‘อินเตอร์โปล-ตำรวจลับ’ แกะรอย ‘สถานีตำรวจจีน’

‘อินเตอร์โปล-ตำรวจลับ’  แกะรอย ‘สถานีตำรวจจีน’

"หน่วยงานความมั่นคง" เคยสุ่มตรวจ “เยาวราช-ห้วยขวาง” หาที่ตั้ง “สถานีตำรวจจีน” ฉากหน้าทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือคนจีนในด้านเอกสาร แต่ฉากหลัง ไล่ล่าทุนจีนสีเทา ผู้เห็นต่างรัฐบาลจีน ผลักดันส่งกลับไปประเทศจีน

แม้ “หมอชัย วัชรงค์” โฆษกรัฐบาล จะออกมาปฏิเสธว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายนำตำรวจจีนเข้ามาลาดตระเวนร่วมตำรวจไทย ตามมาตรการดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวจีนจากกลุ่มทุนจีนสีเทา หลังกลายเป็นประเด็นทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

แต่ชัดเจนว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการป้องกัน ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นผู้เสนอให้นำตำรวจจีนเข้ามาในฐานะผู้ช่วยตำรวจไทยในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะปัจจุบันทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ผ่านองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (INTERPOL)หรือ “ตำรวจสากล”

โดยในคำชี้แจงตอนหนึ่งของ “โฆษกรัฐบาล” ได้อ้างคำรายงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงพฤติกรรมอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในมุมของคนจีนที่มาท่องเที่ยวเมืองไทย

"พวกกลุ่มคนจีนสีเทา มีความเกรงกลัวตำรวจจีนด้วยกันเอง และนักท่องเที่ยวจีนจะรู้สึกปลอดภัยเป็นพิเศษจากพวกเกเรทั้งหลาย ที่เป็นคนจีนด้วยกัน แต่มารังแกคนจีนที่มาท่องเที่ยวไทย หากมีตำรวจจีนมาช่วยดูแล เขาจะรู้สึกเชื่อมั่นเป็นพิเศษ ตำรวจไทยคิดว่ากลยุทธ์ที่ดีเพื่อกำราบกลุ่มจีนสีเทา ให้ตำรวจจีนเป็นผู้ช่วยในการปฎิบัติงาน ซึ่งปกติทำงานร่วมกันอยู่แล้วของตำรวจสากล เพียงแต่ครั้งนี้แสดงออกให้เห็นชัดเจนขึ้น เพื่อให้ตำรวจไทยได้ข้อมูล เบาะแสล่วงหน้า แม่นยำ รวดเร็ว 100% ป้องกันไม่ให้คนจีนที่คิดไม่ดีมาก่อเหตุทำให้เสียบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศไทย" โฆษกรัฐบาล ระบุ

โดยรัฐบาล เชื่อว่า มูลเหตุสำคัญทำให้ตัวเลขจีนเที่ยวไทยไม่เข้าเป้าตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)กำหนดไว้ หลังประกาศใช้มาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) หรือ ฟรีวีซ่ากับนักท่องเที่ยวจีน คือปัญหากลุ่มทุนจีนสีเทาที่สร้างอิทธิพลในประเทศไทย

ต้องยอมรับว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีนจำนวนไม่น้อย ตกเป็นเหยื่อการกระทำกลุ่มทุนจีนสีเทาเมื่อเข้ามาในประเทศไทย เช่น ถูกจับไปเรียกค่าไถ่ แม้รัฐบาลพยายามจะกวาดล้าง แต่ด้วยกลไกกลุ่มทุนจีนสีเทาที่ซับซ้อน และซึมลึกไปทุกหัวระแหงทั้ง การเมือง ข้าราชการ ธุรกิจ ได้ใช้ “เครือข่าย-คอนเนกชั่น” ของผู้กว้างขวางปกป้องให้พ้นเงื้อมือเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หวังใช้ช่องทางที่มีอยู่คือความร่วมมือตำรวจสากล ขอเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนเข้ามาสนับสนุนการปฏิบัติงานของตำรวจไทย เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลที่ต้องการดึงนักท่องเที่ยวจีนมาท่องเที่ยวไทยเป็นไปตามเป้าปี 2567 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ 

