'บิ๊กโจ๊ก' ขู่ ฟ้องกราวรูด ตร.ค้นบ้าน กลั่นแกล้ง ทำเสียเครดิต

'บิ๊กโจ๊ก' ขู่ ฟ้องกราวรูด ตร.ค้นบ้าน กลั่นแกล้ง ทำเสียเครดิต

'บิ๊กโจ๊ก' ขู่ ดำเนินคดีทั้งหมด บุกค้นบ้าน ลั่น คนขอหมายหลอกศาล ไม่ยอมบอกเป็นบ้านตน ชี้ เป็นการเมืองใน ตร. หวังกลั่นแกล้ง ทำเสียเครดิต

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ (บิ๊กโจ๊ก) รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักตัวเอง หลังมีข้อมูลว่าคนใกล้ชิดเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ว่า ตนได้ดูในหมายค้น ไม่มีชื่อของตน ดังนั้นการขอหมายค้น เป็นการขอหมายค้นโดยไปหลอกศาล ขอหมายค้นโดย ไม่สุจริต  ไม่ได้บอกศาลว่าเป็นบ้านตนทั้งที่ตำรวจทุกคนรู้ ใครๆก็รู้ว่าตนอยู่บ้านหลังนี้ อันนี้เป็นการไปหลอกศาล แต่ไม่เป็นไร จะค้นบ้านตนก็ให้ค้นหมด เพียงแต่ว่าขอให้มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ด้วย และเมื่อเช้ามาค้นก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายทั้งสิ้น ทั้งนี้การจะค้นบ้านตำรวจชั้นผู้ใหญ่ต้องมีพยานหลักฐาน เส้นทางการเงินวันนี้ไม่มีเชื่อมโยงมาถึงตนสักเส้น แต่ไปขอหมายศาล เพื่อจะค้นบ้าน

"ในส่วนการดำเนินการทั้งหมด โดยผมจะมาไล่ดำเนินคดีทั้งหมด ซึ่งผมอาจจะทำคดีเยอะกระทบกระทั่งหลายส่วน คดีกำนันนก คดีผู้การรีดเงิน 140 ล้าน เพราะฉะนั้น วันนี้ก็ต้องรับแรงกระแทก ในส่วน ตำรวจทั้งหมดที่ถูกออกหมายจับก็เป็นลูกน้องผมทั้งหมด และก็ต้องไปดูเส้นทางการเงินของลูกน้องว่าเกี่ยวข้องพนันออนไลน์จริงหรือไม่ ลูกน้องใครคนนั้นก็ต้องไปพิสูจน์เอา ซึ่งผมยังไปจับตำรวจทั้งประเทศได้ หากลูกน้องผมทำผิดก็ต้องจับ ก็ต้องรับสภาพ ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ผมมองว่าทั้งหมด ไม่เกินเรื่องการเมืองในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ก็ไม่เป็นไรลูกน้องทั้งหมดโดน ก็ต้องโดน แต่เราก็ต้องเชื่อมั่นลูกน้อง เพราะเขาเป็นชุดทำงาน ก็ต้องให้ความเป็นธรรม แต่หากสืบสวนสอบสวน ตำรวจไซเบอร์ หรือ ตำรวจ PCT พบเส้นทางการเงิน เกี่ยวพันกับเว็บพนันจริง ก็ต้องดำเนินคดีอาญา ก็ต้องว่ากันไปต้องแยกส่วน ลูกน้องทำผิดตนไม่ปกป้อง

"ไม่มีเส้นเงิน เส้นไหนสักเส้นที่มาถึงผม เพราะผมไม่เคยรับเงินเว็บการพนัน แต่วันนี้การค้นบ้านผม มีหมายค้นถูกต้องตามคำสั่งศาลแต่การขอหมายค้นวันนี้ เป็นการขอหมายค้นไม่ปกติ ไม่โปร่งใส ซึ่งผมก็ให้ค้นหมดทั้ง 4 หลัง และเขาแจ้งว่าค้นเพื่อหาสิ่งผิดกฎหมาย ขอถามกลับว่าการที่จะค้นบ้าน รองผบ.ตร.มีพยานหลักฐานแค่นี้จะค้นได้หรือไม่ วันนี้ยังไม่มีความผิดเกี่ยวกับผมเลย ก็มาค้นบ้านผม ไม่เช่นนั้นต่อไปนึกจะค้นบ้านใครก็ค้นได้"

