'วุฒิพงศ์' ซัด 'ก.ก.' ทำตัวเป็นศาล หลังถูกขับพ้นพรรค ชี้มีกระบวนการแทรกแซง

'วุฒิพงศ์' ซัด 'ก.ก.' ทำตัวเป็นศาล หลังถูกขับพ้นพรรค ชี้มีกระบวนการแทรกแซง

"สส.ปราจีน" เคารพมติ "ก้าวไกล" ขับพ้นพรรค แต่ตั้งข้อสงสัยมีปมแทรกแซงหรือไม่ ชี้ช่อง เป็น คนก้าวไกลในพื้นที่ ระบุเคยเสนอให้ องค์กรภายนอกตรวจสอบ แต่กลับทำตัวเป็นศาลตัดสินเอง

ที่รัฐสภา นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี ที่ถูกมติของพรรคก้าวไกลขับให้พ้นจากสมาชิกพรรค เนื่องจากถือว่าเป็นผู้กระทำผิดวินัยร้ายแรงของพรรค เหตุถูกร้องว่าคุกคามทางเพศทีมงานหญิง ว่า ตนเคารพมติของพรรคที่ออกมาเมื่อ 1 พ.ย. แต่ยอมรับว่าผิดหวัง เนื่องจากกรณีที่ตนถูกร้องเรียนในประเด็นคุกคามทางเพศ หากแบ่งระดับความรุนแรงส่วนของตนนั้นอยู่ในระดับของการส่งข้อความเท่านั้น ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ แต่อย่างใด ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนไม่เคยออกมาชี้แจงกับสังคม จึงยอมรับว่าอึดอัด เพราะถูกห้ามพูด เนื่องจากต้องเคารพในกระบวนการตรวจสอบวินัยของพรรค

นายวุฒิพงศ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อมติพรรคออกมาให้ขับตนออก ตนพร้อมเคารพ แม้จะผิดหวังก็ตามม อย่างไรก็ดีตนยืนยันว่าพร้อมจะทำหน้าที่ สส.ปราจีนบุรีต่อไป อย่างไรก็ดีตนขอโทษประชาชนปราจีนบุรีและโหวตเตอร์ทุกคนด้วย ส่วนจะหาสังกัดพรรคการเมืองใดสังกัดตามกฎหมายนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา เพราะตนไม่มีสายสัมพันธ์กับพรรคการเมืองอื่น แม้จะรู้จักกับสส.ต่างพรรคแต่เป็นเพียงการทำงานเท่านั้น

 

นายวุฒิพงศ์ กล่าวด้วยว่าสำหรับบุคคลที่ทำให้เกิดความเสียหายในประเด็นที่เกิดขึ้น ซึ่งประชาชนในพื้นที่ปราจีนบุรี เข้าใจว่าตนเป็นผู้ข่มขืนผู้เสียหาย ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งต้องรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องหมิ่นประมาทด้วย เพราะพบว่ามีการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์และพบการชวนเชื่อให้เกิดความเข้าใจผิดกับตนด้วย ขณะที่พรรคก้าวไกลนั้นตนจะไม่ดำเนินการใดๆ ในทางคดี แต่ขอฝากไปยังพรรคด้วยว่า ขอให้แกนนำพรรคเป็นโล่ห์กำบัง ปกป้อง สส.ในพรรคด้วยเพราะกว่าแต่ละคนจะได้รับเลือกตั้งเป็นสส. นั้นมีความยากลำบาก  และเหนื่อย มีความกดดันสูง  อย่าให้อะไรที่ยิงมาโดนตัวเขาได้ง่าย อีกทั้งประเด็นการร้องเรียนอาจเกิดขึ้นได้ อีกทั้งในกรณีของการตั้งกรรมการวินัย ควรให้มีสัดส่วนจากบุคคลภายนอก เช่นประเด็นคุกคามทางเพศ ควรมีหมอ นักจิตวิทยาด้วย และให้มี สส.น้อยที่สุด

