จับตา "ก้าวไกล" เจรจา "ปดิพัทธ์" เปิดทางผู้นำฝ่ายค้าน ต้นต.ค.นี้ต้องจบ

จับตา "ก้าวไกล" เจรจา "ปดิพัทธ์" เปิดทางผู้นำฝ่ายค้าน ต้นต.ค.นี้ต้องจบ

จับตา เกม "ก้าวไกล" บีบ "ปดิพัทธ์" พ้นพรรค หรือ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เพื่อเปิดทางผู้นำฝ่ายค้าน ประเมินต้นตุลา นี้ต้องจบ เหตุเป็นผลดีต่อการขับเคลื่อนงาน-ลงพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ที่ประชุมพรรคก้าวไกล  เลือก นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ เมื่อ 23 ก.ย. แทนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อที่ลาออก เพื่อเปิดทางให้พรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ตามกติกาที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 106 กำหนด

 

ทั้งนี้มีรายงานข่าวระบุว่า สำหรับการทูลเกล้าฯ และรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งชื่อผู้นำฝ่ายค้านฯ นั้น เป็นหน้าที่ของประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยตามกระบวนการต้องตรวจสอบรายละเอียดเพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 คือ หัวหน้าพรรคของพรรคการเมืองที่มีสส.มากสุด และไม่มี สมาชิกดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรี ประธานสภาฯ หรือรองประธานสภาฯ 

 

อย่างไรก็ดีขณะนี้ในพรรคก้าวไกล นั้นพบว่า นายปดิพัทธ์ สันสติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ​คนที่หนึ่ง อยู่ ดังนั้นในทางออก พรรคก้าวไกลต้องเจรจากับนายปดิพัทธ์ ให้ลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งก่อน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ จึงจะดำเนินการตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญได้

จับตา \"ก้าวไกล\" เจรจา \"ปดิพัทธ์\" เปิดทางผู้นำฝ่ายค้าน ต้นต.ค.นี้ต้องจบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวระบุว่า พรรคก้าวไกล จะเลือกใช้วิธีขับนายปดิพัทธ์ ออกจากสมาชิกพรรค แทนการขอให้ลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เพราะตามกฎหมายพรรคการเมือง เมื่อสมาชิกพรรคที่มีตำแหน่ง สส. ถูกมติพรรคขับพ้นพรรค สามารถหาสังกัดใหม่ได้ภายใน 30 วัน เพื่อให้คงสิทธิเป็นสส.ได้ต่อ

และในกรณีดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เพราะตำแหน่งดังกล่าวถือเป็นตำแหน่งที่ติดตัวบุคคล และตามรัฐธรรมนูญมาตรากำหนดให้รองประธานสภาฯ ต้องพ้นตำแหน่ง ต่อเมื่อ

- ขาดจากสมาชิกภาพของสภาผู้แทนราษฎร

- ลาออกจากตำแหน่ง

-ดำรงตำแหน่งนายกฯ รัฐมนตรี หรือ ข้าราชการการเมืองอื่น

- ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดีนั้นไม่ถึงที่สุดหรือรอการลงโทษ เว้นแต่เป็นการกระทำโดยประมาท  ลหุโทษ หรือ หมิ่นประมาท

ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายปดิพัทธ์ ยอมรับต่อประเด็นการใช้วิธีขับออกจากพรรคก้าวไกล เป็นทางเลือกที่ปฏิบัติได้ตามกฎหมาย ขณะเดียวกันยังมีทางเลือกอื่นๆ โดยยังไม่ยืนยันความชัดเจนว่าจะเป็นแนวทางใด

 

 

อย่างไรก็ดีนายชัยธวัช ระบุว่าจะเจรจากับนายปดิพัทธ์ ในช่วงสัปดาห์หน้า และขณะนี้นายปดิพัทธ์นำคณะเดินทางดูงานที่ประเทศสิงคโปร์  และมีกำหนดเดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่ 25 ก.ย. โดยจะเดินทางถึงกทม. เวลา 22.10 น.

จับตา \"ก้าวไกล\" เจรจา \"ปดิพัทธ์\" เปิดทางผู้นำฝ่ายค้าน ต้นต.ค.นี้ต้องจบ

ทั้งนี้รายงานข่าวจากสภาฯ แจ้งว่า สำหรับนายปดิพัทธ์ มีวาระงานในสัปดาห์หน้า นอกจากการทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมสภาฯ วันที่ 27-28 ก.ย.  แล้ว  ในช่วงวันที่ 27 - 28 ก.ย. นัดสื่อมวลชนแถลงรายละเอียดถึงการเดินทางดูงานที่ประเทศสิงค์โปร์  พร้อมค่าใช้จ่ายในการดูงานทั้งหมด  , วันที่ 29 ก.ย. นี้ เตรียมแถลงรายละเอียด เกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ตามที่บริษัทผู้ควบคุมงานและที่ปรึกษาโครงการ เสนอให้สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ลงนามรับงาน 100%

 

แหล่งข่าวจากสภาฯ ระบุความเป็นไปได้ต่อการทูลเกล้าฯ ชื่อผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ต้องทำให้เกิดความชัดเจนในการดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งของนายปดิพัทธ์ ก่อน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ จากนั้นนเมื่อเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยตามรัฐธรรมนูญ นายวันมูหะมัดนอร์ สามารถดำเนินการได้หลังจากนั้น 1-2 วัน

 

"การดำเนินการในเรื่องนี้ ควรจะยุติในเดือนตุลาคม นี้ เพราะมีความเกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนงานของฝ่ายค้าน รวมถึงการปิดสมัยประชุมสภาฯ ในวันที่ 30 ตุลาคม นี้  หากตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านมีความชัดเจน จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงาน  เช่น ทิศทางการตรวจสอบ รวมการขับเคลื่อนไปยังภาคประชาชน เหมือนสมัยฝ่ายค้านชุดที่ผ่านมา ที่พบว่ามีการจัดงบประมาณเพื่อลงพื้นที่พบปะประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ภายใต้โครงการฝ่ายค้านพบประชาชน" แหล่งข่าวระบุ.