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยอมรับว่าบ้าน 4 หลังเป็นชื่อของญาติ และวันนี้หาคนสั่งการไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นไรเรื่องนี้ใครทำต้องรับผิดชอบ ก็ทราบอยู่แล้วนิสัยตนเป็นนักสู้อยู่แล้ว ส่วนที่ระบุว่าเป็นการเมืองภายใน ตร. เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งผบ. ตร.หรือไม่นั้น อันนี้ตนไม่ทราบแต่ให้ไปดูกันเอาเองว่าเร็วๆนี้จะมีเรื่องอะไร 

แต่ยอมรับว่าตนทำคดีเยอะซึ่งแต่ละคดีก็เกี่ยวพันกับตำรวจ เส้นทางการเงิน การออกหมายจับตำรวจหลายคน เข้าไปค้นหลายส่วนก็เป็นธรรมชาติที่ต้องรับแรงกดดันแบบนี้แต่ถามว่าถ้าไม่ทำแล้วใครจะทำ

"ผมบอกว่าเป็นการเมืองภายในตร. เชื่อหรือไม่ว่า วันนี้ค้นบ้าน รองผบ.ตร.ได้โดยไม่มีความผิด อยากให้ดูตรงนี้ก่อน"

เมื่อถามว่าจะมีการเช็คบิลในอนาคตหรือไม่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนคงไม่เช็คบิลหรอก แต่จะใช้วิธีการทางกฎหมายดำเนินการก็ต้องต่อสู้ไปตามสิทธิ์ ใครค้นบ้านตนโดยมิชอบ ก็ต้องดำเนินคดีอาญา ถ้าค้นโดยชอบก็ไม่เป็นไร ใครไปขอหมายแล้วไปหลอกศาลก็ต้องไปดูว่าทำโดยสุจริตหรือไม่ อยากให้ลองไปถามศาลดูว่ารู้หรือไม่เป็นบ้านของตน ซึ่งศาลยังไม่รู้เลย

"การค้นบ้านผมจุดประสงค์ก็เพื่อค้นบ้านของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ แต่ไม่ใช่คนบ้านเลขที่นี้ ต่อมาก็ออกไปแถลงว่า ไม่มีเกี่ยวข้องกับเว็บการพนัน ถามว่าทำแบบนี้จะเป็นธรรมหรือไม่ เพราะฉะนั้นวันนี้เป็นการดิสเครดิต ทำให้เสียชื่อ แต่ไม่ได้บั่นทอนการทำงานเพราะผมก็ทำงานอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้เจอมาเยอะแล้ว

 ก็ต้องยอมรับว่าผมไปขัดผลประโยชน์ของคนหลายส่วน ส่วนที่ลูกน้องถูกจับ ก็ต้องดูแลเขา แต่เขาก็ต้องไปแสดงความบริสุทธิ์ใจ หากผ่านได้ ก็จบ "

เมื่อถามว่าเคยไปจับลูกน้องคนอื่นมา ถือว่าเป็นการเอาคืนหรือไม่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีการเอาคืนทั้งสิ้น อันไหนทำถูกก็ว่าไป อันไหนผิดก็ต้องฟ้องกลับ  เมื่อมีการดำเนินการกับชุดทำงานของตน ก็ต้องดูว่าอันไหนถูก อันไหนผิด เช่นเดียวกับการค้นบ้าน ที่ต้องการทำให้ตนเสียเครดิต ตนก็แสดงความบริสุทธิ์ใจไปแล้ว

" ส่วนกรณีเรื่องค่าไฟบ้านนั้นผมเป็นรองผบ. ตร.จะให้ลูกน้องจ่ายได้อย่างไร ผมก็ให้ลูกน้องไปจ่าย ค่าไฟหมื่นกว่าบาท ผมไม่ได้ให้เจ้าของเว็บพนันมาจ่ายให้ ถ้ามีเส้นทางการเงินเข้ามาที่ผมเป็น 10 -20 ล้าน ก็ว่าไปอย่าง ยืนยันว่าผมไม่ได้ท้อแท้ยังยึดหลัก ทำงานให้ประชาชน เราเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจถูกหล่อหลอมมาก็ต้องรับแรงเสียดทานให้ได้"

พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ตราบใดก็ตาม ที่ศาลยังไม่พิพากษาถึงที่สุด ถือว่าทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ วันนี้เราต้องให้ความเป็นธรรมทุกคน  เรื่องนี้ตนทราบมาล่วงหน้า เพราะเรารู้ว่า ดำเนินคดีกับใครอยู่และเกี่ยวพันกับใครบ้าง  แต่การค้นบ้านของตนนั้นมองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ทำเป็นขบวนการที่ดิสเครดิต