'ภูมิธรรม'ชี้แก้รธน.ต้องรอบคอบหวั่นโดนยื่นศาลรธน.-ปัดวางธงประชามติ 2 รอบ

'ภูมิธรรม'ชี้แก้รธน.ต้องรอบคอบหวั่นโดนยื่นศาลรธน.-ปัดวางธงประชามติ 2 รอบ

'ภูมิธรรม'ขอดูก่อนใช้ร่างแก้ไขรธน.ของ 'รัฐบาล' หรือ 'เพื่อไทย' เป็นร่างหลัก รับไม่ได้วางธงทำประชามติ 2 ครั้ง แต่เป็นไปตามคกก.ศึกษา ชี้ตอนนี้การเมืองยังไม่ปกติ มองฟ้องร้องขึ้นมา จนไปถึงศาลรธน. ตัดสินจะมีปัญหา

ที่ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง การแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าจะเลือกใช้ร่างของรัฐบาลหรือร่างของพรรคเพื่อไทย ว่า เป็นเรื่องของการเมือง ซึ่งหลังจากที่ตนเดินทางกลับจากประเทศอเมริกา ทราบว่ามีการตั้งเรื่อง มาถึงที่โต๊ะทำงานของตนแล้ว และจะไปดูรายละเอียด ซึ่งคาดว่าไม่เกิดปลายเดือนกุมภาพันธ์จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้ 

ส่วนการตั้งประเด็นให้เกิดความขัดแย้ง จะเป็นช่องทางให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าไม่ใช่ตั้งประเด็นให้เกิดความขัดแย้งแต่ทางฝ่ายพรรคการเมืองและรัฐบาลยังมีความเป็นห่วง ว่าจะทำประชามติให้ถูกต้องกี่ครั้ง มีหลายคนยืนยัน ว่าการทำประชามติ 2 ครั้งน่าจะเพียงพอ ซึ่งถ้าทำ 2 ครั้งจริงก็จะประหยัดงบประมาณ ไป 3,000 ล้านบาท เราไม่ได้ห่วงว่ารัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน สิ่งที่เรานำเสนอคือ หากมีหลักประกันว่าผ่านชัดเจน เสียเงินเพิ่มเราก็ยินดี แต่หากสามารถประหยัดได้ และศาลรัฐธรรมนูญชี้แจงได้ชัดเจน ก็สามารถทำได้
 

"หากตอนนี้รัฐบาลไปถามรัฐศาลรัฐธรรมนูญ ก็ยังไม่มีคำตอบเพราะเหตุยังไม่เกิด เป็นไปได้ว่าศาลจะไม่วินิจฉัย หรือไม่รับเรื่องไว้ แต่หากเสนอเข้าสภาและมีความขัดแย้ง ก็สามารถยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้ ซึ่งไม่ได้ขัดอะไรกลับที่คณะกรรมการชุดที่รัฐบาลตั้งขึ้นได้ดำเนินการ ซึ่งเรามั่นใจว่า 2 ครั้งน่าจะผ่านได้ แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญยืนยัน ให้ทำ 3 ครั้ง เราก็เดินหน้าทำ 3 ครั้ง"นายภูมิธรรมกล่าว 

นายภูมิธรรม ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้วางธงไว้ว่าอยากทำประชามติ 2 ครั้ง แต่เป็นไปตามที่นายวุฒิสารตันชัย หนึ่งใน คณะกรรมการศึกษาแนวทางทำประชามติ แก้รัฐธรรมนูญได้ศึกษาว่าการทำประชามติ 2 ครั้งน่าจะเป็นไปได้ แต่ยังมีข้อโต้แย้งสำหรับบางคน ดังนั้นหากทำ3 ครั้งก็ไม่มีใครโต้แย้งแต่มีข้อเดียวคืองบประมาณจะมากขึ้นไปหรือไม่
 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลักเกณฑ์ของรัฐบาลว่าจะใช้ร่างไหนมีหลักการอย่างไรนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องของสภาให้สภาว่าไป รัฐบาลรอสิ่งที่เราศึกษา ถ้าชัดเจนเมื่อไหร่ก็จะนำร่างรัฐบาลเข้าสู่สภา ส่วนพรรคการเมืองจะมีความเห็นอย่างไรก็ว่ากันไป แต่นี่เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำในสิ่งที่เห็นแล้วควรทำ ตามที่ได้มีการแถลงนโยบายไว้ต่อสภา ก็ต้องเดินตามกันไป

เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองจะมีโอกาสคุยกันให้ตกผลึกเพื่อเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องการเมืองเพียงอย่างเดียว มันมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคประชาชน ถ้ามีเกิดมีการฟ้องร้องขึ้นมา จนไปถึงศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน มันก็จะมีปัญหา 

"ยืนยันว่าพักร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหาอะไรภายในทิศทางเดียวกัน แต่ฝ่ายค้านจะเห็นด้วยหรือไม่ ตนก็ไม่แน่ใจต้องถามฝ่ายค้าน ตอนนี้การเมืองยังไม่เข้าสู่สภาวะปกติ ที่มีการทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ เป็นเรื่องที่ว่าใครมีจุดยืนไหนก็พยายามอยู่ที่จุดยืนนั้น ไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ว่าจะเกิดขึ้นเป็นอย่างไร ยังไงตรงนี้ก็ยังเป็นปัญหาอยู่"