‘นายกฯ’ ลงพื้นที่ ‘ร้อยเอ็ด’ คิกออฟ ‘30บาทรักษาทุกที่’ 7 ม.ค.นี้

‘นายกฯ’ ลงพื้นที่ ‘ร้อยเอ็ด’ คิกออฟ ‘30บาทรักษาทุกที่’ 7 ม.ค.นี้

”โฆษกรัฐบาล“ เผย “นายกฯ” เตรียมนำคณะลงพื้นที่ “ร้อยเอ็ด” Kick off “30 บาทรักษาทุกที่” 7 ม.ค.นี้ ด้าน ก.สาธารณสุข มั่นใจ พร้อม100% เปิดให้ปชช.ใช้บริการ 4 จังหวัดนำร่อง ครบ4ภูมิภาค ชี้ ปฏิรูประบบสุขภาพครั้งใหญ่

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมเดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดร้อยเอ็ด ในวันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2567 เพื่อเป็นประธานกิจกรรม Kick off “30 บาทรักษาทุกที่” โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ร่วมคณะตรวจราชการ ซึ่งมีกำหนดการดังนี้ 

เวลาประมาณ 16.00 น. นายกฯ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานร้อยเอ็ด อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด จากนั้น ในเวลาประมาณ 17.30 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานกิจกรรม Kick off “30 บาทรักษาทุกที่” ณ ลานสาเกตนคร หน้าหอโหวด 101 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเมื่อเสร็จภารกิจแล้ว นายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 20.15 น. ทั้งนี้ กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม 

“วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2567 จะเป็นวันเริ่มต้น หรือ Kick off 30 บาทรักษาทุกที่ อย่างเป็นทางการ ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นจุดเปิดนอกสถานที่ และเปิดระบบออนไลน์ไปยังอีก 3 จังหวัด คือ แพร่ เพชรบุรีและนราธิวาส โดยกระทรวงสาธารณสุขมั่นใจมีความพร้อม 100% ที่จะเปิดตัวให้ประชาชนใช้บริการอย่างเป็นทางการในทั้ง 4 จังหวัดนำร่อง 4 ภูมิภาค ที่ได้เชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพในหน่วยบริการทุกระดับเป็นระบบเดียวทั้งจังหวัดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการให้บริการ ‘30 บาทรักษาทุกที่’ เป็นของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลที่มอบให้พี่น้องประชาชน ถือเป็นการปฏิรูประบบสุขภาพครั้งใหญ่ คือปฏิรูประบบข้อมูลการให้บริการครั้งใหญ่ที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อน บัตรประชาชนใบเดียวสามารถเข้าถึงการบริการได้ ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว เป็นการลดความเหลื่อมล้ำด้านสาธารณสุข และขยายบริการที่เป็นนวัตกรรมการอำนวยความสะดวกในการรับบริการของประชาชน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว