ศึกงบฯ 67 สนามซ้อมรบ ตรวจแถว 3 ขุนพล ‘สีส้ม’

ศึกงบฯ 67 สนามซ้อมรบ ตรวจแถว 3 ขุนพล ‘สีส้ม’

บรรดา “ดาวโรจน์-แถว 2, 3” เหล่านี้คือ “เมล็ดพันธุ์สีส้ม” ถูกบ่มเพาะรอวันเติบโตบนเส้นทางการเมือง รอดูในวันประชุมใหญ่พรรคก้าวไกลช่วง เม.ย. 2567 ที่จะมีการปรับโครงสร้างพรรคอีกครั้ง

เปิดศักราชใหม่ “ปีงูใหญ่” มา สถานการณ์การเมืองก็ร้อนแรงโดยทันที

พลันที่เปิดประชุมสภาฯ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระแรก หรือภาษาการเมืองเรียกว่า “ซักฟอกงบ” แน่นอนว่าสปอร์ตไลท์ทางการเมืองฉายแสงไปที่ “ฝ่ายค้านหลัก” ในสภาฯ นั่นคือ “พรรคก้าวไกล

บรรดา “บิ๊กเนมสีส้ม” ทั้งหลาย ต่างจองกฐินเตรียมอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2567 ไว้แต่เนิ่น ๆ แล้ว จนบางครั้งถูก สส.ฝ่ายรัฐบาล มองว่า ไม่ใช่อภิปรายงบฯ แต่เป็นการ “ซ้อม” การอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือเปล่า

แต่ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา 3 วัน ระหว่าง 3-5 ม.ค.ที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่า การซักฟอกของ “ก้าวไกล” ดุเด็ดเผ็ดมันถึงพริกถึงขิง นำเสนอข้อมูลพยานหลักฐานมาค่อนข้างชัดเจน ทำเอาฝ่ายรัฐบาล “ปาดเหงื่อ” ออกอาการเป๋ไปเหมือนกัน เรียกเรตติ้ง “ด้อมส้ม” ได้ไม่มากก็น้อย

ที่น่าสนใจ ไม่ใช่แค่บรรดา “บิ๊กเนมสีส้ม” หรือ “ขุนพลหน้าเดิม” เท่านั้นที่ทำได้ดี แต่ยังมีบรรดา “แถว 2-3” ซึ่งถูกปลุกปั้น และผลักดันขึ้นมา ฉายแสงในสภาฯด้วย

แม้ว่าที่ผ่านมา “ก้าวไกล” จะถูกมองว่าเป็นพรรคที่เน้น “วาทกรรม” นำ “ข้อมูล” ตาม แต่ในช่วงผลัดเปลี่ยนรัฐบาล ช่วง 2-3 ปีหลัง หลายฝ่ายชมว่าทำได้ดี ลดวาทกรรมน้อยลง นำเสนอข้อมูลมากขึ้น

ตัดภาพมาปัจจุบัน บรรดาขุนพลหลักที่นำทีมอภิปราย ได้แก่ “ชัยธวัช ตุลาธน” ขงเบ้งสีส้ม ถูกดันมานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค “ชั่วคราว” มีโอกาสเป็น “ผู้นำฝ่ายค้าน” ครั้งแรก และทำได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะการชำแหละภาพรวมงบประมาณปี 67 ให้เห็นภาพ ในประเด็น “รัฐบาลรวมการเฉพาะกิจ” ทำงบแบบรวมศูนย์ ไม่ตอบโจทย์แก้วิกฤติประเทศ

ส่วน “เดอะ ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล ซึ่งถูกมองว่าเป็น “ทายาทการเมือง” ของพรรค ว่าที่หัวหน้าพรรครุ่นที่ 3 เน้นอภิปรายด้านเศรษฐกิจการเงินการคลัง ซัดหมัดตรงถึงสารพัดโครงการที่ตั้งงบไว้ค่อนข้างมีปัญหา ทำให้อาจต้องดึง “งบกลาง” มาใช้โดยไม่จำเป็น ขณะที่หน้าเดิม ๆ เช่น “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” มาตรฐานยังเหมือนเดิม โดยคราวนี้อภิปรายเกี่ยวกับงบประมาณด้านการศึกษา เป็นต้น

ส่วนบรรดา “ดาวโรจน์” ที่ถูกผลักดันขึ้นมาในช่วงหลังก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน เช่น “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ ที่เจาะปัญหาใจกลางงบการศึกษา 

"เท้ง" ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ คีย์แมนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของพรรค ถูกดันขึ้นมาให้สรุปการอภิปรายครั้งนี้ โดยซัดหมัดตรงไปว่า บุญเก่าของ "ทักษิณ" ไม่สามารถส่งต่อได้ถึง "รัฐบาลชุดนี้" 

“ลิซ่า” ภคมน หนุนอนันต์ อดีตทีมโฆษกของพรรค ที่นั่งเก้าอี้ สส.ป้ายแดง อีกหนึ่งคน ถูกผลักดันโอกาสได้ขึ้นอภิปรายเช่นกัน ในประเด็นการกระจายอำนาจ

“ทนายแจม” ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. ที่อภิปรายเกี่ยวกับปัญหาทางสังคม และสวัสดิการด้านแรงงาน เป็นต้น

ส่วน “แถว 3” มีอีกหลายคนที่กำลังถูกดันขึ้นมามีบทบาท เช่น “รอมฎอน ปันจอร์” อดีตนักวิชาการด้านสันติภาพภาคใต้ ที่พูดถึงเรื่องฝ่ายความมั่นคง และงบประมาณดับไฟใต้ “ศุภโชติ ไชยสัจ” สส.บัญชีรายชื่อ ที่พูดถึงเรื่อง “พลังงาน” 

ส่วนไฮไลต์อยู่ที่ 2 สส.กทม.ป้ายแดง คือ “ชยพล สท้อนดี-เอกราช อุดมอำนวย” ที่อภิปรายเกี่ยวกับงบด้านกลาโหม จากเดิมหลายปีที่ผ่านมาหน้าที่นี้มักตกอยู่กับ “รังสิมันต์ โรม-ธีรัจชัย พันธุมาศ”

บรรดา “ดาวโรจน์-แถว 2, 3” เหล่านี้คือ “เมล็ดพันธุ์สีส้ม” ถูกบ่มเพาะรอวันเติบโตบนเส้นทางการเมือง รอดูในวันประชุมใหญ่พรรคก้าวไกลช่วง เม.ย. 2567 ที่จะมีการปรับโครงสร้างพรรคอีกครั้ง บุคคลเหล่านี้จะถูกดันขึ้นมามีบทบาทภายในพรรคหรือไม่ พร้อม ๆ กับการผลักดัน “ศิริกัญญา” ขึ้นนำทัพ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับ “ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ในคดีหุ้นสื่อ ซึ่งรอศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตา 24 ม.ค.นี้

โดยเฉพาะช่วงกลางปี 2567 ที่น่าจะดุเดือดอย่างมาก เพราะยังมีประเด็น “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ที่ปัจจุบันกลับมารับโทษคดีทุจริต พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตำรวจ อาจได้รับการ “พักโทษ” หรือ “พ้นโทษ” ออกมา 

รวมถึง สว.จะหมดอำนาจโหวตเลือกนายกฯ จะทำให้สมการสูตรจัดตั้งรัฐบาลต้อง “เขย่า” กันใหม่อีกครั้งหรือไม่ ต้องติดตาม