ป.ป.ช.สารคามฯ จับสด นายก อบต.หนองม่วง เรียกรับเงินหลักหมื่นแลกต่อสัญญาจ้าง

ป.ป.ช.สารคามฯ จับสด นายก อบต.หนองม่วง เรียกรับเงินหลักหมื่นแลกต่อสัญญาจ้าง

ป.ป.ช.มหาสารคาม โชว์ผลงานบุกจับสด! นายก อบต.หนองม่วง คาห้องทำงาน คดีเรียกรับเงินแลกต่อสัญญาลูกจ้าง คิดหัวละ 17,000-25,000 บาท

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดมหาสารคาม เผยแพร่ข้อมูลว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ภายใต้การอำนวยการของนายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ดำเนินการบุกจับกุมนายเกรียงไกร นาคแย้ม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองม่วง อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม เรียกรับเงินเพื่อแลกกับการต่อสัญญาจ้างลูกจ้าง พร้อมของกลางธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 20 ฉบับ รวมเป็นเงิน 20,000 บาท   

วานนี้ (10 ตุลาคม 2566) นายเสกสรรณ์ สมมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช ประจำจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2566 สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม ได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้เสียหายว่านายก อบต. หนองม่วง มีพฤติการณ์เรียกรับเงินเพื่อเป็นค่าต่อสัญญาจ้างพนักงานจ้างตามภารกิจขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองม่วง ที่หมดสัญญาในวันที่ 30 กันยายน 2566 ประมาณ 17 ราย เรียกรับเงินค่าต่อสัญญารายละ 17,000 – 25,000 บาท ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและเงินเดือนของแต่ละราย ซึ่งมีผู้เสียหาย หลายรายที่ประสงค์จะดำเนินคดีกับนายก อบต. หนองม่วง จึงได้มาร้องเรียนต่อสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม จากนั้นสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม จึงได้ประสานไปยังสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 เพื่อร่วมดำเนินการในกรณีดังกล่าว

ป.ป.ช.สารคามฯ จับสด นายก อบต.หนองม่วง เรียกรับเงินหลักหมื่นแลกต่อสัญญาจ้าง

จากนั้นวันที่ 9 ตุลาคม 2566 สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม และสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ได้ประสานความร่วมมือในการปฏิบัติราชการกับตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม เพื่อร่วมวางแผนการจับกุมดังกล่าว โดยหลังจากสอบปากคำผู้เสียหายจำนวนหลายรายแล้วปรากฏว่า มีผู้เสียหายเพียงรายเดียว ที่มีเงินสดเพียงพอที่จะจ่ายให้กับนายก อบต. หนองม่วง ตามที่นายก อบต. หนองม่วง ได้เรียกรับเงินเพื่อเป็นค่าตอบแทนในการต่อสัญญาจ้างไว้ล่วงหน้า

กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 10 ตุลาคม 2566 เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ได้นำภาพถ่ายสีธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 20 ฉบับ รวมเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท ซึ่งรับมอบจากผู้เสียหายไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ได้ร่วมวางแผนการจับกุม โดยให้ผู้เสียหายนำธนบัตรที่ลงบันทึกประจำวันไว้ จำนวน 20,000 บาท นำไปมอบให้กับนายก อบต. หนองม่วง ตามที่ผู้เสียหายกับนายก อบต. หนองม่วง ได้ตกลงกันไว้ โดยนัดหมายมอบเงินจำนวนดังกล่าวที่ห้องทำงานของนายก อบต. หนองม่วง ในเวลาก่อนเที่ยง แต่ปรากฏว่าในเวลาก่อนเที่ยง นายก อบต. หนองม่วง เดินทางไปปฏิบัติภารกิจนอกพื้นที่สำนักงาน อบต. หนองม่วง ผู้เสียหายจึงได้รอมอบเงินจำนวนดังกล่าวในช่วงบ่าย

ป.ป.ช.สารคามฯ จับสด นายก อบต.หนองม่วง เรียกรับเงินหลักหมื่นแลกต่อสัญญาจ้าง

ต่อมาในช่วงบ่ายนายก อบต. หนองม่วง ได้เดินทางกลับมาที่สำนักงาน อบต. หนองม่วง และผู้เสียหายได้นำเงินของกลางดังกล่าวไปมอบให้กับนายก อบต.หนองม่วง ที่ห้องทำงาน จากนั้นจึงได้ให้สัญญาณกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคามพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 จึงได้เข้าแสดงตัวจับกุม และขอให้นายก อบต. หนองม่วง แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงาน

โดยนายก อบต. หนองม่วง ยินยอมเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานด้วยตนเอง ปรากฏว่าพบของกลางธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 20 ฉบับ รวมจำนวน 20,000 บาท อยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้นำมาตรวจสอบกับภาพถ่ายสีธนบัตรที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้

ของกลางที่พบคือธนบัตรฉบับละ 1,000 บาทจำนวน 20 ฉบับ รวมจำนวน 20,000 บาท เป็นธนบัตรที่มีเลขหมายเดียวกันกับที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ครบถ้วนทั้ง 20 ฉบับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวและดำเนินการจับกุม พร้อมทั้งแจ้งให้นายก อบต. หนองม่วง ทราบว่าการกระทำดังกล่าว เป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบ หรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พร้อมกับแจ้งสิทธิของผู้ต้องหา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

ทั้งนี้ ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาทำบันทึกการจับกุม และส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานตามกฎหมาย และเมื่อพนักงานสอบสวนดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานแล้วเสร็จ จะได้ส่งเรื่องให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป

อนึ่ง ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด