บ่มบารมี ปั้นจุดขาย ‘อุ๊งอิ๊ง’ วัดฝีมือ แม่ทัพ คุม เพื่อไทย

บ่มบารมี ปั้นจุดขาย ‘อุ๊งอิ๊ง’ วัดฝีมือ แม่ทัพ คุม เพื่อไทย

จากนี้จึงน่าสนใจว่า การบริหารจัดการในเพื่อไทยในมืออิ๊ง โดยเฉพาะกับคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ จะผสมกลมกลืน หรือกลายเป็นความบาดหมาง

การเคลื่อนไหวลงพื้นที่ต่างจังหวัดของอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในช่วงเวลานี้ มีความหมายในทางการเมืองมากกว่าการทำกิจกรรมพบปะชาวบ้านทั่วไป หรือเพื่อเลี้ยงกระแสให้ถูกพูดถึงบนพื้นที่สื่อเท่านั้น  

แต่มันยังมีความหมายไปถึงความพยายามสร้างจุดขายในทางการเมืองให้อุ๊งอิ๊ง ที่จำเป็นต้องสั่งสมประสบการณ์ และพิสูจน์ฝีมือบางอย่างให้เป็นที่ประจักษ์ ก่อนเวลาสำคัญที่สุดในชีวิตทางการเมืองจะมาถึง ยุทธศาสตร์การจับคู่นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ จึงเหมือนปั้นมาเพื่อปลุกความเป็นผู้นำของอุ๊งอิ๊งโดยเฉพาะ 

บทบาทการเป็นรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ของอุ๊งอิ๊ง ดูจะโดดเด่นกว่าเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะประธานบอร์ดชุดดังกล่าวอย่างเห็นได้ชัด ทุกครั้งที่มีการประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล มักถูกจับตามองเป็นพิเศษ หรือเป็นไปได้ว่างานในส่วนนี้ถูกแบ่งบทให้เล่นชัดเจนก็อาจจะไม่ผิดนัก

การผลักดันนโยบายอำนาจละมุน หรือซอฟต์พาวเวอร์ ที่นายหญิงคนใหม่ หมายมั่นปั้นมือจะยกระดับของดีของไทยให้เฉิดฉาย เป็นที่สนใจของคนไทยและคนต่างชาติ สร้างเม็ดเงินกระจายลงสู่ท้องถิ่น จึงเป็นบททดสอบสำคัญว่า อย่างน้อยก็มีผลงาน ทำอะไรในเชิงการบริหารมาบ้าง  

เนื่องจากปฏิเสธไม่ได้ว่า ความคาดหวังในตัวผู้นำประเทศ หรือคนที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำ ส่วนสำคัญอย่างโปรไฟล์การทำงานในอดีต ก็มีผลต่อความเชื่อมั่นอยู่ไม่น้อย หลายคนจึงเฝ้าจับตาดูความสามารถของอุ๊งอิ๊ง จะฉายแววความเป็นลูกพ่อทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนเป็นที่ยอมรับมากน้อยเพียงใด 

ล่าสุด ไอเดีบบรรเจิด เล็งให้หมูกระทะให้ขึ้นชั้นเป็นแซ่บพาวเวอร์ หรือซอฟต์พาวเวอร์แบบไทยๆ สุดท้ายจะเป็นอย่างไร ทุกคนก็รอดูฝีมืออิ๊ง ว่า จะจัดการความคิดสร้างสรรค์ ที่หลายอย่างยังฟุ้งในอากาศให้เป็นรูปธรรมได้อย่างไร หรือจะมีสูตรสำเร็จเฉพาะตัวเพื่อเดินตามรอยญี่ปุ่น เกาหลีฯ หรือจะทำให้ดีกว่าเขาจริงหรือไม่ แค่ไหนต้องจับตา   

จังหวะคู่ขนาน ในวันที่สถานะของทักษิณอยู่ในการควบคุมตัวของทางการ แม้จะไม่ได้ใช้ชีวิตในเรือนจำ เพราะอยู่ระหว่างรักษาตัวบนชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ จนเป็นรหัสเรียกขานว่าคนชั้น 14 ไปโดยปริยาย 

จากคนแดนไกล สู่คนแดนใกล้ของทักษิณ อาจจะทำให้การขยับอะไรบางอย่าง ไม่คล่องตัวเหมือนตอนใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ การติดต่อสื่อสารของบิ๊กเนมหรือคนในเพื่อไทยถึงนายใหญ่ไม่ได้สะดวกเหมือนที่ผ่านมา ที่สามารถต่อสายตรงพูดคุยได้ทันที วันนี้ช่องทางติดต่อคนชั้น 14 มีขั้นตอนซับซ้อนกว่าปกติ มีอะไรต้องผ่านคนใกล้ชิดที่ไว้ใจสูง ยิงตรงแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว

การปั้นอุ๊งอิ๊งให้ขึ้นมายืนบนเวทีการเมือง สืบทอดมรดกตระกูลชินวัตร ด้วยการเป็นจุดศูนย์รวมอำนาจของพรรคเพื่อไทย นอกจากต้องหาจุดขายให้ได้แล้ว ยังต้องสร้างบารมีและการยอมรับควบคู่กันไปด้วย 

การรับบทบาทเป็นกาวใจ เคลียร์ความบาดหมางระหว่างทักษิณ กับเฉลิม อยู่บำรุง นักการเมืองมากอาวุโส ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวทั้งคู่แตกหัก ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ เพราะผิดหวังที่คนบ้านริมคลองไม่ได้ตำแหน่งในรัฐบาล แต่สุดท้ายก็ปรากฎภาพถ่ายร่วมกันของอิ๊ง และ3พ่อลูกและหลานที่บ้านอยู่บำรุง จบอย่างชื่นมื่น 

ตรงนี้ก็เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า ช่วงเวลาถ่ายเลือดใหม่เกิดขึ้นแล้ว และแม่ทัพตัวจริงของค่ายนี้ คือตัวของลูกสาวคนเล็กทักษิณ ที่ชื่อแพทองธารนั่นเอง จากนี้จึงน่าสนใจว่า การบริหารจัดการในเพื่อไทยในมืออิ๊ง โดยเฉพาะกับคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ จะผสมกลมกลืน หรือกลายเป็นความบาดหมาง ก็เป็นเรื่องต้องติดตามกันต่อไป