“ผมยอมรับมติพรรคและสส.ทุกคนต้องการทำให้จบ เพื่อให้ผมเดินหน้าได้ต่อ สำหรับเรื่องที่ถูกร้องเรียนนั้น เป็นเพียงเอกสารที่เกิดขึ้นจากภาพแชท ที่พบว่ามีข้อความที่หายไป เพราะมีคำพูดที่เป็นการตอบรับจากฝ่ายผู้ร้องเรียนติดต่อกัน ทั้งนี้ในรายละเอียดซึ่งตนสำรองข้อมูลสนทนาไว้ แต่มีไม่ทั้งหมด พบว่าเป็นการตั้งถามจากฝ่ายหญิง และผมเป็นผู้ตอบ ซึ่งพร้อมที่จะดำเนินการในกระบวนนการยุติธรรมภายนอกต่อไป” นายวุฒิพงศ์ กล่าว

เมื่อถามว่ากระบวนการตรวจสอบของพรรคได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่อยากให้สังคมพิจารณา เนื่องจากตามกระบวนการของพรรค ตนเรียกไปชี้แจง 2 ครั้ง ครั้งแรก เมื่อ 10 ต.ค. โดยมีกรรมการวินัย ทำหน้าที่เพียง 6 คนจากทั้งหมด 7 คน และรับฟังตน 1 ชั่วโมง ขณะที่ครั้งที่2 เมื่อ 30 ต.ค. มีกรรมการวินัยทำหน้าที่ 4 คน และใน5 นาทีสุดท้าย กรรมการวินัยคนที่ 5 เดินทางมาร่วมประชุม ซึ่งตนมองว่าการตรวจสอบชีวิต และผู้แทน จ.ปราจีนบุรี ที่มาจากคนทั้งจังหวัด ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

“ผมเคารพการตัดสินใจ แต่ความเป็นธรรมหรือไม่ ขอให้สังเกตกระบวนการตรวจสอบก่อนหน้านั้น ที่พบว่ามีการให้ข่าว เผยแพร่คลิปก่อนการตรวจสอบ หากมีกระบวนการแทรกแซงภายในจังหวัดปราจีนบุรี หาก มีสส.ตั้งเป็นกรรมการวินัยเรื่องคุกคามทางเพศ ควรเป็นบุคคลภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบ โดยเรื่องที่เกิดขึ้นผมเช่ือว่ามีเรื่องการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยว อย่างไรก็ดีกรณีของผมเคยเสนอกับพรรคก้าวไกลว่าเรื่องร้องเรียนนั้นควรให้กระบวนนการยุติธรรมภายนอก แต่เขาใช้กระบวนการภายใน หากผมไม่ถูกกับกรรมการบริหารหรือสส.บางคน เหตุการณ์นี้อาจจะเกิดขึ้นได้” นายวุฒิพงศ์ กล่าว

\'วุฒิพงศ์\' ซัด \'ก.ก.\' ทำตัวเป็นศาล หลังถูกขับพ้นพรรค ชี้มีกระบวนการแทรกแซง

เมื่อถามว่าเสียใจหรือไม่ที่มติพรรคไม่เท่ากับกรณีของนายไชยพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.ที่ถูกคาดโทษเท่านั้น นายวุฒิพงษ์ กล่าวว่า “เสียใจ เพราะผมไม่มีคอนเน็คชั่นเรื่องพรรคการเมือง และที่เสียใจคือในจ.ปราจีนบุรี ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย 52 ปี แต่มีผมเป็นจุดส้มเล็กๆ ในพื้นที่”

เมื่อถามย้ำว่ามีกระแสเรียกร้องจากพรรคก้าวไกลให้ ลาออกจาก สส. นายวุฒิพงษ์ กล่าวว่า  “ความจริงผมทราบมาก่อนที่ให้กดดันกัน ผมสงสัยจริงๆ ว่า เหตุการณ์ไม่ได้พิพากษา ตั้งตัวเป็นศาลขณะที่ไม่ยอมรับศาลรัฐธรรมนูญ แต่ตั้งตัวเป็นศาลตัดสิน กระบวนการได้สส.1 คนมาจากคนหลายหมื่น หลายแสนคน”

