คดีเรียกเงินจากอธิบดีกรมการข้าวว่า การบรรจุวาระตามที่ผู้ร้องคือนายศรีสุวรรณ ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนกับกมธ.ทั้งกรมฝนหลวงและกรมการข้าวนั้น กมธ.มีหน้าที่วอเคราะห์และพิจารณาศึกษาอย่างตรงไปตรงมา สัปดาห์ที่ผ่านมาตนก็ได้รับคำถามว่า ในส่วนของงบประมาณโครงการนี้ส่อเค้าว่าจะทุจริตหรือไม่อย่างไร ซึ่งเราก็พยายามให้พื้นที่กมธ.ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 

ทั้งนี้ได้ให้ฝ่ายเลขาตรวจสอบข้อร้องเรียนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นอกจากนี้ได้ประสานไปยังอธิบดีทั้ง2กรมปรากฎว่า ได้รับตอบรับจากอธิบดีกรมฝนหลวงว่าวันที่15ก.พ.จะมาให้ข้อมูลกับกมธ.หลังจากนี้จะมีการขอมติที่ประชุมและจะทำหนังสือเชิญเพื่อบรรจุวาระต่อไป

ขณะที่กรมการข้าวมีการประสานไปแต่ยังไม่ได้รับการยืนยันแต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าอธิบดีจะขอดูหนังสือที่ประชุมก่อน ส่วนตัวมองว่าเราจะใช้พื้นที่ในกมธ.เปิดโอกาสให้อธิบดีได้มแสดงความบริสุทธิ์ใจและกมธ.ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และเป็นเวทีที่ทุกคนได้แสดงออกถึงข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า ตอนมายื่นหนังสือนายศรีสุรรณได้บอกเหตุผลหรือไม่ว่าทำไมต้องเป็นสส.พรรคก้าวไกลมารับหนังสือ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้บอก แต่ยืนยันว่าต้องเป็นก้าวไกล

เมื่อถามย้ำว่ามองหรือไม่ว่าพรรคก้าวไกลอาจถูกเป็นเครื่องมือได้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนนั้นได้ผ่านมาแล้ว และได้ปรากฎว่ามีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าทั้ง 2 คน ใช้กมธ.เพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียกตบทรัพย์จริง

ส่วนเนื้อหาในข้อร้องเรียนที่ให้เลขาฯตรวจสอบพบว่า ข้อมูลทุกอย่างในข้อร้องเรียนไม่ว่าจะเป็นชื่อโครงการ จำนวนงบประมาณต่างๆ ไม่ได้เป็นข้อความเท็จ ดังนั้น เราต้องดำเนินตามกระบวนการต่อไป ส่วนข้อกล่าวหาอื่นๆ เช่น มีการล็อกสเปก การไปศึกษาดูงานกับต่างประเทศกับผู้รับเหมา ก็ต้องตรวจสอบต่อไป

ด้านนายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกมธ.กล่าวว่า ตนได้เคยสอบถามจากรองอธิบดีกรมการข้าวที่มาชี้แจงกับกมธ.เมื่อเดือนต.ค. 66 ถึงข้อสงสัยต่างๆที่มีประชาชนและข้าราชการในกรมการข้าวร้องเรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณที่วันนี้งบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ในโครงการบีซีจีข้าวรักโลกของกรมการข้าว ก็ได้ถูกโอนย้ายไปเป็นเงินอุดหนุนเกษตรกรแล้ว แต่ยังมีข้อสงสัยในบางโครงการ แม้จะเป็นเงินเล็กน้อย

เช่น งานวันข้าวแห่งชาติในปี 66 ใช้งบในการจัดงาน 5 ล้านบาท แต่สิ่งที่เราลงไปเจอคือมีการใช้ให้หน่วยงานราชการ เจ้าหน้าที่ของภาครัฐ​ เป็นผู้จัดจ้างงาน เป็นผู้ทำงาน และใช้อุปกรณ์ภาครัฐในการจัดงาน ทั้งๆที่ในทีโออาร์เขียนว่าให้ออร์แกไนซ์เป็นผู้จัดงาน  ซึ่งเป็นคำถามที่เราถามไปยังกรมการข้าวแต่จนบัดนี้ ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้วยังไม่ได้คำตอบ

