‘ภูมิธรรม’ เผย เคาะที่มา สสร. แก้รธน. 25ธ.ค.นี้ ก่อนชง ครม. ย้ำ ประชามติ3ครั้ง

‘ภูมิธรรม’ เผย เคาะที่มา สสร. แก้รธน. 25ธ.ค.นี้ ก่อนชง ครม. ย้ำ ประชามติ3ครั้ง

"ภูมิธรรม" เผย เคาะที่มาสสร.พรุ่งนี้ก่อนชง ครม. คาดเดินหน้าได้ไตรมาสแรกปีหน้าได้ แย้ม เลือกตั้ง 77 สรรหา 23 มีความเป็นไปได้ พร้อมยอมทำประชามติ 3 ครั้ง หากทำให้รธน.ผ่าน ปัดแก้ 256 หวั่นข้อข้อครหาซื้อเวลา

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคก้าวไกลเสนอให้มีการเลือกตั้งสสร. 100% ว่า ที่มาของ สสร.เป็นเรื่องที่เราไปรับฟังความคิดเห็นมา และที่ผ่านมาได้มีการประชุมกับทุกภาคส่วน โดยมีตัวแทนวิชาชีพต่างๆ เข้าร่วม ได้เสนอว่าหากต้องไปเลือกตั้ง อาจจะสู้คนอื่นไม่ได้ แต่ก็จำเป็นว่าอยากให้มีตัวแทนจากหลายวิชาชีพเข้ามา ทั้งเกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน ผู้พิการ รวมทั้งวิชาชีพต่างๆ ซึ่งเห็นว่าเป็นเหตุผลที่น่ารับฟัง แม้การเลือกตั้ง 100% เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย แต่จะทำให้คนที่อยู่ในการเมืองจะประสบความสำเร็จอยู่ฝ่ายเดียว ดังนั้นเรายินดีที่จะมีสภาร่างรัฐธรรมนูญจากประชาชน แต่กลไกที่ได้มาจะ 100% หรือไม่ จะต้องคำนึงถึงความแตกต่างและคำนึงถึงคนส่วนน้อยด้วย โดยทั้งหมดจะมีการประชุมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้(25 ธ.ค.) และจะสรุปเสนอให้คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาตัดสินใจอีกครั้ง โดยคาดว่าภายในไตรมาสแรกของเดือนมกราคมน่าจะผ่านครม.หลายๆเรื่องคงจะจบและได้ข้อยุติ ซึ่งถ้าทำได้เร็วกว่านี้อาจจะได้ข้อยุติและดำเนินการได้ภายในไตรมาสแรกของปีหน้าเลย 

ทั้งนี้เห็นว่าการรับฟังความคิดเห็นก็ยังไม่เป็นเอกภาพ ยังมีหลายความเห็น แต่ก็เห็นว่าการเลือกตั้งจังหวัดละ 1 คน 77 จังหวัดก็ถือว่าเป็นเหตุผล   ส่วนตัวแทนวิชาชีพก็ต้องไปดูในรายละเอียด ว่ามีมากน้อยขนาดไหนอาจจะมี 23 คนครบ100คน หรืออาจจะมีส่วนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องของกรรมการจะต้องไปตรวจสอบและพิจารณาแต่งตั้ง โดยการเสนอข้อมูลให้รัฐบาลจะเสนอทั้ง 2 ด้าน ทั้งความเห็นที่อยากให้เป็นและความเห็นที่มีส่วนขัดแย้ง และกรรมการก็จะมีข้อเสนอประกอบไปด้วย

สำหรับขั้นตอนการทำประชามติยังยืนยันที่ 3ครั้งหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า การทำประชามติ 3 ครั้ง ก็ทำให้เป็นหลักประกันที่ทำให้รัฐธรรมนูญผ่านได้โดยไม่ตก แต่ก็มีปัญหาว่าการใช้จำนวนครั้งที่มาก ก็มีค่าใช้จ่ายครั้งละ 3-4 พันล้านบาท ซึ่งถ้าลดจำนวนลงก็ดี โดยขณะนี้กำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่ และหาทางเจรจากับทางกกต.อยู่ ว่าสามารถรวมกับการเลือกตั้งอบจ.ในครั้งนี้ได้ก็จะลดงบประมาณลง ซึ่งคิดว่าหากลดได้จะเป็นการลดค่าใช้จ่าย แต่ต้องมั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบและทำให้การยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งนี้ผ่านได้ไม่เช่นนั้นจะเสียของ

ดังนั้นหากจำเป็นต้องผ่าน 3 ครั้งและเสียงงบประมาณ 3-4 พันล้านบาทก็จำเป็นต้องจ่าย โดยจะไม่ให้เงื่อนไขเรื่องเงินเป็นข้อจำกัด แต่ถ้าทำให้ดีและค่าใช้จ่ายน้อยลงก็จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

ส่วนข้อเสนอให้แก้ ม.256 โดยทำประชามติแค่ครั้งเดียวจะทำให้ลดค่าใช้จ่ายหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เกรงว่าจะมีปัญหาว่าตนดึงเรื่องและทำให้ทุกอย่างล่าช้า ซึ่งมีเหตุผลและมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ได้ทั้งนั้น ดังนั้นวันนี้จะดู ให้ครบส่วน และจัดการให้ดีที่สุด โดยจะอยู่ในเงื่อนไขที่วางเอาไว ตั้งแต่ตั้งคณะรัฐมนตรี คือจะไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 และทำให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และเป็นรัฐธรรมนูญที่ต้องผ่านให้ได้ อย่างไรก็ตามภายใน 4 ปีต้องจบและมีกฎหมายลูกให้เสร็จ พร้อมที่จะเลือกตั้งใหม่ในกติกาใหม่ทันที ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญ ม.256 อาจจะเป็นเรื่องที่ทำควบคู่กันไปได้ ซึ่งขณะนี้มีมาตรการที่จะจัดการหลายอย่าง และหลังจากที่ศึกษาแล้วจะมีความเห็นที่รอบด้าน ให้ทุกฝ่ายได้พิจารณาและจัดการในสิ่งที่ดีที่สุด