เปิดเหตุสภาล่ม ครั้งที่2 “สส.ก้าวไกล” เล่นเกมเกียร์ว่าง แสดงตน แต่ไม่ลงมติ

เปิดเหตุสภาล่ม ครั้งที่2  “สส.ก้าวไกล” เล่นเกมเกียร์ว่าง แสดงตน แต่ไม่ลงมติ

สภาฯ เปิดผลลงมติก่อนเกิดเหตุ สภาล่ม ครั้งที่2 พบ "สส.ก้าวไกล" เล่นเกมล่ม แสดงตนแต่ไม่ลงมติ "สส.พท." ชี้เป็นเกมเอาคืน เหตุไม่พอใจ สส.รัฐบาล ไม่หนุนเลื่อนวาระร่างกม.สมรสเท่าเทียม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่เกิดเหตุการณ์สภาล่ม เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 ธ.ค. เนื่องจากมีผู้ลงมติในวาระแรกว่าจะรับหลักการร่างข้อบังคับการประชุมสภาฯ (ฉบับที่...) พ.ศ.... ที่เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หรือไม่ จำนวนไม่ถึงกึ่งหนึ่งของผู้ร่วมลงมติ ซึ่งถือเป็นเหตุสภาฯล่มครั้งที่ 2 ในสมัยที่ 26 หลังจากที่เปิดสมัยประชุมไม่ถึงปี

ล่าสุด กลุ่มรายงานการประชุม สำนักรายงานการประชุมและชวเลข เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เผยแพร่ผลการตรวจสอบองค์ประชุมและการลงมติเมื่อ 13 ธ.ค. 2566 เวลา 18.40 น. พบว่ามีผู้แสดงตนรวม 332 คน ซึ่งเป็นสัดส่วนแสดงตนจากพรรคการเมืองต่างๆ อาทิ  พรรคก้าวไกล แสดงตน 92 คน ไม่แสดงตน 56 คน , พรรคเพื่อไทย แสดงตน 104 คน ไม่แสดงตน 37 คน , พรรคภูมิใจไทย แสดงตน 62 คน ไม่แสดงตน 9 คน, พรรคพลังประชารัฐ 25 คน ไม่แสดงตน 15 คน, พรรครวมไทยสร้างชาติ แสดงตน 13 คน ไม่แสดงตน 23 คน

ขณะที่ผลการลงมติในวาระแรก  ซึ่งมีเวลาห่างกันเพียง 2 นาที คือ เวลา 18.42 น. พบว่า มีผู้ร่วมลงมติ 228 คน  แบ่งเป็น เห็นด้วย 1 เสียง ไม่เห็นด้วย 223 เสียง ไม่ลงคะแนน 4 เสียง ซึ่งจำนวนดังกล่าวถือว่าผู้ลงมติมีจำนวนไม่ถึงกึ่งหนึ่งของ สส.  คือ 250 คน ทั้งนี้พบว่า สส.พรรคก้าวไกล มีผู้ลงมติเพียง 2 คน  จากทั้งสิ้น 148 คน และก่อนหน้านั้นแสดงตนรวม 92 คน โดยผู้ที่ลงมติ 2 คนดังกล่าวคือ  นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ สส.กทม., นายวาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งลงมติว่าไม่ลงคะแนนเสียง ขณะที่ผู้ที่ไม่ลงคะแนนอีก 2 เสียง คือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยและนายกฤดิทัช แสงธนโยธิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคใหม่

ขณะที่เสียงเห็นด้วย คือ นายอาสพลธ์ สรรณ์ไตรภพ  สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย ส่วนที่เหลือ 223 เสียง ที่ไม่เห็นด้วยนั้นมาจากสส.ฝั่งรัฐบาล

ทั้งนี้ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)  ให้สัมภาษณ์ว่า จากเหตุการณ์สภาล่มเมื่อ 13 ธ.ค. คือ การแก้เผ็ดของพรรคก้าวไกล ที่ไม่พอใจ การลงมติของ สส.รัฐบาล ในวาระที่ขอเลื่อนระเบียบวาระ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่...) พ.ศ.... หรือ สมรสเท่าเทียม ขึ้นมาพิจารณา จึงต้องการเอาคืน เพราะเห็นว่าก่อนการลงมตินั้น เป็นช่วงนับองค์ประชุม ซึ่ง สส.ช่วยกันแสดงตน แต่ไม่ยอมกดคะแนนตอนลงมติ

เปิดเหตุสภาล่ม ครั้งที่2  “สส.ก้าวไกล” เล่นเกมเกียร์ว่าง แสดงตน แต่ไม่ลงมติ

"เป็นบทเรียนที่รัฐบาลจะต้องนำไปแก้ไข ในการประชุมวิปรัฐบาล วันที่ 19ธ.ค. จะนำเรื่องสภาล่มมาหารือในที่ประชุม เพื่อวางมาตรการแก้ปัญหาไม่ให้เกิดเหตุสภาล่มขึ้นมาอีก ส่วนที่รัฐบาลมีเสียง สส.314เสียง แต่ยังปล่อยให้สภาฯล่มได้อีกนั้น อยากให้มองวิกฤติเป็นโอกาส ถือว่าพรรคก้าวไกลที่มีเขี้ยวเล็บมากขึ้น ได้เรียนรู้วิชาการเมืองมาจากแกนนำพรรคเพื่อไทยในสมัยที่แล้ว ได้ส่งสัญญาณเตือนแล้ว จากนี้ต้องเตรียมรับมือให้ดี”นายครูมานิตย์ กล่าว

ขณะที่ก่อนหน้านั้น นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุเมื่อ 14 ธ.ค. โดยปฏิเสธถึงเหตุผลเรื่องดังกล่าว ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าพรรคก้าวไกลเล่นเกมล่มองค์ประชุม ระบุแค่ว่าขอให้สอบถามพรรคเพื่อไทย เนื่องจากก่อนหน้านี้ในสภาฯ สมัยที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยย้ำว่าการรักษาองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของรัฐบาล.