'พีระพันธุ์'โพสต์เปิดรับสมาชิกรทสช. โชว์ผลงาน 'ทำจริง-ทำแล้ว-ทำต่อ'

'พีระพันธุ์'โพสต์เปิดรับสมาชิกรทสช. โชว์ผลงาน 'ทำจริง-ทำแล้ว-ทำต่อ'

"พีระพันธุ์" โพสต์ชวนประชาชนผู้ร่วมอุดมการณ์สมัครสมาชิกรทสช. พร้อมโชว์ผลงาน "ทำจริง-ทำแล้ว-ทำต่อ" ปลดแอกราคาพลังงาน “รื้อ ลด ปลด สร้าง”

 ความเคลื่อนไหวพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว 

ผมอยากขอใช้โอกาสปีใหม่นี้เชิญชวนพี่น้องประชาชนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากจะทำงานให้กับชาติบ้านเมือง มาร่วมทำงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ผมทำพรรคขึ้นมาเพื่อทำงานให้กับประชาชน และพร้อมที่จะทำงานทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน แต่ลำพังพรรครวมไทยสร้างชาติ และสมาชิกผู้แทนราษฎรของพรรคที่มีอยู่ในตอนนี้ เราไม่มีกำลังเพียงพอครับ

ผมจึงขออนุญาตโอกาสนี้เชิญชวนพี่น้องประชาชนที่สนใจจะมาช่วยงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ มาช่วยกันครับ เราไม่ได้มาช่วยพรรค เราไม่ได้มาช่วยตัวเรา แต่เรามาร่วมกันเพื่อช่วยเหลือบ้านเมืองเรา ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนของเราในการแก้ไขปัญหาต่างๆ

ผมมีความเชื่อและมั่นใจว่า มีพี่น้องประชาชนอีกจำนวนมากที่พร้อมและยินดีที่จะร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อช่วยเหลือประเทศชาติของเรา ไม่ว่าจะสนใจการเมืองหรือไม่ บ้านเมืองก็คือบ้านของเรา ทุกคนมีความเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมืองเหมือนกัน เช่นเดียวกับอุดมการณ์ของพรรครวมไทยสร้างชาติที่พร้อม #สู้ให้ทุกปัญหา #พึ่งพาได้ทุกเรื่อง

ขอบคุณครับ

#พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค

#พรรครวมไทยสร้างชาติ

#อาสาสมัครทำงานเพื่อชาติ

#ร่วมมือร่วมใจรวมไทยสร้างชาติ

\'พีระพันธุ์\'โพสต์เปิดรับสมาชิกรทสช. โชว์ผลงาน \'ทำจริง-ทำแล้ว-ทำต่อ\'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โพสต์ก่อนหน้านายพีระพันธุ์ ยังได้โพสต์ผลงานรัฐมนตรีพรรครวมไทยสร้างชาติ  ในศุภวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2567 ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล ที่พี่น้องประชาชนแต่ละท่านเคารพนับถือ โปรดดลบันดาลและอำนวยพรให้พีน้องประชาชนทุกท่านประสบแต่ความสุข ความสำเร็จ มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง สมบูรณ์ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ คลาดแคล้วจากอุบัติเหตุอันตราย พบพานแต่สิ่งดีๆและคนดีๆตลอดปีใหม่ 2567 ครับ

สองวันก่อนทีมงานของผมขอให้ผมเล่าถึงสิ่งที่ผม “ทำแล้ว” ในรอบปี 2566 ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จริงๆก็ต้องเล่ากันยาวครับ เพราะในระยะเวลาสั้นๆ 3 เดือนครึ่ง ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ผมทำงานแข่งกับเวลาทุกวัน

ผมได้ “ทำแล้ว” ให้พี่น้องประชาชนเยอะมาก ทั้งที่เป็นข่าวและไม่เป็นข่าว เฉพาะที่เป็นข่าวก็คือการลดค่าใช้จ่ายให้ทั้งไฟฟ้าและน้ำมันและจะยังคง “ทำอยู่” ต่อไปถึงเมษายน 2567

แม้เป็นมาตรการชั่วคราวภายใต้โครงสร้างพลังงานปัจจุบัน ที่ต้องไหว้วอนและขอความร่วมมือจากหลายๆฝ่าย ก็ยังดีกว่าไม่ลงมือทำอะไร

ล่าสุดก่อนสิ้นปีผมได้มอบของขวัญเรื่องค่าก๊าซ NGV สำหรับรถแท็กซี่และรถบริการสาธารณะบางประเภทที่มาขอความเป็นธรรมเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา เป็นอีกเรื่องที่ “ทำจริง” ใช้เวลาดำเนินการเรื่องนี้เพียง 1 เดือนครึ่ง

เป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าถ้าจะ “ทำจริง” ก็ทำได้ ไม่ว่าจะภายใต้โครงสร้างพลังงานที่ถูกหรือผิด แต่ถ้าจะ “ทำจริง” ก็ทำได้ทั้งนั้น โครงสร้างมันจะถูกจะผิดเดี๋ยวว่ากัน แต่วันนี้ “ลงมือทำ” ดีกว่า “รอไปก่อน” ถูกไหมครับ