เพียงแต่จะออกมาในรูปแบบใด เพราะสิ่งที่ต้องระวัง การนำตำรวจจีนมาเป็นผู้ช่วยตำรวจไทย หากไม่มีกรอบหรือข้อตกลง

ที่ชัดเจน สิ่งไหนทำได้หรือไม่ได้ เพราะหากเข้ามาแล้ว ตำรวจจีนจะไม่ได้มาเพียง 1-2 คน แต่จะยกกันมาทั้งระบบ ทั้งสำนักงาน

เมื่อเร็วๆ นี้ “หน่วยงานความมั่นคง” เคยส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ “เยาวราช-ห้วยขวาง” เพื่อตรวจหาที่ตั้ง “สถานีตำรวจจีน” ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 4-5 คน 

โดยฉากหน้าทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือคนจีนในด้านเอกสารต่างๆ เช่น การต่อใบขับขี่ แต่ฉากหลัง มีหน้าที่ไล่ล่าอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น ทุนจีนสีเทา ที่มาตั้งกลุ่มเป็นมาเฟีย หรือผู้เห็นต่างกับรัฐบาลจีน และผลักดันส่งกลับไปยังประเทศจีน

แม้การสุ่มตรวจ “เยาวราช-ห้วยขวาง”หน่วยงานความมั่นคงยังไม่พบสถานที่เข้าข่าย แต่ก็ไม่ยืนยันว่าจะไม่มี โดยให้เหตุผลว่า คนกลุ่มนี้เข้ามาแบบไม่แสดงตน มาปฏิบัติการแบบลับๆ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐยินยอม เนื่องจากสมประโยชน์ซึ่งกันและกัน

แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง ระบุว่า ตามหลักการ การทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจไทยกับตำรวจจีน หรือแม้แต่ชาติอื่น ผ่านตำรวจสากล ภายใต้ความร่วมมือ เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยของประเทศนั้นๆ เป็นช่องทางที่ดีที่สุด

“ทางลัดที่ทำได้ก็คือ ผ่านอินเตอร์โปล การส่งข้อมูลแลกเปลี่ยนกัน ว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามามีประวัติอาชญากรรมในจีนหรือไม่ หากอยากพิสูจน์อัตลักษณ์ตัวบุคคล ก็ขอให้ตำรวจจีนเดินทางเข้ามา ก็สามารถทำได้ ถือเป็นเป้าหมายเฉพาะเจาะจง เขามาดูคนของเขาที่กระทำผิดในประเทศเขาและหนีเข้ามาในไทย”

“ส่วนตำรวจลับ เป็นเรื่องของความร่วมมือ ที่จะต้องไม่เปิดเผย ให้มาช่วยชี้เบาะแส ชี้เป้า ซึ่งเป็นความร่วมมือทางด้านการข่าวกับต่างประเทศที่ไว้วางใจ และแลกเปลี่ยนการทำงานทั้งสองฝ่าย” แหล่งข่าวความมั่นคง กล่าว และว่า

แต่หากใช้ช่องทางอื่น ในการนำตำรวจจีนเข้ามาปฏิบัติงานภายประเทศไทย คิดว่าไม่ง่าย เพราะต้องผ่านหลายขั้นตอน สำคัญต้องไปดูข้อตกลงและกฎหมายด้านความมั่นคงของแต่ละประเทศ ว่าต้องผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เช่น ขอความเห็นชอบคณะรัฐมนตรี  หรือต้องผ่านกลไกสภาหรือไม่ ซึ่งแนวทางนี้ คิดว่าเป็นไปไม่ได้ และไม่เหมาะที่จะทำ

“ข่าวลือเรื่องสถานีตำรวจจีนในเยาวราช หรือห้วยขวาง แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่รัฐ ปิดตาข้างหนึ่งหรือไม่ ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย และคนปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งเป็นปัญหาที่ทุกรัฐบาลยังแก้ไม่ได้”

มาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวจีน คงเป็นประเด็นต้องติดตามกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้ว รัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะใช้กลยุทธ์ใด ป้องปรามกลุ่มจีนสีเทาที่ฝังรากลึกในสังคมไทย เพื่อไม่ให้กระทบมิติด้านความมั่นคง