'ชูวิทย์' เล่าเรื่อง 'สีสากกะเบือ' เตือนสื่ออย่าเป็นศาลาคนชั่วแสร้งทำดี

'ชูวิทย์' เล่าเรื่อง 'สีสากกะเบือ' เตือนสื่ออย่าเป็นศาลาคนชั่วแสร้งทำดี

หมายถึงใคร! 'ชูวิทย์' เล่าเรื่อง 'สีสากกะเบือ' ส่งตรงจากโรงพยาบาลที่สก็อตแลนด์ เตือนสื่ออย่าเป็นศาลาคนชั่วแสร้งทำดี ลั่นของเก๊ก็คือของเก๊วันยังค่ำ 

เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2567 จากกรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว" โพสต์ข้อความจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาลที่สก็อตแลนด์ ระบุว่า "ข้อความของนายชูวิทย์ จาก รพ.ในสก็อตแลนด์ ... “ถึงแม้ผมใกล้จะไปดินแดนแห่งความสงบ ผมยังเรียกร้องความยุติธรรมที่ถูกกลั่นแกล้งจาก “ผู้เสแสร้งทำดีเพื่อสังคม” ในชีวิตของผมเคยถูกคนกลั่นแกล้งสารพัด แม้จะถึงวาระสุดท้าย แต่ผมยังยึดหลัก “ ชีวิตกับสู้ของคู่กัน” สักวันความจริงจะปรากฎ ไม่ว่านานสักเพียงใด 

ของเก๊ มันคือของเก๊วันยังค่ำ ร้องเรียนหวังเงินทองนี่เอง มิน่าเล่าเฝ้าร้องเรียน ขอความเป็นธรรมให้ผมก่อนจะหลับตาในดินแดนความสุขอันเป็นนิรันดร 

แล้วได้แต่หวังว่าคงมีสักคนที่ยังคิดถึงผมบ้าง

26 มกราคม 2567"

\'ชูวิทย์\' เล่าเรื่อง \'สีสากกะเบือ\' เตือนสื่ออย่าเป็นศาลาคนชั่วแสร้งทำดี

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 23.23 น. วันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา แฟนเพจเฟซบุ๊ก "สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว" โพสต์ข้อความเพิ่มเติมอีกโพสต์ ระบุว่า 

"ชูวิทย์" เตือนสื่อ

“กาลครั้งหนึ่ง ไม่นานสักเท่าไหร่

มีโมฆะบุรุษนาม “สีสากกะเบือ” ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เที่ยวหากินตามงานวัดหลอกชาวบ้านไปวันๆ เมื่อเห็นว่าหลอกคนได้ง่าย แค่เล่าเรื่องโกหกพกลมคนก็เชื่อ จึงคิดการใหญ่ ทำตัวเป็น “คนดีศรีสังคม”

อันสังคมไทยมักเชื่อถือคน “มือถือสากปากถือศีล” แค่ทำท่ากราบไหว้พระสงฆ์องค์เจ้า คนไทยก็หลงเชื่อลีลาชี้นิ้วโกหก อาชีพร้องเรียนแล้วแบล็คเมล์มันช่างหากินง่ายเสียเหลือเกิน

เรื่องไหนเห็นว่าจะได้สตางค์ไม่มีรีรอ ทำตัวดั่ง “พระเวชสันดรมาโปรดสัตว์” แต่ที่ไหนได้พอโปรดได้ที่ก็ตีกิน หากไม่ใช่ของแท้ย่อมหวั่นไหว

\'ชูวิทย์\' เล่าเรื่อง \'สีสากกะเบือ\' เตือนสื่ออย่าเป็นศาลาคนชั่วแสร้งทำดี

เสมือนหนึ่งในภาษากฎหมายเรียก “ขู่กรรโชก” กระตุกให้สะดุ้งแล้วรอเคลียร์ เพราะเกรงกลัวอิทธิพลคนใช้สื่อเป็นเครื่องมือ บรรดาข้าราชการกลัวหัวหดเมื่อได้ยินชื่อ “สี”

พวกสีขาวไม่อยากมีเรื่องต่อความยาวสาวความยืด จึงจ่ายดีกว่า ยิ่งพวกเทาๆ แทบจะรีบเอาเงินสดใส่ลังเบียร์ไปแกล้งลืมไว้ถึงที่บ้าน

สังคมมันบัดซบ คนชั่วมันถึงหากินแบบนี้ได้ 

ขอเตือนสื่อไม่ให้เป็นส่วนหนึ่งของ “ศาลาคนชั่วแสร้งทำดี” มันช่างเลวกว่า “คนเลวที่ยอมรับว่าเลว” สังคมต้องระวัง เพราะเชื่อหรือไม่ว่ารายนี้ไม่ใช่รายแรก และไม่ใช่รายสุดท้ายแน่นอน 

คนใกล้ตายอย่างผมไม่เสียเวลาเล่าเรื่องโกหก

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

26 มกราคม 2567”