'ปิยบุตร' เซ็งมติก้าวไกล ปม สส.คุกคามทางเพศ จี้แสดงความรับผิดชอบด้วยตัวเอง

'ปิยบุตร' เซ็งมติก้าวไกล ปม สส.คุกคามทางเพศ จี้แสดงความรับผิดชอบด้วยตัวเอง

‘ปิยบุตร’ เซ็งมติ ‘ก้าวไกล’ ปมจัดการ 2 สส.คุกคามทางเพศ บี้แสดงความรับผิดชอบไม่ต้องรอกลไกพรรค ชี้มีแต่เสียกันทุกฝ่าย ทำประชาชน-พ่อแม่ผู้ปกครอง ไม่ไว้วางใจให้ลูกมาทำงานกับพรรค ชี้มี สส.หญิงไม่กี่คนกล้าประท้วงขึ้นโปรไฟล์ดำ แต่ระดับนำเงียบ

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2566 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีตผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น X (ทวิตเตอร์) ถึงกรณีพรรคก้าวไกลมีมติปม 2 สส.ถูกร้องเรียนมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศ โดยขับนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี พ้นจากสมาชิกพรรค ส่วนนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. ให้ตัดสิทธิ์พึงมี และคาดโทษขับออกนั้น ว่า การใช้อำนาจที่ได้จากตำแหน่งของตนไปจูงใจล่อลวงบุคคลอื่นให้กระทำการตามที่ตนต้องการเพื่อแลกเปลี่ยนกัน โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวพันกับเรื่องทางเพศ เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ในยุคสมัยนี้ หากพรรคก้าวไกลต้องการยกระดับมาตรฐานในเรื่องเหล่านี้ ต้องการป้องกัน ต่อต้านการคุกคามทางเพศและความรุนแรงทางเพศภายในองค์กรหรือสถานที่ทำงาน ให้ได้ ตามที่โฆษณาไว้จริง ผลมติที่ออกมาวันนี้ นับว่าน่าผิดหวัง (แน่นอน ส่วนหนึ่งมาจากรัฐธรรมนูญไปบังคับว่าต้องใช้จำนวนถึง 3 ใน 4 ของจำนวน สส.และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งถือว่าสูงมาก) 

“แต่เรื่องแบบนี้ เมื่อทั้งคณะกรรมการวินัยของพรรค และทั้งคณะกรรมการบริหารพรรค มีมติว่ามีการกระทำความผิดร้ายแรงแล้ว หาก สส.ผู้ถูกร้องรู้จักมาตรฐานใหม่ในทางการเมืองอยู่บ้าง รู้จักความรับผิดชอบต่อผู้เสียหาย พรรค เพื่อน สส.คนอื่น ผู้สนับสนุนพรรค และสังคมอยู่บ้าง คิดถึงตำแหน่งหัวโขนที่พึ่งได้มาอย่าง สส. ให้น้อยลงบ้าง สส.ผู้ถูกร้องก็ควรแสดงความรับผิดชอบ โดยไม่ต้องมาถึงวันนี้ที่พรรคต้องใช้กลไกตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ที่ประชุม สส.ต้องมาลงมติ”นายปิยบุตร ระบุ 

นายปิยบุตร ระบุอีกว่า เหตุการณ์คราวนี้ดำเนินมาถึงตอนนี้ ไม่มีใครได้ มีแต่เสียกันทุกฝ่าย  ผู้ร้อง ผู้เสียหาย ถูกกระทำ และถูกกระทำซ้ำอีกทุกครั้งเมื่อต้องชี้แจงหรือถูกสื่อตามสัมภาษณ์ และถูกกระทำซ้ำๆอีก เมื่อไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ 
พรรคก้าวไกลเสียหาย ถูกโจมตี วิจารณ์ ไม่ใช่แค่กรณีเรื่องการคุกคามทางเพศเท่านั้น แต่ยังทำให้ประชาชน พ่อแม่ผู้ปกครอง ไม่ไว้ใจ ไม่มั่นใจ ที่จะให้ลูกหลานของเขาได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นอาสาสมัครหรือทำงานกับคนของพรรค

นายปิยบุตร ระบุด้วยว่า สส.ผู้ถูกร้อง เมื่อไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ก็จะถูกตำหนิประณามไปตลอด อนาคตทางการเมืองน่าจะไปต่อได้ยากมาก สส.ในพรรค ต้องมาประชุม อภิปราย ลงมติ เกิดความแตกแยก กินแหนงแคลงใจกันในพรรค พนักงานพรรค ทีมงาน เสียความเชื่อมั่น ความนับถือในตัว สส. ไม่อยากปฏิบัติงานให้อีกต่อไป เสียกำลังใจและหมดพลัง
ทั้งหมดนี้ คือ ผลพวงจากการไม่กล้าเผชิญหน้ากับปัญหาอย่างตรงไปตรงมา ไม่กล้ายอมรับผิด ไม่กล้าแสดงความรับผิดชอบ

ต่อมานายปิยบุตร โพสต์เพิ่มเติมว่า เช่นเคย เห็นมี สส.ไม่กี่คน ส่วนมากเป็น สส.หญิง ที่แสดงออกถึงความไม่พอใจ ไม่เห็นด้วย แสดงความรู้สึกออกมา แต่ระดับนำ แสดงออกน้อยมาก หรือแทบไม่มี 

โดยมีผู้มาแสดงความคิดเห็นว่า ผลสอบเพิ่งออก จะให้พูดอะไร นี่ก็รีบจังเลย แต่นายปิยบุตร ทวิตตอบกลับว่า เรื่องรัองเรียนกันมานานแล้ว มติออกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สังคมพูดกันไปทั่วแคว้นแดนดิน มาหลายสัปดาห์ สส.ก็พูดคุยกันเองถึงเรื่องนี้มาหลายสัปดาห์ คุณคิดว่า สส.แสดงความเห็นเรื่องเหล่านี้กันบ้างมั้ยล่ะ  น้อยมาก น้อยจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือ สส.ก้าวไกล 

"พอผลวันนี้ออกมา มีไม่กี่คนที่กล้าหาญประท้วงทางสัญลักษณ์เปลี่ยนโปรไฟล์เป็นสีดำ ผมเรียกร้องไปที่ระดับนำ เพราะ คุณคือ Front Line ของพรรค เป็นหน้าตาของพรรค เป็นผู้นำพรรค ถ้าแสดงออกมา ก็จะช่วยให้สังคมเห็นว่า คุณไม่นิ่งนอนใจ คุณเทคอิทซีเรียสลี่ในเรื่องเหล่านี้ เท่าที่เห็นระดับนำ มีชัยธวัช หัวหน้าพรรค เท่านั้นกระมัง" นายปิยบุตร ระบุ