'2กมธ.สภาฯ' ห่วง สังคมเกิดเคส 'ลุงเปี๊ยก' ซ้ำ เร่งหาทางแก้-ช่วยคนเร่ร่อน

'2กมธ.สภาฯ' ห่วง สังคมเกิดเคส 'ลุงเปี๊ยก' ซ้ำ เร่งหาทางแก้-ช่วยคนเร่ร่อน

"กมธ.ตร." มั่นใจ "ตร.อรัญฯ" อุ้ม "ลุงเปี๊ยก" ไม่รอด ผิดพ.ร.บ.อุ้มหายชัดเจน พร้อมจี้ "รัฐบาล" เร่งปราบยา-พนัน ต้นตอ ก่อคดีป้าบัวผัน ด้าน "กมธ.สวัสดิการสังคมฯ" ห่วงความปลอดภัยคนเร่ร่อน เร่งหาแนวทางช่วย

ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาฯ  แถลงผลการติดตามคดีป้าบัวผันที่ถูกกลุ่มเยาวชนรุมทำร้ายจนเสียชีวิต แต่มีการดำเนินคดีกับลุงเปี๊ยก สามีของป้าบัวผัน เพราะถูกตำรวจในพื้นที่บีบบังคับขู่เข็ญให้ยอมรับการกระทำ ว่ากรณีดังกล่าวตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาณและการกระทำบุคคลสูญหาย ถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำต่อลุงเปี๊ยกนั้นทำผิดตามกฎหมายดังกล่าว อย่างไรก็ดีตนเชื่อว่าตำรวจที่ทำผิดพ.ร.บ.อุ้มหายยนั้นจะดิ้นไม่หลุด แม้ว่าลุงเปี๊ยกจะให้การกลับไปกลับมา เนื่องจากมมีพยานหลักฐาน คือ  คลิปเสียงของตำรวจ ขณะเดียวกันลุงเปี๊ยกถือเป็นผู้ป่วยจิตเวช เพราะติดเหล้า แต่เมื่อได้สติกลับมา พบว่าได้ชี้ตัวนายตำรวจที่มีพฤติกรรมคลุมถุงดำอย่างถูกต้อง อีกทั้งกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้เข้าไปดูแลคดีเอง ดังนั้นตนมั่นใจในการทำงานและพยานหลักฐาน แต่หากกรณีดังกล่าวไปไม่ถึงที่สุด สตช.ต้องรับผิดชอบ

นายชัยชนะ กล่าวถึงข้อเสนอแนะให้ปฏิรูปกฎหมายว่าด้วยการเพิ่มบทลงโทษให้กับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งก่อคดีร้ายแรง ว่า ตนสนับสนุนที่จะให้แก้ไขในอนาคต หากเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ต้องคุมขังในเรือนจำกลางไม่ใช่ส่งไปสถานพินิจ ทั้งนี้เพื่อปิดช่องว่างทางกฎหมายที่บุคคลจะใช้เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นเครื่องมือก่ออาชญากรรมหรือฆ่าผู้อื่น เพราะเด็กไม่ต้องรับโทษเทียบเท่าผู้ใหญ่

นายชัยชนะ ยังเรียกร้องให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง เร่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด เพราะปัญหาสังคมปัจจุบันเกิดจากยาเสพติด และการพนันออนไลน์ ที่ทำให้เกิดอาชญากรรมในสังคมมากขึ้น

ขณะที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.​พรรคก้าวไกล ฐานะประธานกรรมาธิการสวัสดิการสังคม สภาฯ แถลงด้วยว่า จากกรณีที่เกิดกับลุงเปี๊ยกต่อคดีป้าบัวผัน ทำให้เกิดวิกฤตศรัทธากับการทำงานของตำรวจที่ต้องให้ความยุติธรรมกับประชาชน แต่พบว่าไม่ได้ส่งเสริมทำความจริงให้ปรากฎ หากไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิด บุคคลที่บริสุทธิ์จะถูกนำตัวไปคุมขังแทนคนกระทำผิดตัวจริง ซึ่งกมธ.สวัสดิการสังคม พร้อมกับ กมธ.ตำรวจ จะพิจารณาในการทำคดีของตำรวจ ว่าสามารถแสวงหาข้อเท็จจริงได้มากน้อยแค่ไหน และการทำคดีที่ผ่านมา หากพบว่ามีกระบวนการที่ผิดจะย้อนกระบวนการได้หรือไม่ ซึ่งจากกรณีของลุงเปี๊ยกพบคลิปเสียงว่า พยายามทำต่อแม้จะผิด

นายณัฐชา กล่าวด้วยว่าประเด็นที่กมธ.สวัสดิการสังคม จะดำเนินการต่อยอดในคดีของป้าบัวผัน และกรณีของลุงเปี๊ยก คือ กรณีของบุคคลเร่ร่อน และบุคคลที่ไร้ที่พึ่งที่อาจโดนกระทำเช่นเดียวกับป้าบัวผัน เพราะจากการพิจารณาของกมธ.ฯ วานนี้ (18 ม.ค.) ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือรวมถึงกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทราบว่าคนไร้ที่พึ่ง หรือคนไร้บ้านอยู่ในความดูแลของกระทรวง เพียง  5,000 คนเท่านั้น แต่ยังมีคนไร้บ้านอีกจำนวนมากที่เร่ร่อนอยู่ภายนอก ดังนั้นต้องหาวิธีการบริหารจัดการกลุ่มคนไร้บ้านอย่างไรให้ปลอดภัย เพราะตนเชื่อว่าหากมีคดีความเกิดขึ้นคงไม่สามารถต่อสู้ได้ ดังนั้นสัปดาห์หน้ากมธ.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาข้อสรุป.