โฆษกรัฐบาล เผย 'เศรษฐา' เซ็ง นึกไม่ถึงจะเป็นปัญหา ปม ตั้ง ผบ.ตร. ชี้ เสียเวลา

โฆษกรัฐบาล เผย 'เศรษฐา' เซ็ง นึกไม่ถึงจะเป็นปัญหา ปม ตั้ง ผบ.ตร. ชี้ เสียเวลา

"โฆษกรัฐบาล" แจง "เศรษฐา" เสนอชื่อ "บิ๊กต่อ" นั่ง ผบ.ตร. ดูเรื่องความรู้ความสามารถด้วย หลัง "เสรีพิศุทธิ์" ร้อง ป.ป.ช. สอบ เมินหลักอาวุโส ยัน นายกฯ รับข้อมูลทุกด้าน ประเมินแล้ว แคนดิเดตอาวุโสห่างแค่ปีเดียว เซ็ง ไม่นึกจะเป็นปัญหา ไม่ควรเป็นเรื่อง เสียเวลาทำงาน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงกรณีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบนายเศรษฐาทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และผู้เกี่ยวข้องในการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) โดวไม่คำนึงถึงหลักอาวุโส ตามที่กฎหมายกำหนด ว่า การแต่งตั้งดังกล่าวเป็นไปตามมาตรา 77และ78 ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 สาระสำคัญระบุว่า ผู้ที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นผบ.ตร.จะต้องเป็นรองผบ.ตร. หรือจเรตำรวจ ซึ่งในการพิจารณาวันนั้น มีบุคคลที่มีคุณสมบัติคือรองผบ.ตร. 4 ท่าน เกณฑ์ในการคัดเลือกให้ยึดลำดับอาวุโส และความรู้ความสามารถ โดยกฎหมายก่อนนี้ระบุว่าให้ยึดเพียงอาวุโสเป็นหลัก แต่ พรบ.ตำรวจ ปี 65 ให้พิจารณาเรื่องความรู้ความสามารถด้วย โดยให้นายกฯเป็นผู้เสนอชื่อ และที่ประชุม ก.ตร.เป็นผู้ลงมติโหวต 

นายชัย กล่าวว่า จากข้อเท็จจริงแคนดิเดตทั้ง 4 คน ในแง่อาวุโสนั้นมี 2 ระดับ คือพล.ต.อ.รอยอิงคไพโรจน์มีความอาวุโสสูงที่สุด และมากกว่าอีก 3 คน 1 ปีเท่ากัน  โดยก่อนที่นายกฯจะเสนอชื่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เปิดให้ก.ตร.แสดงความคิดเห็นถึงความรู้ ความสามารถของแคนดิเดตแต่ละท่านว่าเป็นอย่างไร รวมถึงได้ให้พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ในขณะนั้น เป็นผู้นำเสนอในฐานะผู้บังคับบัญชาว่า แคนดิเดตแต่ละคนเป็นอย่างไร โดยนายกฯได้รับรู้อย่างรอบด้าน และประเมินแล้วว่าความแตกต่างทางอาวุโสห่างกันเพียงปีเดียว แต่เมื่อรับฟังเรื่องความรู้ ความสามารถจึงได้เสนอพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และที่ประชุมก็เห็นชอบกับข้อเสนอของนายกฯ

นายชัย กล่าวว่า เมื่อเทียบข้อเท็จจริงกับกฎหมาย การแต่งตั้งครั้งนี้ไม่มีปัญหา ถูกต้องตามหลักกฎหมายทุกประการ ข้อเท็จจริงมีความชอบธรรม สมเหตุสมผล นายกฯไม่ได้ลุแก่อำนาจ ยึดตามหลักกฎหมาย และรับฟังอย่างรอบด้านแล้วจริงๆ

เมื่อถามว่า จากที่มีการฟ้องร้องจะดำเนินการอย่างไร นายชัย กล่าวว่า ก็จะชี้แจงตามข้อเท็จจริงให้ไปชี้แจงที่ไหนก็ทำได้ ไม่ใช่เฉพาะนายกฯแต่คนที่นั่งอยู่ห้องประชุมเขารู้ว่าอะไรเกิดขึ้นสามารถชี้แจงได้ทุกคน

เมื่อถามว่า นายกฯได้ปรารถเรื่องนี้อย่างไร นายชัย กล่าวว่า นายกฯบอกแต่เพียงว่านึกไม่ถึงว่าจะเป็นปัญหา และมันไม่ควรจะเป็นเรื่อง ทำให้เสียเวลา เสียสมาธิในการทำงาน แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วสังคมก็อยากจะรู้จึงให้ตนมาชี้แจงทำความเข้าใจ