ผมระลึกเสมอว่าผมเข้ามาทำงาน มาทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชน ไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตส่วนตัวของผม อะไรที่เป็นทุกข์ของประชาชนในความรับผิดชอบของผม

ผมจะ “รื้อ” ทิ้งให้หมด เพื่อ “ลด” ภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน เพื่อ “ปลด” พันธนาการชีวิตจากค่าพลังงานที่ควบคุมไม่ได้ และจะ “สร้าง” ระบบพลังงานของประเทศขึ้นใหม่ให้มีความเป็นธรรมอย่างมั่นคงและยั่งยืนเพื่อคนไทยและประเทศไทยของเรา ตามนโยบาย “รื้อ ลด ปลด สร้าง” และแนวทางการทำงานแบบ “สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง” ของพรรครวมไทยสร้างชาติ

กว่าจะถึงวันนี้ ก็เป็นไปตามคาดเพราะต้อง “ต่อสู้” อย่างเข้มข้นครับ

ต้องขอบคุณประธานที่ปรึกษาของผม ท่านณอคุณ สิทธิพงศ์  คณะที่ปรึกษา คณะทำงาน ปลัดกระทรวงพลังงาน ท่านประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดี ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานทุกคน ตลอดจนรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังทุกคน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) นำโดยท่านประธาน ท่านเสมอใจ ศุขสุเมฆ รวมถึง กฟผ. ปตท. และอีกหลายๆท่านที่ช่วยกันและร่วมมือกันเต็มที่ตามนโยบายแรก คือ “ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้ประชาชน”

ที่สำคัญคือ ท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่ให้การสนับสนุนการทำงานของผมและกระทรวงพลังงานตลอดมา ทั้งในฐานะนายกรัฐมนตรีและในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)

สำหรับสิ่งที่ผมเตรียมจะ “ทำต่อ” ให้ดีขึ้นในปี 2567 จะไม่ใช่แค่การปรับโครงสร้าง แต่ผมจะ “รื้อ” ระบบที่มีผู้ได้รับประโยชน์มหาศาลมายาวนาน ต่อไปผู้ที่จะได้ประโยชน์คือคนไทยและประเทศไทยเท่านั้นครับ

แน่นอนครับ ผมเชื่อว่าการ “รื้อ” ครั้งนี้ จะมีคนคัดค้านมากมาย เพราะผู้ที่เคยได้ประโยชน์แบบรากงอกต้องเสียประโยชน์มหาศาล คนเหล่านี้ที่ผ่านมาใช้ระบบ “สปอนเซอร์” เป็นเกราะคุ้มตัวตลอดมา แต่ผมไม่กลัวและจะทำ

เพราะจะเป็นการ “รื้อ” เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ประเทศและประชาชนแบบมั่นคงและยั่งยืน

ความจริงผมเริ่ม “รื้อ” มาแล้วแต่ไม่ได้ประชาสัมพันธ์มากมาย ด้วยการโยกก๊าซธรรมชาติที่ได้จากอ่าวไทยในส่วนที่นำไปใช้ผลิตปิโตรเคมีหากำไรเพื่อบริษัทในราคาต้นทุนต่ำเท่ากับราคาต้นทุนก๊าซ LPG ที่นำมาให้ประชาชนใช้หุงต้มดำรงชีวิต ให้ไปอยู่ถูกที่ถูกทางใน Pool Gas ทำให้ต้นทุนการนำก๊าซธรรมชาติส่วนนี้ไปใช้ในด้านปิโตรเคมีเพิ่มสูงขึ้น แต่เป็นสิ่งที่ถูกต้องและช่วยลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชนลงได้ส่วนหนึ่งในครั้งล่าสุดนี้ด้วย

ความจริงมีการเรียกร้องเรื่องนี้มานานแต่ไม่มีใครทำ ผม “ทำแล้ว” โดยการเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีท่านนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 19ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ต้องขอบคุณคณะกรรมการ กพช. ทุกท่านด้วยครับ

นอกจากนี้ ในปี 2567 ผมจะ “รื้อ” ระเบียบหลักเกณฑ์เพื่อให้การใช้พลังงานไฟฟ้าจาก Solar Roof Top ภายในครัวเรือน เป็นไปโดยสะดวกไม่ยุ่งยากอีกต่อไป และจะเริ่มดำเนินการตามนโยบาย “เปิดเสรีการนำเข้าน้ำมัน”  ด้วย
ผมขอขอบคุณจากใจจริงสำหรับกำลังใจจากทุกท่านและการเป็นกำแพงเหล็กให้ผมพิงในการทำงานตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา

ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจครับว่าผมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของประเทศไทยและคนไทยทุกคนอย่างแท้จริง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านตลอดไป โดยเฉพาะในปี 2567 ที่สำคัญนี้ครับ
ทางทีมงานได้จัดทำคลิปและสรุปไว้ตามนี้ครับ