'สุทิน' ไม่เสียวขึ้น ฮ.เก่า ตรวจน้ำท่วม ไฟเขียว 'เหล่าทัพ'ซื้ออาวุธจำเป็น

'สุทิน' ไม่เสียวขึ้น ฮ.เก่า ตรวจน้ำท่วม ไฟเขียว 'เหล่าทัพ'ซื้ออาวุธจำเป็น

'สุทิน' ไฟเขียว 'เหล่าทัพ'ซื้ออาวุธเท่าที่จำเป็น หลังขึ้น ฮ.เก่า ตรวจน้ำท่วม ยัน 'ไม่เสียว' ทหารการันตีปลอดภัย ถกสภากลาโหม พรุ่งนี้ พร้อมดีเฟ้นด์งบฯ ให้กองทัพ

นาย สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงกลาโหม  กล่าวถึงความรู้สึกในการนั่งเฮลิคอปเตอรุ่นเบลล์212 รุ่นเก่าของกองทัพบกลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมว่า ก็ไม่เป็นไร ไม่เสียว เพราะทางทหารซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบมาอธิบายให้ฟังว่า แม้ตัวเครื่องจะเก่าแต่เครื่องยนต์ยังใหม่และมี 2 เครื่องยนต์ ซึ่งทหารบอกว่าไม่ต้องห่วง มีเซฟตี้ ไม่มีทางที่จะมีอันตรายอะไรทั้งสิ้น ตนก็นั่งโดยไม่มีอะไรต้องคิด วันนั้นค่อนข้างกระทันหันและสภาพดินค่อนข้างอุ้มน้ำการจะนำเฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่ลงค่อนข้างยาก และเขาจะไปส่งตนถึงบ้าน ซึ่งสนามฟุตบอลแถวบ้านตนก็อิ่มน้ำ ก็เลยต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ที่ค่อนข้างเบา จะใช้แบล็คฮอร์คไม่ได้

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าในช่วง1 -2 ปี รัฐบาลมีนโยบายให้เหล่าทัพชะลอการจัดซื้ออาวุธโครงการขนาดใหญ่นั้น นายสุทิน กล่าวว่า ก็คุยกันว่าจะจัดซื้อเท่าที่จำเป็น เน้นไปที่เทคโนโลยีมากกว่า   สิ่งใดที่เป็นเทคโนโลยีหรือนวัตกรรม อย่างที่เคยกล่าวไว้ว่า ต้องเป็นกองทัพไซเบอร์  ก็จะเน้นหนักทางด้านนี้ แต่สิ่งไหนจำเป็นก็จะซื้อจากอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งมาจากภายในประเทศ และหากจำเป็นต้องซื้อต่างประเทศก็อาจจะขอเขาซื้อชิ้นส่วน

เมื่อถามว่า หากเหล่าทัพยืนยันความจำเป็นในการจัดซื้ออาวุธ นายสุทิน กล่าวว่า เขาอาจจะบอกว่าจำเป็น แต่เราก็คิดได้ ใช้เหตุผลคุยกัน ซึ่งฟังแล้วเหล่าทัพก็มีเหตุผล เมื่อถามย้ำว่า มีการคุยกันจะซื้อเฮลิคอปเตอร์ หรือ รถถังเพิ่มเติมหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็จะมีซื้อเฮลิคอปเตอร์บ้าง ซึ่งเหล่าทัพอธิบายว่ามีความจำเป็น เพื่อทดแทนของเก่า เท่าที่ตนดู เช่น ของกองทัพเรือ และกองทัพอากาศมีอาวุธที่เข้าคิวปลดประจำการกันเยอะมาก เช่น เครื่องบิน รถถัง และเฮลิคอปเตอร์ เป็นช่วงอายุที่จะหมดแล้ว ตนก็หนักใจ เพราะฟังแล้วเป็นเหตุผลที่เราต้องยอมรับ 

ส่วนข้อจำกัดเรื่องงบประมาณนั้น ในแผนงบประมาณปี 67 เราต้องดูว่าโครงการไหนไม่ควรซื้อ ก็จะชะลอการซื้อ ดูเท่าที่จำเป็นจริง โดยภาพรวมวงเงินงบฯของ กระทรวงกลาโหมก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น และเมื่อเทียบกับสัดส่วนจีดีพี ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำโดยในการประชุมสภากลาโหมวันพุทธที่ 3 ต.ค. จะได้คุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพในเรื่องนี้ด้วย แต่ที่ผ่านมาก็คุยกันมาตลอด

"ก็ต้องดีเฟ้นด์งบประมาณ แต่ไม่หนักใจเพราะเราอยู่ บนเหตุผล อธิบายได้ สิ่งใดอธิบายได้เราค่อยทำ ส่วนสิ่งใดอธิบายไม่ได้ก็ไม่ทำเท่านั้นเอง ส่วนในอนาคตนายกรัฐมนตรีจะมีวงคุยกับเหล่าทัพอีกหรือไม่นั้น เท่าที่ทราบท่านก็คุยอยู่เรื่อยๆ เป็นการเชิญไปคุยส่วนตัวไม่ได้เป็นการตั้งวง เมื่อวานนี้ก็เชิญ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด ไปคุยบ้างแล้ว ท่านคุยหมดทั้งระดับการเมือ ผู้บริหารนโยบาย ไปจนถึงระดับปฏิบัติ"