'รมว.พม.' เคาะ งดดอกเบี้ยโรงจำนำ 5,000บาท

'รมว.พม.' เคาะ งดดอกเบี้ยโรงจำนำ 5,000บาท

“วราวุธ” เด้งรับนโยบายแก้หนี้รัฐบาล งดดอกเบี้ยโรงรับจำนำ 5,000 แรก หวังลดภาระประชาชน ระบุตรียมเสนอ ครม.มอบของขวัญปีใหม่ ปชช.

ที่จ.หนองบัวลำภู นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงมาตรการแก้หนี้ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ว่า กระทรวงฯ มีสถานธนานุเคราะห์ หรือโรงรับจำนำ ที่พร้อมจะงดดอกเบี้ยในช่วย 5,000 บาทแรกให้ประชาชนสามารถตั้งตัวได้ง่ายขึ้น และยังมีอีกหลายมาตรการในการสนับสนุนสวัสดิการต่างๆ เช่น การซ่อมบ้าน การดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น พร้อมเปิดเผยด้วยว่า ในการประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) กระทรวงฯ จะเสนอสนับสนุนสวัสดิการศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ ใน 20 จังหวัดภาคอีสาน และยังจะมีนโยบายของขวัญปีใหม่จากกระทรวง ทั้งหมด 8 ด้าน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจะมีการเปิดเผยรายละเอียดอีกครั้ง

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การแก้หนี้ยังไม่ต่างกับรูปแบบเดิม นายวราวุธ กล่าวว่า ควรรอดูผลงานรัฐบาลก่อน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับนโยบายรัฐบาลมา และจะเร่งทำงานให้ดีที่สุด จึงขอให้รอดูว่า นโยบานที่รัฐบาลออกมา จะช่วยลดภาระประชาชน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านั้น นายวราวุธ  ได้ลงพื้นที่ตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อติดตามความก้าวหน้าการให้ความช่วยเหลือเยียวยา และให้กำลังใจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรง ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชั่วคราว บริเวณโรงเรียนบ้านหนองกรุงศรีโพธิ์ศรีสมพร 

โดยได้รับฟังแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กประถมวัย ด้วยการเรียนการสอนระบบมอนเตสซอรี่   และเยี่ยมชมการออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ “บ้านรัตนาภา สัญจร” โดยสาธิตการทำอาหาร ขนม การให้บริการเสริมสวยสตรี โดยศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวรัตนาภา จังหวัดขอนแก่น และเยี่ยมชมการออกบูธจำหน่ายสินค้า และผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพของกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ อาทิ การตัดเย็บผ้า ทอผ้า ของเครือข่ายผู้สูงอายุ และคนพิการ

ขณะที่ นายวราวุธ กล่าวหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ว่า การเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อให้กำลังใจแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ สำหรับหัวใจการทำงานตนได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่ไปว่าขอให้เร่งเรื่องการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรงขึ้นอีก ตนจึงได้ให้แนวทางกับเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ​ ไม่ใช่แค่เฉพาะพื้นที่หนองบัวลำภู​ ว่าขอให้ปี 2567 เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ อย่าให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนเมื่อปี 2565 แม้เราต้องทำงานเหน็ดเหนื่อย แต่ต้องยอมเหนื่อย​เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตซ้ำ เพราะถ้าเหตุเกิดขึ้นแล้ว เราจะยิ่งเหนื่อยหนักขึ้นอีก

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การทำงานเชิงรุกต้องมีความร่วมมือกันทั้งกำนัน​ ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.​) และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เพราะตนเชื่อว่าทุกหมู่บ้านและผู้นำท้องถิ่นรู้ดีว่าจุดเปราะบางหรือจุดเสี่ยงของแต่ละหมู่บ้านอยู่ที่ครอบครัวใดบ้าง​ ฉะนั้นอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) จึงทราบดี​และต้องเข้าไปพูดคุยเพื่อแก้ไข สถานการณ์เสียก่อน พร้อมประเมินว่าหากสถานการณ์แย่ลง จะต้องหามาตรการอื่นเข้าไปแก้ไข โดยการทำงานเชิงรุกจะต้องเน้นการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและเหตุการณ์ต่างๆ มิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายแก่ทุกฝ่าย​ ขณะเดียวกัน ตนเชื่อว่าการทำงานในพื้นที่จะต้องมีการพัฒนาต่อไป​.