อนุฯประชามติ หารือ 'สว.' เชื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี จ่อพบ "กมธ.สภาฯ" ต่อ

อนุฯประชามติ หารือ 'สว.' เชื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี จ่อพบ "กมธ.สภาฯ" ต่อ

นิกร นำคณะ หารือกมธ.การเมือง สว. มองเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ชงร่างคำถามประชามติให้พิจารณา จ่อพบ กมธ.การเมืองสภาฯ ต่อ 2พ.ย. นี้

ผู้สื่อข่าวรายว่า เมื่อเวลา 09.30 น. นายนิกร จำนง ประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในกรรมการศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 พร้อมคณะ เข้าหารือกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.)  การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. เป็นประธาน กมธ.

โดยก่อนหารือเป็นการภายใน นายเสรี กล่าวว่าเมื่อนายนิกร และคณะที่ทำหน้าที่มารับฟังความเห็นประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญที่มีความสำคัญ เชื่อว่าจะทำให้เป็นที่ยอมรับ และทำให้กระบวนการในการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำประชามติสามารถเดินหน้าลุล่วงไปได้ แต่จะสำเร็จหรือไม่นั้นก็อยู่ที่สิ่งที่จะดำเนินการต่อไป  

"เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาที่จะแก้ไข ต้องมีจุดเริ่มต้น อย่างไรก็ตามการจะทำเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะความเห็นที่แตกต่างเป็นความเห็นที่จะต้องหาข้อยุติเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งคนที่มาทำเรื่องเหล่านี้ต้องเป็นที่ยอมรับ เป็นที่น่าเชื่อถือหรือไม่" นายเสรี กล่าว

 

ขณะที่ นายนิกร กล่าวว่าการหารือกับสว. เป็นครั้งแรก ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ทั้งนี้อนุกรรมการฯ ต้องการรับฟังความเห็นที่กว้างขวาง โดยมีประเด็นที่ต้องการหารือกับสว. คือ  การร่วมตั้งคำถาม เพราะของวุฒิสภาต้องถามเป็นการเฉพาะเพราะไม่เหมือนของประชาชน

 

"ทางคณะอนุฯต้องรอให้สภาฯเปิดสมัยประชุมก่อน เพื่อรวบรวมความคิดเห็นทั้งหมด โดยทางอนุตั้งใจว่าจะให้มีการระบุชื่อผู้ที่ตั้งคำถามว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หรือสมาชิกบางท่านอาจจะไม่เปิดเผยชื่อก็ได้ ต่อจากนั้น วันที่ 2 พ.ย.ทางคณะอนุฯจะไปพูดคุยกับคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองการสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร หลังจากนั้นจะสอบถามกับ ส.ส.ทั้งหมดทั้ง 500 คน เพื่อความเห็นในเรื่องดังกล่าว" นายนิกร กล่าว

  อนุฯประชามติ หารือ \'สว.\' เชื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี จ่อพบ \"กมธ.สภาฯ\" ต่อ
 

           

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายนิกร  ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าหารือกับ กมธ.ฯ โดยย้ำว่าจะนำประเด็นคำถามที่เป็นตัวร่างให้ที่ประชุมพิจารณาและร่วมตั้งคำถามเพื่อสอบถามไปยัง สว.ทั้งหมดด้วย จากนั้น 2 พ.ย. จะหารือกับกมธ.พัฒนาการเมือง สภาฯ ในรายละเอียดเดียวกัน แต่น้ำหนักอาจจะต่างกัน ทั้งนี้คำถามที่จะถามประชาชนต้องเป็นคำถามที่ง่าย และชัดเจน แต่ไม่ได้บอกว่าแก้มาตราไหน เพราะไม่ใช่หน้าที่ 

นายนิกร กล่าวย้ำว่า อนุกรรมการฯ จะรับฟังความเห็นของภาคส่วนต่างๆ โดยมีลำดับ คือ วันที่ 2 พ.ย. จะหารือกับกมธ.พัฒนาการเมือง สภาฯ , วันที่ 8 พ.ย. หารือกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ทำเนียบรัฐบาล ทั้งนักเรียน นักศึกษาที่มีอายุเกิน 18 ปี, วันที่14 พ.ย.จะต้องพูดคุยกับพรรคการเมืองที่เห็นต่างคือพรรคก้าวไกล ที่แก้ไขรธน.โดยไม่แยกหมวด 1 หมวด 2 โดยตนได้คุยกับนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะไปคุยที่พรรคก้าวไกล, วันที่ 15 พ.ย. ทางคณะอนุฯได้เชิญกลุ่มประชาชนจำนวน 14-15 กลุ่ม ประมาณ 80 คน ซึ่งมีทั้งกลุ่มไอลอว์ กลุ่มคนพิการ เป็นต้น โดยหารือกันที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการการศึกษาทำประชามติ , วันที่  7 ธ.ค. จะลงไปฟังความเห็นพี่น้องชาวมุสลิม และเขตชายแดนที่ภาคใต้

 

"การสรุปความเห็นจะทำในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ธ.ค. และคงได้ข้อสรุปจากคณะใหญ่ในช่วงปลายสัปดาห์ และต้นปี 2567 ก็จะเสนอให้รัฐบาลได้" นายนิกร กล่าว