'ปิยบุตร' ชมร่าง รธน.เพื่อไทย แต่เชียร์ก้าวไกล ทำร่างมาสู้หวังแก้ทั้งฉบับ

'ปิยบุตร' ชมร่าง รธน.เพื่อไทย แต่เชียร์ก้าวไกล ทำร่างมาสู้หวังแก้ทั้งฉบับ

'ปิยบุตร' ชมร่าง รธน.ฉบับ 'เพื่อไทย' แต่เชียร์ 'ก้าวไกล' ทำร่างมาประกบสู้ เรื่องแก้ไขทั้งฉบับ รวมหมวด 1-2 รวมถึงการจัดตั้ง ส.ส.ร.มาร่าง คาดสิ้นปี 67 น่าจะได้เห็นทิศทางชัดเจน

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2567 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีตผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย นำโดยนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวเรื่องการทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยเห็นว่า ทำประชามติ 2 ครั้ง ครั้งแรก (ประชามติร่างแก้ตาม 256 กำหนดให้มี ส.ส.ร.) และครั้งที่สอง (ประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่ ส.ส.ร ทำเสร็จ) ตนเห็นด้วยกับวิธีการที่นายชูศักดิ์และพรรคเพื่อไทยเสนอนี้ 

คำวินิจฉัยศาล รธน 4/2564 บอกว่า การทำรัฐธรรมนูญใหม่ ต้องทำประชามติ ก็จริง แต่ไม่ได้บอกว่าให้ทำตอนไหน ดังนั้น เมื่อ ส.ส.ร ทำร่างใหม่เสร็จ ก็ค่อยไปทำประชามติตอนนั้นก็ได้ นอกจากนี้ การทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยเว้นหมวด 1 หมวด 2 แบบที่พรรคเพื่อไทยต้องการ ก็ไม่ได้เข้าความหมายการทำใหม่ทั้งฉบับแบบที่ศาลรัฐธรรมนูญบอกด้วย 

นายปิยบุตร ระบุว่า ที่สำคัญ หากทำประชามติ 3 ครั้ง (แบบที่คณะกรรมการฯของรัฐบาลเสนอ) แล้วไปตั้งคำถามประชามติครั้งแรก (ก่อนริเริ่มแก้ตาม 256) ว่า จะทำใหม่ แบบเว้นหมวด 1 หมวด 2 ก็มีโอกาสสุ่มเสี่ยงมากที่จะไม่ผ่าน เพราะ ทั้งพลังฝ่ายก้าวหน้า และพลังฝ่ายอยากอยู่กับ 2560 อาจไม่ออกไปใช้สิทธิหรือไม่เห็นชอบ จนทำให้แพ้ประชามติ และทำให้รัฐธรรมนูญ 2560 เป็นอมตะ มากยิ่งขึ้น 

นอกจากเรื่องการเว้นหมวด 1 และ 2 แล้ว ประเด็นที่ยังคงต้องถกเถียงและสู้กันต่อไป คือ รูปแบบและที่มาของสภาร่างรัฐธรรมนูญ พรรคก้าวไกล (ในฐานะพรรคเสียงเกิน 100 คน) ควรเร่งผลักดันร่างแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เข้าไปประกบกับร่างของพรรคเพื่อไทย เพื่อต่อสู้เรื่อง 

1. ทำรัฐธรรมนูญใหม่ได้ทั้งฉบับ ไม่ต้องเว้นหมวด 1 และ 2 

2. รูปแบบของสภาร่างรัฐธรรมนูญ และระบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 

"สิ้นปีนี้ เราน่าจะได้เห็นทิศทางของการทำรัฐธรรมนูญใหม่ชัดเจนครับ" นายปิยบุตร ระบุ