"ชัยธวัช" ลั่นนำ "ก้าวไกล" เดินหน้าสู้การเมืองเก่า-กดดันให้แก้รธน.โดยปชช.

"ชัยธวัช" ลั่นนำ "ก้าวไกล" เดินหน้าสู้การเมืองเก่า-กดดันให้แก้รธน.โดยปชช.

"ชัยธวัช" เตรียมสร้าง "ก้าวไกล" เป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง พร้อมสู้กับการเมืองแบบเก่า กดดันให้ทำประชามติ แก้รธน.ใหม่ โดย ส.ส.ร. วางแนวทางสร้างพรรคใน 4ยุทธศาสตร์-2วาระเฉพาะหน้า

นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าววิสัยทัศน์และทิศทางของพรรคหลังจากที่ปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ บนเวที ก้าวต่อไป ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน  ตอนหนึ่งว่า ตนมองว่าการเมืองไทยยังมีปัญหา ทั้งระบบอภิสิทธิชน ซึ่งที่ผ่านมาแก้ไม่ได้ เพราะการเมืองของไทยคือการเมืองของชนชั้นนำ ซึ่งหมายถึงการอนุญาตรัฐประหารได้ตลอดเวลาหากนายพลจะนำอาวุธ หรือรถถัง ยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญ ไม่ถือว่าเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่หากโพสต์เฟซบุ๊ค หรือ ทวิตเตอร์ในสิ่งที่ผู้มีอำนาจไม่อยากเห็น จะต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต หรือติดคุก 10 ปี และการเมืองของชนชั้นนำนั้นตนมองว่าไม่ยอมให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน แม้จะให้สิทธิไปเลือกตั้ง ซึ่งตนขอเรียกว่าเป็นประชาธิปไตยที่มีประชาชนเป็นไม้ประดับ  ขณะที่การแข่งขันของพรรคการเมือง คือการแข่งขันเพื่อผลัดไปมีอำนาจ แต่ไม่ยอมให้เปลี่ยนโครงสร้างของสังคมไทยรูปแบบเดิม

 

“การเมืองแบบชนชั้นนำ กล่อมเกลาเราว่า ต้องอยู่ให้เป็น เพราะอาศัยเขาอยู่ ดังนั้นจงเชื่อว่าประชาชนไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงใหญ่ในประเทศได้ ยกเว้นเมื่อเจ้าของบ้านตัวจริงอนุญาตเท่านั้น อย่างไรก็ดีการอยู่แบบนี้อาจจะพอทำให้สังคมไทยเติบโตได้บ้าง เพราะเราจะเป็นอย่างไรก็ตามประเทศมหาอำนาจตะวันตกยังสนับสนุนให้ไทยต่อสู้กับคอมมิวนิวสต์ หากเป็นเมื่อ 30 - 40 ปีอาจจะอยู่ หรือพอไปกันได้ แต่หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่โลกผันผวนรวดเร็วและรุนแรง สังคมไทยไม่สามารถอยู่ได้ ผมต้องการบอกว่าความพยายามออกจากการเมืองของชนชั้นนำแบบเดิม เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวด้วยว่า ภัยคุกคามของการเมืองแบบชนชั้นน้ำ คือ ประชาชน  ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือ การปะทะของการเมืองชนชั้นนำ กับ ประชาชน ไม่ใช่เปลี่ยนจากเผด็จการไปสู่ประชาธิปไตย ทั้งนี้ตนมองว่าหลังจากนี้คือการเปลี่ยนแปลงบทบาทใหม่ของการเมืองไทย โดยเป้าหมายสำคัญของการเมืองแบบก้าวไกล คือ ผลักดัน เปลี่ยนแปลง การเมืองชนชั้นนำที่บอกว่าเป็นไปไม่ได้ เป็นสิ่งที่สังคมไทยปฏิเสธไม่ได้ โดยมียุทธศาสตร์สำคัญ 4 ด้าน และภารกิจเฉพาะหน้า 2 ด้าน

 

โดยยุทธศาสตร์สำคัญ คือ 1. ยุทธศาสตร์สร้างพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็งและเป็นของประชาชน  โดยตนขอให้ขยายสมาชิกพรรคและการมีส่วนร่วมประชาชนเพื่อสร้างพรรคเพื่อรอการเปลี่ยนแปลงที่มาถึง

 

2.ยุทธศาสตร์ฝ่ายค้านในสภาฯ เพื่อตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารแบบไม่เกรงใจ และตรงไปตรงมา สุขุมคัมภีรภาพ

 

3.ยุทธศาสตร์ฝ่ายค้านเชิงรุก

 

4.ยุทธศาสตร์ตรึงพื้นที่เก่า รุกพื้นที่ใหม่ โดยพื้นที่พรรคยังไม่ชนะเลือกตั้ง ขอให้สมาชิกช่วยเฟ้นหาคนที่ดีมาเป็นผู้แทนราษฎร

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่าขณะที่ ภารกิจเฉพาะ คือ 1.เลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับ โดยพรรคสร้างกลไกให้สมาชิกพรรคสรรหาผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่ใช่การสร้างหัวคะแนน แต่คือ การทลายรัฐรวมศูนย์ และ 2.ผลักดันให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีที่มาจากประชาชน โดยขอให้สมาชิกพรรคเรียกร้องต่อการทำประชามติให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ฐานะผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ

 

"ผมทราบดีว่าพวกเราเสียใจ สิ้นหวัง และเสียน้ำตา เพราะพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ แต่นับจากนี้ขอให้เอาน้ำตา และความเสียใจไว้ข้างหลัง ขอให้เดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงให้มากพอเพื่อบรรลุเป้าหมาย เดินหน้าร่วมกัน ก้าวต่อไป ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน" นายชัยธวัช  กล่าว.