'เจษฎ์' มองเอาผิดจริยธรรม 'ปดิพัทธ์-ก้าวไกล' ยาก

'เจษฎ์' มองเอาผิดจริยธรรม 'ปดิพัทธ์-ก้าวไกล' ยาก

"อดีตที่ปรึกษา กรธ." มอง เอาผิดจริยธรรม ปดิพัทธ์-ก้าวไกล ปมสมคบคิดฮุบตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน-รองปธ.สภาฯ ยาก หากไร้หลักฐานชัดแจ้ง

นายเจษฎ์ โทณะวณิก  ประธานคณะนิติศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย ฐานะที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยื่นร้องต่อองค์กรอิสระให้ตรวจสอบนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก ฐานะรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง และพรรคก้าวไกล กรณีที่มติของพรรคก้าวไกลขับนายปดิพัทธ์ออกจากสมาชิกพรรค ซึ่งเข้าข่ายผิดจริยธรรม  กล่าวว่า กรณีดังกล่าวถือว่ายังไม่เข้าข่ายจริยธรรมร้ายแรง แม้จะอ้างถึงข้อบังคับของพรรคก้าวไกลว่าด้วยการขับสมาชิกพรรค กรณีที่สมาชิกพรรคไม่ปฏิบัติตามมติพรรค ซึ่งในกรณีดังกล่าวพรรคก้าวไกลมีมติจะรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และขอให้นายปดิพัทธ์ลาออกจากรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง แต่นายปดิพัทธ์ไม่ยอมลาออก จึงต้องใช้มติพรรคขับออก ทั้งนี้ในหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องไม่มีสภาพบังคับใช้ชัดเจน

นายเจษฎ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่มีผู้มองว่าเป็นกระบวนการสมคบคิดนั้น หากต้องการพิสูจน์ ตนมองว่าต้องมีพยานหลักฐาน การชี้ให้เห็นว่านายปดิพัทธ์และพรรคก้าวไกลมีการเจรจาหรือมีการสมคบคิดกันให้ได้ หากไม่มีถือว่าจะพิสูจน์ได้ลำบาก แม้ในทางสาธารณะจะมองว่าเป็นกระบวนการที่สมคบคิดร่วมกันก็ตาม

"กรณีการขับสมาชิกให้ออกจากพรรคหากเทียบกับกรณีของนายปดิพัทธ์ กับที่เคยเกิดขึ้น คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ออกจากพรรคพลังประชารัฐ แต่ท้ายสุดก็รับกลับเข้าสู่พรรคเหมือนเดิม และล่าสุดยังได้ตำแหน่งรัฐมนตรีอีก ซึ่งไม่ต่างกันกับประเด็นของนายปดิพัทธ์"นายเจษฎ์ กล่าว