สมศักดิ์ คุย ตัวแทนฯ มาเลย์ แก้ไฟใต้ สร้างอาชีพ ให้ผู้ก่อความไม่สงบวางอาวุธ

สมศักดิ์ คุย ตัวแทนฯ มาเลย์ แก้ไฟใต้ สร้างอาชีพ ให้ผู้ก่อความไม่สงบวางอาวุธ

“สมศักดิ์” หารือ ผู้อำนวยความสะดวกพูดคุยสันติสุขฯ จากมาเลเซีย ชี้ ต้องพัฒนา สร้างอาชีพ แก้ปัญหาคนจับอาวุธ ก่อความไม่สงบ ตามแบบฟิลิปปินส์ ระบุ ถ้า 2ประเทศ ไม่สนับสนุนที่พักพิง เรื่องจะจบง่าย ย้ำต้องวางหลักการให้ชัดเจน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังหารือร่วมกับศาสตราจารย์ พลเอกตันศรี ดาโต๊ะ สรี ซุลกิฟลี ไซนัล อะบีดิน ผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า วันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกันท่านตันศรี ซึ่งได้รับมอบหมายจากรัฐบาลมาเลเซีย โดยฝ่ายไทยมีนายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาฯสมช. ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ทำความเข้าใจ ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้หารือกันหลายครั้ง ก็ได้สั่งการให้ตนทำหน้าที่ติดตามเรื่องของการพัฒนา ความมั่นคงให้เกิดประโยชน์กับประเทศสูงสุด และก่อนหน้านี้ตนก็ได้พบปะกับรองนายกฯ มาเลเซีย ที่ดูแลด้านเกษตร และรัฐมนตรีหลายคนของมาเลเซีย ได้คุยกันเรื่องชายแดน เศรษฐกิจ ท่องเที่ยว ปศุสัตว์ เกษตร และยังได้พบปะรองนายกฯ มาเลเซีย ที่ดูแลด้านความมั่นคง ได้แนะนำหลายเรื่องเกี่ยวกับชายแดน รวมถึงเรื่องศาสนา พหุวัฒนธรรม อยากให้เพิ่มการเรียนเกี่ยวกับฝีมือช่างเพื่อเป็นอาชีพนอกเหนือจากการเรียนศาสนา ตนก็บอกว่าเป็นเรื่องดีที่ต้องดำเนินการ

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การพูดคุยที่จะตามมาจะมีเรื่องอาชีพ คนที่เคยใช้แต่อาวุธ มีปัญหาเรื่องความมั่นคงซึ่งเราติดตาม ถ้าหากมีโอกาสสร้างงาน เลี้ยงสัตว์หรือทำเกษตรก็เป็นเรื่องดี และเราสามารถตั้งคณะกรรมการชายแดนจำนวนเท่าๆ กันเพื่อพูดคุยระหว่างกันได้ มีนายฉัตรชัย เป็นประธานและพ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์  เลขาธิการศอ.บต. ก็อยู่ในคณะดังกล่าว มีทั้งเรื่องความมั่นคงและการพัฒนา ถ้าหากเราพูดคุยกันจบ เอาคนกลับมาแล้วไม่มีงาน ไม่มีรายได้ เขาจะอยู่ไม่ได้ แต่ถ้าเขามีความสุขกับการดำเนินการตรงนี้ มันเป็นทางเลือกหนึ่งให้คนหันมาพูดคุย 

“รัฐบาลทั้ง2ฝั่ง ให้ความเห็นชอบเรื่องเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การลงทุน ในส่วนของชายแดนเป็นเรื่องหลักอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น การที่ผู้คนจะออกมาในลักษณะก่อความไม่สงบแล้วไปอยู่อีกที่หนึ่ง อย่างก่อความไม่สงบในประเทศไทยชายแดนแล้วไปอยู่ในมาเลเซีย หรือก่อความไม่สงบในมาเลเซียแล้วแอบมาอยู่ในประเทศไทย ถ้ารัฐบาลทั้ง2ฝั่งไม่ให้การสนับสนุนในเรื่องนี้ เรื่องทั้งหลายก็จะจบง่ายลง” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรายังได้พูดคุยถึงตัวอย่างในประเทศฟิลิปปินส์แก้ปัญหาอย่างไร สุดท้ายก็คือการพัฒนา อาชีพ ถ้าเขามีรายได้จะเป็นปัจจัยสำคัญในการพูดจากันง่ายขึ้น และอยากทำงานตรงนี้ให้เร็ว ก็รู้อยู่แล้วรัฐบาลมีเวลาแค่3ปีกว่า 

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การบังคับใช้พรก.ฉุกเฉิน ถ้ายกเลิกบางอำเภอ โดยใช้กฎหมายความมั่นคง ก็เหมือนเปิดทางให้เรื่องทั้งหลายง่ายขึ้น เราก็พยายามเลิกเป็นอำเภอๆ ออกมาแล้ว และโดยหลักการ 2ประเทศต้องทำให้ชัดเจนและดำเนินการไปตามพ.ร.บ.ความมั่นคง เมื่อชัดเจนก็เดินไปสู่จุดจบที่ง่ายขึ้น 

อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการพูดคุยรอบใหม่ยังไม่ทราบจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ วันนี้เตรียมตัวเตรียมใจว่าเราต้องทำให้เร็ว เพราะปัญหาเศรษฐกิจต้องแข่งกับชาวโลก มาเลเซียกับไทยต้องจับมือกันแข่งกับประเทศอื่นๆ พื้นที่ชายแดนมีปัญหามากบ้างน้อยบ้าง ไม่รู้ใครมากกว่ากัน