'วันนอร์' รับข้อเสนอ 'สหพันธ์นิสิตฯ' นำร่องรัฐสภาปลอดบุหรี่ทุกชนิด

'วันนอร์' รับข้อเสนอ 'สหพันธ์นิสิตฯ'  นำร่องรัฐสภาปลอดบุหรี่ทุกชนิด

“สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์ฯ” ยื่นข้อเรียกร้องต่อ “วันนอร์” ร่วมรณรงค์ให้พื้นที่รัฐสภา เป็นเขตปลอดบุหรี่มวน-ไฟฟ้า ด้าน "ปธ.สภาฯ" ขานรับนำร่องรณรงค์วันนี้

ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือจากสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ และองค์กรที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรียกร้องให้พื้นที่รัฐสภาปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

โดยน.ส.นันทิดา แก้วถาวร ประธานฝ่ายรณรงค์เพื่อสุขภาพ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ฯ กล่าวว่า เนื่องด้วยในปัจจุบัน การใช้บุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้ากระทบต่อสุขภาพของประชาชนไทยเป็นอย่างมาก อาทิ ปอดอักเสบจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้า เป็นต้น นอกจากนี้การควบคุมการใช้บุหรี่ทุกชนิดในที่สาธารณะ หรือที่เขตปลอดบุหรี่ไม่ใด้มีการบังคับใช้อย่างเข้มงวด ส่งผลให้มีประชาชนจำนวนมากกลายเป็น “ผู้สูบบุหรี่มือสอง” โดยปริยาย นอกจากนี้เด็กและเยาวชนจำนวนมากมีการเริ่มใช้บุหรี่ตั้งแต่ในวัยประถมศึกษา โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีภาพลักษณ์ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่มวน รวมถึงรูปลักษณ์ สีสันสวยงาม มีกลิ่นหอม  ส่วนกฎหมายห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าที่ถูกนำมาเป็นที่ถกเถียงในปัจจุบันนี้

น.ส.นันทิดา กล่าวว่า  สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ฯ ขอให้มีการทบทวนในประเด็นต่าง ๆ 3 ประเด็น ดังต่อไปนี้

1.ผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนไทยโดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก และเยาวชน ย่อมนำเป็นกังวลมากขึ้น หากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าสามารถทำได้อย่างถูกกฎหมาย แม้ปัจจุบันนี้ยังไม่ถูกกฎหมายก็พบว่ายังมีการลักลอบนำเข้า ซื้อขาย และใช้อย่างแพร่หลายในเด็กและเยาวชน

2.ภาครัฐต้องบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมการใช้ในเด็กและเยาวชนให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงวางแผนจัดการความเสี่ยงที่จะซ้ำเติมการเสพติดของบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กเล็กและเยาวชน

และ3.การแต่งตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ต้องมีรายชื่อ กมธ.วิสามัญฯ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “ธุรกิจยาสูบ” เพื่อป้องกันการแทรกแซงนโยบายควบคุมยาสูบจากธุรกิจยาสูบหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 

“สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ฯ ขอเรียกร้องให้รัฐสภาเป็นสถานที่ปลอดบุรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 ที่ห้ามสูบในสถานที่ราชการ เพื่อเคารพกฎหมายและเป็นแบบอย่างแก่เด็ก และเยาวชนไทย ” น.ส.นันทิดา กล่าว

ด้านประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า รัฐสภาและรัฐบาลต้องมีความรับผิดชอบในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยสภาผู้แทนราษฎรได้มีการประชุม ผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่ารัฐสภาจะเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่ ทั้งบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้า

"รัฐสภามีความพยายามจะไม่ให้มีบุหรี่ในบริเวณพื้นที่ของสภาฯ โดยเริ่มจากการรณรงค์ในวันที่ 27 พ.ย.นี้  ที่รัฐสภามีกิจกรรมการจัดงานวันลอยกระทง ซึ่งจะไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ภายในงาน ถือเป็นการเริ่มต้นภายในหน่วยงานและเป็นจุดเริ่มต้นของการรณรงค์ในเรื่องนี้ และจะขอรับเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการต่อไป" ประธานสภาฯ กล่าว.