'สว.'ขอเคลียร์ข้อกฎหมาย ปมเลือก ตุลาการศาลปกครอง ห่วงชุดใหม่การเมืองแทรก

'สว.'ขอเคลียร์ข้อกฎหมาย ปมเลือก ตุลาการศาลปกครอง ห่วงชุดใหม่การเมืองแทรก

“เฉลิมชัย” หวั่น สว.ใหม่ ถูกการเมืองแทรกแซงเลือก ตุลาการฯ  ขอเคลียร์ข้อกฎหมาย ก่อนลงมติเลือก ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ด้าน “กาญจนารัตน์” ย้ำวุฒิสภามีหน้าที่เห็นชอบตุลาการฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม  ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด จำนวน 5 คน ได้แก่ นายบุญเสริม นาคสาร, นางพรทิภา ไสวสุวรรณวงศ์, นายวรวิทย์ สุขบุญ, นายสมฤทธิ์ ไชยยวงค์ และนายเชิดชู รักตะบุตร หลังจากที่ก.ศป. ได้พิจารณาและส่งให้วุฒิสภาพิจารณา และคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมฯ ได้พิจารณาตรวจสอบ พร้อมจัดทำรายงานเสนอต่อที่ประชุมวุฒิสภาแล้วเสร็จ ทั้งนี้ก่อนที่วุฒิสภาจะพิจารณารายงานของกรรมาธิการฯ ด้วยการประชุมลับ ได้เปิดให้ สว.หารือ

โดยนพ.เฉลิมชัย เครืองาม สว. ตั้งประเด็นคำถามถึงอำนาจของสว. ต่อการพิจารณาให้ความเห็นชอบตุลาการศาลปกครองสูงสุดหรือไม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ในบทบัญญัติที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้กำหนดถ้อยคำที่ชัดเจนให้อำนาจวุฒิสภาดำเนินการ มีเพียงว่า เป็นไปตามกฎหมายบัญญัติ ซึ่งต่างจากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 และ พ.ศ.2550 ที่กำหนดไว้ชัดเจนว่าส่งให้วุฒิสภาเห็นชอบ  อย่างไรก็ดีในกระบวนการได้มาซึ่งตุลาการศาลปกครอง ที่เป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีศาลปกครอง พ.ศ.2542 นั้น ได้ออกตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 แม้ที่ผ่านมจะแก้ไขหลายครั้ง แต่ในกระบวนการนั้นไม่พบการแก้ไขให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปัจจุบันที่ไม่มีข้อความส่งให้วุฒิสภาเห็นชอบ ดังนั้นในกรณีที่ สว.ชุดหน้าเข้ามาทำหน้าที่ อาจมีประเด็นเกิดขึ้น เพราะสว.อาจมองว่ามาจากพรรคหรือฝ่ายการเมือง ดังนั้นอาจเกิดการแทรกแซงขึ้นได้

ทั้งนี้  นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์  สว. ชี้แจง ว่า โดยหลักการตุลาการศาลปกครอง และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ใช้อำนาจพิจารณาข้อโต้แย้งระหว่างรัฐกับเอกชน ใช้อำนาจชี้ขาดการใช้อำนาจของรัฐ ต้องผ่านการกลั่นกรองและเห็นชอบจากองค์กรต่างๆ  แม้การได้มาซึ่งตุลาการศาลปกครอง ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้ระบุว่าต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา และต่างจากรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 แต่หลักการดังกล่าวไม่ได้หายไป เพราะยังกำหนดว่าให้เป็นไปตามที่กฎหมายที่เกียวข้องบัญญญัติ

“แม้ถ้อยคำของรัฐธรรมนูญปัจจุบันต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้หลักการเปลี่ยนไปหรือหายไป เพราะมีอยู่ตรงวรรคท้าย ว่า อยู่ที่กฎหมายบัญญัติ กฎหมายว่าด้วยวิธีการจัดตั้งศาลฯ มาจากรัฐธรรมนูญ ถือว่าคงหลักการเดิม เพราะตุลาการศาลปกครองถือเป็นผู้ใช้อำนาจวิจิจฉัยชี้ขาดอำนาจของรัฐต้องผ่านการตรวจสอบและเห็นชอบจากองค์กรที่กำหนดไว้  ส่วนที่มองว่า พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง แก้ไขเพิ่มเติมมหลายครั้ง แต่พบว่าไม่ได้แก้ไขในหลักการประเด็นดังกล่าว และยังคงยืนยันหลักการ การใช้อำนาจของสว.ที่ต้องเห็นชอบว่า ไม่ได้ผิด หรือเกินเลยไป” นางกาญจนารัตน์ ชี้แจง

ทำให้นายศุภชัย กล่าวย้ำในความเห็นของนางกาญจนารัตน์ และให้ วุฒิสภาเดินหน้าพิจารณาต่อไป ซึ่งเป็นการประชุมลับ.