 และล่าสุดในวันที่ 4-6 มิ.ย. จะมีการจัดงานวันข้าวแห่งชาติ ซึ่งสมเด็จพระเทพฯ​ เสด็จเป็นประธานในงานนี้โดยกรมการข้าวใช้งบ 15 ล้านบาท เราจึงอยากขอคำชี้แจงจากอธิบดีกรมการข้าวว่าเหตุใดเมื่อพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จมาเป็นประธาน ทำไมถึงต้องเพิ่มงบขึ้นอีก 10 ล้านบาท ถือว่าเหมาะสมหรือไม่กับสภาพเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันนี้ และผู้ใดเป็นผู้ได้รับสัมปทานในงานนี้ เป็นเจ้าเดิมหรือไม่ ยังจำเป็นต้องใช้พนักงานของภาครัฐเข้ามาจัดซื้อจัดจ้างและเข้ามาทำงานเองหรือไม่ เพราะข้อกล่าวอ้างว่าเอกชนไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอ 

นายกรุณพล กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นยังมีงบประมาณการจัดซื้อปุ๋ยจุลินทรีย์ รวมถึงโครงการข้าวรักโลก ทั้งที่ปัจจุบันเราทราบดีว่าปุ๋ยในประเทศขาดแคลน ทำให้ราคาปุ๋ยสูงขึ้นจาก 700 บาท เป็น 1,000 บาท ซึ่งทำให้เกษตรกรเดือดร้อนจากราคาปุ๋ย ทำให้เกิดโครงการปุ๋ยจุลินทรีย์ แต่ตัวชี้วัดการใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ทำให้ผลลัพธ์การผลิตข้าวเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน

ซึ่งเราเห็นงบประมาณบางส่งที่ส่งปุ๋ยจุลินทรีย์ไปตามศูนย์ข้าวต่างๆ ในบริมาณที่เท่ากัน ทั้งๆที่ปริมาณศูนย์ข้าวแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน ซึ่งตั้งแต่รองอธิบดีกรมการข้าวเข้ามาชี้แจงจนถึงบัดนี้ยังไม่ได้คำตอบ และได้เพียงแค่คู่มือการใช้ปุ๋ย รวมถึงการพัฒนาพันธุ์ข้าวตั้งแต่อธิบดีคนปัจจุบันขึ้นมารับตำแหน่งมีความล่าช้า และมีข้อสงสัยมากมาย เราจึงหวังว่าข้อสงสัยเหล่านี้อธิบดีจะเป็นผู้มาตอบคำถามด้วยตัวเอง

ขณะที่น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกมธ. กล่าวว่า ตั้งแต่กมธ.ได้รับหนังสือร้องเรียนจากนายศรีสุวรรณและนายยศวริศ นั้นมีการตั้งข้อสังเกตว่าอยากให้ประธานกมธ.หรือเป็นสส.ของพรรคก้าวไกล ลงไปรับหนังสือแต่เมื่อเรื่องถูกส่งเข้ามาในกมธ.แล้วก็เป็นหน้าที่ของกมธ.ที่จะต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา

ซึ่งในส่วนของกรมฝนหลวง มีข้อสังเกตที่แนบมาในหนังสือร้องเรียนคือมีการล็อกสเปกการจัดซื้อเครื่องบินจำนวน 2 ลำ มูลค่า 1,188 ล้านบาท โดยให้ประเทศ ประเทศเดียวในการส่งทีโออาร์เข้าร่วมประมูล และมีการไปดูงานที่บริษัทที่ส่งทีโออาร์เข้ามาร่วมประมูล