ปลัด มท.สั่งผู้ว่าฯทั่วประเทศ ห้ามออกใบอนุญาตพกปืน จ่อประสาน ผบ.ตร.

ปลัด มท.สั่งผู้ว่าฯทั่วประเทศ ห้ามออกใบอนุญาตพกปืน จ่อประสาน ผบ.ตร.

ปลัด มท.รับลูก 'อนุทิน' สั่งเข้ม 'ผู้ว่าฯ' ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ห้ามออกใบอนุญาตพกปืน หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญหลายครั้ง เตรียมประสาน ผบ.ตร.งดออกใบอนุญาตทั่วราชอาณาจักรด้วย

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2566 ที่กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงมาตรการกำกับดูแลควบคุมการใช้อาวุธปืน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนว่า ห้วงเวลาที่ผ่านมาได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญที่คล้ายคลึงกัน ทั้งเหตุการณ์เยาวชนอายุ 14 ปีใช้แบลงค์กันที่เป็นสิ่งเทียมอาวุธปืนดัดแปลงเป็นอาวุธปืน ก่อเหตุกราดยิงที่ศูนย์การค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หรือกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการและมีพฤติการณ์ที่อาจเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้ใช้อาวุธปืนก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญในพื้นที่จ.หนองบัวลำภู หรือกรณีเจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธสงครามกราดยิงตามเส้นทางสาธารณะจนกระทั่งถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังในพื้นที่อ.เมืองนครราชสีมา ล่าสุดเกิดเหตุวัยรุ่นยิงกัน บริเวณหน้าโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ กรุงเทพฯทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุอาชญากรรมที่ร้ายแรงและส่งผลต่อสภาพจิตใจของพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ตลอดจนความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมกำหนดมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งกำชับว่าหลังจากนี้ไปต้องไม่มีการพกพาอาวุธปืนแล้ว และเพื่อเป็นการป้องกันเหตุอาชญากรรมที่ร้ายแรง และสนองตามนโยบายของนายอนุทิน จึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดสั่งการ ดังนี้

1. ให้นายทะเบียนท้องที่งดการออกใบอนุญาตให้สั่ง นำเข้า หรือค้าซึ่งสิ่งเทียมอาวุธปืนชนิดแบลงค์กัน หรือสิ่งเทียมอาวุธปืนอื่นที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธปืนได้โดยง่าย และแจ้งให้นายทะเบียนท้องที่ทราบแนวทางที่จะไม่มีนโยบายให้เพิ่มเติมผู้ได้รับใบอนุญาต สั่ง นำเข้า หรือค้าซึ่งสิ่งเทียมอาวุธปืนรายใหม่ทุกท้องที่ทั่วประเทศ สำหรับกรณีร้านค้าอาวุธปืน ให้นายทะเบียนท้องที่งดการออกใบอนุญาตให้สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

2. ให้นายทะเบียนท้องที่อำเภอขอความร่วมมือไปยังบุคคลผู้ครอบครองแบลงค์กัน หรือสิ่งเทียมอาวุธปืนผู้สุจริตทุกราย ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้ดัดแปลงแก้ไขสิ่งเทียมอาวุธปืนของตนเองแต่อย่างใด ให้นำแบลงค์กันหรือสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ครอบครองมาแสดง และทำบันทึกต่อนายทะเบียนท้องที่ที่มีภูมิลำเนาอยู่ เพื่อเป็นการแสดงเจตนาสุจริตโดยไม่เพิ่มภาระเกินสมควรกับบุคคลเหล่านั้น

3. ให้นายทะเบียนท้องที่พิจารณาออกใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน (แบบ ป.3) ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป.4) และใบอนุญาตให้สั่งหรือนำเข้าซึ่งเครื่องกระสุนปืน (แบบ ป.2) แก่สมาคมกีฬายิงปืนที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการกีฬาแห่งประเทศไทยเท่านั้น และต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน โดยเครื่องกระสุนปืนที่จะอนุญาตให้สมาคมกีฬายิงปืนซื้อ สั่งหรือนำเข้าได้ จะต้องเป็นชนิดและขนาดที่สอดคล้องกับอาวุธปืนที่ปรากฏตามใบอนุญาตให้มี และใช้อาวุธปืนของสมาคมกีฬายิงปืน รวมทั้งสอดคล้องเหมาะสมกับจำนวนเครื่องกระสุนปืน โดยดูจากข้อเท็จจริงตามสภาพความต้องการของแต่ละพื้นที่ ตลอดจนศักยภาพพื้นที่ในการจัดเก็บอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และในกรณีที่นายทะเบียนท้องที่จะพิจารณาออกใบอนุญาตให้สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งเครื่องกระสุนปืน ชนิดเครื่องกระสุนปืนสั้น ต้องถือปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด

นายสุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ตนยังได้สั่งการให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดงดการออกใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว (แบบ ป.12) ในเขตพื้นที่จังหวัด ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และเตรียมประสานผบ.ตร.ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนใน กทม.และทั่วราชอาณาจักร เพื่อขอความร่วมมืองดออกใบอนุญาต เพื่อสนองนโยบาย มท.1 นโยบายรัฐบาล และเพื่อสวัสดิภาพและความผาสุกของสังคมไทย ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้กำชับให้ทุกกลไกในระดับพื้นที่ ได้หมั่นตรวจสอบตรวจตราความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ทั้งสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ รวมถึงสถานที่ต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งรวมคนเป็นจำนวนมาก โดยประสานการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานด้านความมั่นคง และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รวมทั้งเพื่อสร้างความอุ่นใจและความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่

“หากพี่น้องประชาชนมีเบาะแสการกระทำผิดเกี่ยวกับเรื่องอาวุธปืน หรือสิ่งเทียมอาวุธปืน หรือยาเสพติด หรือสิ่งที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สามารถแจ้งได้ที่ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ปลัดอำเภอ นายอำเภอ หรือโทรสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการควบคุมเหตุการณ์หรือดำเนินการกับผู้กระทำความผิดให้ได้รับโทษตามกฎหมาย เราจะร่วมกันทำให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งความสุข สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีสวัสดิภาพ มีความปลอดภัยในทุกพื้นที่ เพื่อประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ กล่าว