'นายกฯ' นำถก RRC ขีดเส้นช่วยคนไทย ออกจากอิสราเอล หมด สิ้นเดือนนี้

'นายกฯ' นำถก RRC ขีดเส้นช่วยคนไทย ออกจากอิสราเอล หมด สิ้นเดือนนี้

"โฆษกรัฐบาล" เผย ผลประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินในอิสราเอล เร่ง ลำเลียงคนไทยออกมาให้หมดในสิ้นเดือนนี้ เร่งช่วย17ตัวประกัน ด้าน นายกฯ ระบุ สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ

ที่ห้องวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินต่อสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล หรือศูนย์ Rapid Response Center : RRC โดยหลังจากการประชุม นายกรัฐมนตรีแถลงผลการประชุมฯ โดยนายชัย วัชรงค์เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้ 

การประชุมวันนี้เป็นการยืนยันเจตนารมณ์ว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญสูงสุดที่จะลำเลียงคนไทยที่มีความประสงค์ออกมาจากประเทศอิสราเอลให้ได้เร็วที่สุด รายงานตอนนี้ เที่ยวบินภายในสิ้นเดือน โดยสายการบินนกแอร์ Air Israel การบินไทย และ Spice Air ทั้งหมดจะนำเข้ามาประมาณ 32 เที่ยวบิน ณ จุดนี้ถึงสิ้นเดือนได้ประมาณ 5,700 คน แต่ก็ยังไม่พอ เพราะปัจจุบันมีผู้ต้องการกลับมาประมาณ 7,000 คนและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีความกังวลในการลำเลียงคนออกมาก็ยังเป็นปัญหาอยู่ เพราะการต่อสู้ยังไม่จบ และทางอิสราเอลก็ยังมีการเลื่อนการโจมตีทางพื้นบกออกไป และคาดว่าถ้ามีการโจมตีทางพื้นบกอาจจะทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น ซึ่งต้องระมัดระวัง ทำให้การลำเลียงคนออกมาทางบกหรือทางเรือไม่สามารถทำได้เลย เพราะท่าเรือที่อิสราเอลก็ได้ปิดไปแล้ว ต้องพึ่งพาทางอากาศอย่างเดียว 

ตอนนี้สถานทูตไทยในอิสราเอลทำงานอย่างเต็มที่ สามารถนำคนมาที่ศูนย์พักพิงได้ประมาณ400 คนต่อวัน เป็นตัวเลขที่ดี แต่ยังมีเครื่องบินไม่พอ

เรื่องเอกสารที่แรงงานชาวไทยอาจมีไม่ครบ เจ้าหน้าที่สถานทูตก็จะอำนวยความสะดวกให้ที่ศูนย์พักพิง ทำเรื่องของ CI Identity ให้สามารถบินได้ โดยสามารถดำเนินการได้ในหนึ่งวันประมาณ 200 ราย ฉะนั้นเรื่องงานเอกสารไม่ใช่ปัญหา

เรื่องการลำเลียงคน มีสองทางคือ ลำเลียงตรง จากอิสราเอลกลับ กทม. หรือไปพักพิงประเทศที่สาม อาจจะที่ดูไบ ไซปรัส หรือจอร์แดน และนำเครื่องบินไปรับอีกช่วงเพื่อเร่งลำเลียงคนออกมาจากอิสราเอลเร็วที่สุด 

เรื่องแรงงาน ทางกระทรวงแรงงานได้แจ้งแล้วว่าจะดูแลแรงงาน มีเงินเยียวยา และหาที่ทำงานใหม่ ให้เร็วที่สุด 

เรื่องตัวประกับ มี 17 คน ใช้ 4 ช่องทางในการติดต่อประสานให้ปลอดภัย ทางการทูต ข่าวกรองการทหาร และทางภาคประชาคม NGO เป็นส่วนที่ทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ทางกระทรวงต่างประเทศ คุยกับทั้งสองฝ่ายว่าขอรับคนไทยกลับมาเร็วที่สุด นายกรัฐมนตรียอมรับว่าสถานการณ์ยังไม่เป็นที่ไว้วางใจแต่รัฐบาลโดยทุกหน่วยงานให้ความสำคัญสูงสุด และพยายามหาช่องทางเพิ่มเติมโดยจะนำคนไทยกลับมาให้หมดภายในสิ้นเดือนนี้