'จุลพันธ์' ยัน เพิ่มงบกลาง 6 พันล.สอดคล้องนโยบายการคลัง กู้แจกหมื่น ตรวจสอบได้

'จุลพันธ์' ยัน เพิ่มงบกลาง 6 พันล.สอดคล้องนโยบายการคลัง กู้แจกหมื่น ตรวจสอบได้

รมช.คลัง แจงสภาฯกาง3แท่ง จัดสรรงบ67 ยืนยัน เพิ่มงบกลาง 6 พันล้านสอดคล้องนโยบายการคลัง ไม่เกินเพดาน ส่วนปม"กู้แจกหมื่น" โปร่งใสตรวจสอบได้

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พศ.2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงต่อที่ประชุม เริ่มที่บางประเด็นที่ไม่ปรากฎอยู่ในเล่มงบประมาณ ขอชี้แจงว่า ถ้าจะหานโยบายรัฐบาลและไปหาในเล่มงบประมาณแต่ละเล่ม เช่น การแก้หนี้ การสร้างรายได้ท่องเที่ยว การลดค่าใช้จ่ายหรือเรื่องพลังงาน ยอมรับว่าอาจไม่มีชื่อปรากฎอยู่ แต่ในเนื้อในงบประมาณเหมือนเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ และต้องเข้าในด้วยว่างบประมาณแผ่นดินเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจเพียงแค่ในของตัวเลขGDP แต่ก็ยังมีกลไกในส่วนอื่นในเรื่องของการผลักดันนโยบานที่มากกว่างบประมาณ 

ที่ผ่านมารัฐบาลมีการแก้ไขในเรื่องต่างๆที่ไม่ได้ผ่านการใช้งบประมาณเช่นการลดราคาพลังงานที่เราสามารถบริหารจัดการได้ ไม่ต่างจากงบส่วนอื่นๆต้องเข้าใจกลไกการทำงานของหน่วยงานภาครัฐที่ต้องเริ่มจากการขอของส่วนราชการ แต่เมื่อเรายังไม่มีกระบวนการที่จะเดินหน้าไม่มีเวลาที่ชัดเจนส่วนงานจึงไม่สามารถส่งคำขอเข้ามาได้

ขณะที่กระบวนการประชามติถ้ามีกลไกการเลือกตั้งที่ชัดเจนเช่นการเลือกตั้ง2566 คณะกรรมการการเลือกตั้งก็จะมีกรอบงบประมาณที่ชัดเจนได้แต่เมื่อไม่มีระยะเวลาที่ชัดเจนก็ไม่สามารถส่งคำขอมายังรัฐบาลได้

แต่ยืนยันว่าการทำมติสุดท้ายถ้ามีมติใดๆคำขอจากหน่วยงานก็จะเข้ามายังส่วนกลางเพื่อดำเนินการจัดสรรงบประมาณทันที

ยืนยันว่ารัฐบาลมีความจริงใจในการเดินหน้ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมีงบประมาณเพียงพออย่างแน่นอน 

ส่วนที่สมาชิกระบุว่าการจัดทำงบประมาณครั้งนี้ไม่ต่างจากที่ผ่านมา ขอบคุณน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล  ที่ระบุว่ารัฐบาลชุดนี้รับมรกดกจากรัฐบาลก่อนหน้า ซึ่งเป็นเช่นนั้นจริงๆโดยเฉพาะงบประมาณผูกพันธ์เป็นสิ่งที่เราต้องทำตามข้อสัญญาเอกชนหรือกรณีนั้นๆ

แต่ยืนยันว่าการจัดทำงบประมาณครั้งนี้มีการปรับแก้ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องนโยบายรัฐบาลปัจจุบันให้ได้มากที่สุด 

ยืนยันว่างบประมาณ3.48ล้านล้านบาทมีสาระสำคัญ3อย่าง

1.ค่าใช้จ่ายตามสิทธิที่ต้องบรรจุในงบประมาณแผ่นดิน

2.ค่าใช่จ่ายตามข้อผูกพันธ์6.2แสนล้านบาทตามข้อผูกพันธ์ตามกฎหมายพ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ2561 

3.ค่าใช้จ่ายตามข้อพื้นฐาน5แสนล้านบาทซึ่งจะถูกบรรจุอยู่งบในงบประมาณตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด

ซึ่งทั้ง3ส่วนมีงบอยู่ที่ราว2.5ล้านล้าน  ส่วนที่เหลืออีก1.5ล้านล้านเศษเป็นในส่วนที่ใช้จ่ายกับการดำเนินตามนโยบายตามที่นายกรัฐมนตรีแถลงกับรัฐสภา เช่นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การผลักดันการท่องเที่ยว ระยะสั้น จำนวนกว่า3หมื่นล้าน 


ขณะที่การวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานในระยะกลางและระยะยาวอีกราว1กว่า แสนล้านบาท ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญของการแก้ไขปัญหารายได้ประชาชนอีกราว3.6แสนล้านบาทซึ่งมีการปรับเปลี่ยนและล้อกับนโยบายรัฐบาล

นอกจากนี้ยังมีการสร้างโอกาสด้านต่างๆอีกราว5.2แสนล้าน  รวมถึงการสร้างคุณภาพชีวิตอีกราว4.8แสนล้านบาท ยืนยันว่าเรามีการปรับเปลี่ยนงบประมาณแผ่นดินเพื่อความเหมาะสมและจำเป็นสอดคล้องกับนโนบายเพื่อขับเคลื่อนทิศทางที่รัฐบาลวางไว้

รมช.คลัง ยังชี้แจงถึงการปรับเพิ่มงบกลางในกรณีฉุกเฉินและจำเป็น ยืนยันว่า สอดคล้องกับนโยบายการเงินการคลังของรัฐที่กำหนดสัดส่วนงบกลางในกรณีฉุกเฉินและจำเป็นอยู่ในระดับ2-5%  

ในปีก่อนหน้าตั้งงบกลางไว้ที่9.2หมื่นล้านบาท หรือ2.9% แต่ในปีนี้มีการปรับเพิ่มเป็น9.8หมื่นล้านบาทคิดเป็นสัดส่วนน้อยลง คือเพิ่มขึ้น2.8% ยืนยันว่ากลไกรัฐบาลในส่วนของงบกลางมีความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อแก้ปัญหาย่างทันท่วงที 

ในส่วนของการเติมเงินเข้าไปกองทุนต่างๆยืนยันว่ามีการเติมเงิน หรือปรับเพิ่มอย่างมีนัยยะสำคัญเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของประเทศ แต่ต้องเพิ่มอย่ามีจังหวะไม่ใช่การเติมเข้าไปภายในปีเดียว แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะมีการเติมเงินเพิ่มขึ้นในอีก2-3ปีข้างหน้าเพื่อสร้างขัดแข่งขันในเวทีโลกอย่างแต็มภาคภูมิ 

อย่างไรก็ตามในส่วนของดิจิทัลวอเล็ต ยอมรับว่ามีการปรับเปลี่ยนแหล่งที่มาของเงินจริงๆ

ยืนยันว่าเป็นเพราะรัฐบาลต้องการให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ซึ่งกลไกที่มีความเหมาะสมคือการสร้างแหล่งเงินจากภายนอกงงบประมาณซึ่งพ.ร.บ.สุดท้ายก็ต้องเข้าสู่สภาซึ่งสมาชิกก็สามารถปรับแก้ตามความเหมาะสมเพื่อเดินหน้าแก้ไขประชาชนต่อไป