'เฉลิมชัย' ผงาด 'หัวหน้า ปชป.คนที่ 9' ลั่นไม่ทำลายหลักการ อุดมการณ์พรรค

'เฉลิมชัย' ผงาด 'หัวหน้า ปชป.คนที่ 9'  ลั่นไม่ทำลายหลักการ อุดมการณ์พรรค

"เฉลิมชัย" ผงาดหัวหน้าประชาธิปัตย์ คนที่ 9 ประกาศจุดยืนไม่ทำลายหลักการ อุดมการณ์พรรค ส่วน "มาดามเดียร์" เสียงยกเว้นข้อบังคับไม่ถึง 3 ใน 4 ถือว่าขาดคุณสมบัติลงชิง

9 ธ.ค.2566 การประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เมื่อเวลา 11.30 น. หลังพักการประชุม ได้กลับเข้าสู่วาระเพื่อเสนอชื่อบุคคลชิง หัวหน้าพรรค ปชป.

โดยนายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค ได้เสนอชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค เป็นหัวหน้าพรรค 

ขณะที่นายขยัน วิพรหมชัย สมาชิกพรรคเสนอชื่อ มาดามเดียร์ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ 

ส่วน น.ส.ผ่องศรี ธารภูมิ สมาชิกพรรคเสนอชื่อ พันโทหญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล 

โดยในส่วนของ น.ส.วทันยา บุนนาค ตามข้อบังคับพรรคที่ 31(6) และข้อบังคับพรรคที่ 32(1) ระบุว่า ต้องใช้เสียงองค์ประชุม 3 ใน 4 ของดเว้นการบังคับพรรคในกรณีที่เป็นสมาชิกพรรคไม่ถึง 5 ปี และต้องเคยเป็น สส.ในนามพรรค(ตามลำดับ) ปรากฎว่า

ที่ประชุมมีมติ 139 เสียงให้น.ส.วทันยา ชิงตำแหน่ง แต่เสียงองค์ประชุมที่ให้งดเว้นข้อบังคับ ไม่ถึง 3 ใน 4 คือ169 เสียง จึงถือว่าไม่ได้รับการคัดเลือกชิงหัวหน้าพรรค

เช่นเดียวกับ พันโทหญิงฐิฏา ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติชิงตำแหน่งเช่นเดียวกัน 

ทำให้เหลือผู้ถูกเสนอชื่อคือ นายเฉลิมชัย เพียงคนเดียว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามข้อบังคับการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ข้อที่ 33 วรรคท้าย ระบุว่าถ้าผู้ถูกเสนอชื่อถอนตัวเหลือเท่าจำนวนตำแหน่งนั้นนั้นผู้ได้รับเลือกจะต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของที่ประชุมใหญ่ที่อยู่ในที่ประชุม

 

 

จากนั้นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ลุกขึ้นกล่าวกับที่ประชุมว่า

"กราบเรียนท่าน ชวน หลีกภัย ท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ท่านผู้บริหารพรรค ท่านผู้อาวุโส ท่านสมาชิกพรรคที่เคารพทุกท่านครับ

ผมเรียนอย่างนี้ว่า ที่ผมขึ้นมาพูดนี้ ขออนุญาตอาจจะไม่ใช่เป็นวิสัยทัศน์ แต่อยากจะมาพูดในบางสิ่งบางอย่างที่เป็นความรู้สึกของผม ผมขอกราบเรียนท่านสมาชิกทุกท่านว่า 

ผมรู้ว่าการตัดสินใจของผมในวันนี้มันเจ็บ มันทำลายสิ่งที่ผมสร้างมาทั้งชีวิต เข้าใจครับ แต่ผมพูดอยู่ตลอดเวลาว่า ผมคุยกับท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์เมื่อสักครู่ ผมกรีดเลือดออกมาก็เป็นสีฟ้า ไม่มีสีอื่นเลย แล้วตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่ในประชาธิปัตย์ ก็ยึดหลักการ และอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และเป็นคนเคร่งครัดในหลักการด้วยซ้ำ ก็เรียนท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ 

แล้วเมื่อผมมาเป็นรัฐมนตรี พรรคให้โอกาส ผมยืนยันเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต กล้าพูดนะครับว่า ผมไม่มีมลทินเรื่องนี้ ผมเป็นคนหนึ่งที่เวลาที่ผมอยู่กระทรวงเกษตรฯ ผมกล้าท้าข้าราชการให้ตรวจสอบผมอีกครับ เพราะว่าผมไม่ได้ไปในนามของตระกูลศรีอ่อน ผมไปในนามพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งติดตัวผม 

แล้ววันนี้ก็เช่นเดียวกัน เมื่อวานผมก็สัมภาษณ์ไป บอกวันนี้ถึงผมจะมีแต่วิญญาณแต่ผมยังมีความสำนึกในพระคุณ ในทุกอย่างที่เป็นประชาธิปัตย์ ที่ทำให้ผมมีโอกาสมายืนวันนี้ ผมเรียนท่านสั้นๆ ว่าผมมีความจำเป็นครับ และผมก็อยากจะเห็นพรรคเดินไปข้างหน้า

ผมจะทำทุกอย่างให้พรรคมีเอกภาพ ผมจะทำให้พรรคซึ่งมีอยู่แล้วนี้ ยึดมั่นในหลักการ และอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และที่สำคัญเมื่อสักครู่ที่ผมคุยกับท่านหัวหน้าอภิสิทธิ์ก็คือ ผมยืนยันกับหัวหน้าอภิสิทธิ์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่ ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เป็นนะครับ เราไม่เคยเป็นตลอดระยะเวลา 22 ปี ที่ผมอยู่ประชาธิปัตย์ เราไม่เคยเป็นพรรคอะไหล่ หลายสิ่งหลายอย่างที่ผ่านมา มันอาจจะทำให้การเมืองของพรรคสะดุด ผมก็จะพยายามทำทุกอย่าง เหมือนที่ผมบอกละครับว่า ผมมาทำงานในภารกิจหนึ่ง ผมจะพยายามทำตรงนี้ให้ดีที่สุด จะพยายามทำให้เป็นเอกภาพ และทำให้ดีที่สุดและจะไม่มีวันทำลายหลักการ และอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณมากครับ" นายเฉลิมชัย กล่าว

 

จากนั้นเวลา 13.20 น. การนับคะแนนเสร็จสิ้น ปรากฎว่า สมาชิกให้ให้ความเห็นชอบ นายเฉลิมชัย อยู่ที่ 88.5%  ถือว่าได้รับการคัดเลือกเป็นหัวหน้าพรรคคนที่9