‘ก้าวไกล’ ยัน แก้ ’ม.112‘ ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ชวน จับตาคำวินิจฉัยศาล

‘ก้าวไกล’ ยัน แก้ ’ม.112‘ ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ชวน จับตาคำวินิจฉัยศาล

”โฆษกก้าวไกล“ ยัน ยื่นแก้ “ม.112” ไม่เท่ากับล้มล้างการปกครอง เผย ทำเต็มที่แล้วในการชี้แจงข้อกล่าวหาผ่านกระบวนการศาล ชวน ปชช. จับตาคำวินิจฉัย 31ม.ค.นี้

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยคำร้องที่เกี่ยวข้องกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยกเลิก ม.112 เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้งเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ ม.49 วรรค1หรือไม่ 31ม.ค.นี้ นั้น เรื่องนี้จะต้องมีการหารือกันภายในพรรคก่อน จะมีใครไปฟังคำวินิจฉัย คาดว่าจะเป็นวันที่ 29 ม.ค.นี้ แล้วจะมีการแจ้งต่อสาธารณะอีกครั้ง แต่ในวันที่ 31 ม.ค. ก็มีการประชุมสภา จึงคิดว่าหน้าที่ที่สำคัญของ ส.ส.พรรคก้าวไกลคือการทำหน้าที่ในสภา เนื่องจากคาดว่าจะมีการพิจารณารายงานเกี่ยวกับระบบเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) รวมถึงญัตติที่มีความสัมพันธ์อีกหลายด้านด้วย

“ยืนยันความบริสุทธิ์ ว่าการกระทำที่ผ่านมา ไม่ว่าจะพรรคก้าวไกล หรือ ส.ส.ของพรรค ไม่มีการกระทำใดที่เข้าข่ายการล้มล้างการปกครอง กรณีส.ส.ชุดที่แล้วของพรรค ยื่นร่างแก้ไข ม.112 เราต้องยืนยันว่า การยื่นร่างกฎหมายดังกล่าว ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง“ นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในเชิงเนื้อหาเราก็ยืนยันเช่นกันว่า เนื้อหาสาระในการปรับปรุงแก้ไข ม.112 แม้จะมีบางส่วน ที่บางฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ไม่ได้มีเนื้อหาส่วนไหนที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการปรับอัตราโทษ หรือเหตุยกเว้นความผิดและโทษ ทั้งนี้ เราทำเต็มที่แล้วในการตอบคำถาม และชี้แจงทุกข้อกล่าวหาผ่านกระบวนการของศาล เหลือเพียงการรอคำวินิจฉัยของศาลว่าจะเป็นเช่นไร

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนร่วมกันจับตาคำวินิจฉัยครั้งนี้เพราะไม่ได้ส่งผลแค่พรรคก้าวไกลอย่างเดียว แต่จะเป็นการวางบรรทัดฐานสำคัญสำหรับการเมืองไทยในอนาคต หวังว่าคำวินิจฉัยจะออกมายืนยันในสิ่งที่เราได้สื่อสารมาโดยตลอด