เมื่อถามว่าข้อเท็จจริงพฤติกรรมเป็นไปตามที่ถูกเปิดเผยหรือไม่  นายวุฒิพงศ์ ได้นำภาพข้อความแชทบางส่วนที่เคยปรากฎในสื่อออนไลน์ และจดหมายที่เขียนด้วยลายมือมาแสดงต่อสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า เป็นจดหมายที่ผู้เสียหายเขียนมาให้พร้อมกับมอบเข็มขัดให้ตน โดยมีข้อความที่แสดงให้เห็นว่าต้องการทำงานเป็นทีมงานกับตน และหลังจบการหาเสียงจะยังติดตามต่อไปและขอให้ตนเอ็นดู ซึ่งแตกต่างจากคนที่ถูกคุกคามทางเพศที่ต้องถอยห่าง และไม่ขอกลับมาทำงานร่วมกันอีก แต่เป็นตนที่เลือกถอยห่างเอง และในช่วงเดือน พ.ย. 65 ตนไม่ได้ทำงานร่วมกับผู้ช่วยคนดังกล่าวแบบ 2 ต่อ 2  อีก และให้ทำงานในส่วนอื่น นอกจากนั้นแล้วก่อนหน้านั้นยังพบการส่งคลิป ประมาณ 50 คลิปที่ไม่ใส่เสื้อผ้าและมีท่าทางต่างๆ ส่งมาให้ตน ซึ่งหลักฐานต่างๆ นั้นตนให้กรรมการสอบวินัยของพรรคพิจารณาทั้งหมดแล้ว

\'วุฒิพงศ์\' ซัด \'ก.ก.\' ทำตัวเป็นศาล หลังถูกขับพ้นพรรค ชี้มีกระบวนการแทรกแซง

เมื่อถามย้ำว่าจากหลักฐานที่นำมาแสดงกับสื่อมวลชน ยืนยันใช่ไหมว่าไม่ได้ทำผิดตามที่ถูกลงโทษ นายวุฒิพงษ์ ชี้แจงว่า “ผมยอมรับว่าผิดบางส่วนที่คุย แต่จากประเด็นที่ถูกร้องว่าคุกคามทางเพศ เป็นผมเองที่ถอยหลัง”

เมื่อถามย้ำว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความขัดแย้งในพื้นที่และ คนในพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายวุฒิพงศ์ กล่าวว่า “ขอให้สื่อมวลชนไปดูย้อนหลังเพจพรรคก้าวไกลปราจีนบุรี ซึ่งไม่เคยมีภาพของผมลงพื้นที่หาเสียง และแม้ในวันที่ผมชนะเลือกตั้งไม่มีข้อความแสดงความยินดี และช่วงที่ผมได้รับเลือกให้ลงเลือกตั้ง สส.ปราจีน มีคนๆ หนึ่งที่เคยหาเสียงกับผม ในช่วง 2 ปีก่อนหน้านั้นหายไป และในระหว่างที่พรรคก้าวไกลตรวจสอบ มีคนที่ไปให้สัมภาษณ์เรื่องผมกับเพจของคู่ขัดแย้ง แต่บอกว่าพูดในฐานะชาวบ้าน”

นายวุฒิพงศ์ กล่าวด้วยว่าเหตุผลที่ตนคิดหนักต่อเรื่องการฟ้องร้องนั้น เพราะตนรู้จักกับผู้ช่วยหญิงที่เป็นคู่กรณีและครอบครัวอย่างดี เพราะกังวลว่าจะมีผลกระทบ แต่มีคนๆ หนึ่งที่ดันหลังให้ผู้ช่วยหญิงของตนเดินหน้า  อย่างไรก็ดีหากคู่กรณีฟ้องร้องคดีอาญา ตนยินดีเพราะต้องการพิสูจน์ความจริง

เมื่อถามว่าหลังจากเรื่องนี้ความรู้สึกของครอบครัว หรือ ภรรยาเป็นอย่างไร นายวุฒิพงษ์ กล่าวยืนยันว่าสถานะของตนโสด ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ยังให้กำลังใจ.