ผู้นำองค์กรรักชาติฯยื่น กกต.สอบ 'ปิยบุตร' ครอบงำ 'ก้าวไกล' ปมป้อง 'ช่อ'

ผู้นำองค์กรรักชาติฯยื่น กกต.สอบ 'ปิยบุตร' ครอบงำ 'ก้าวไกล' ปมป้อง 'ช่อ'

ทันควัน! 'ผู้นำองค์กรรักชาติฯ' ออกโรงยื่น กกต.สอบ 'ปิยบุตร' ปมกางปีกป้อง 'ช่อ พรรณิการ์' วิจารณ์ 'ก้าวไกล' ชี้ส่อครอบงำพรรคหรือไม่

เมื่อวันที่22 ก.ย. 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)​ นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมายื่นคำร้องชี้เบาะแสให้ กกต.ได้ตรวจสอบกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวตำหนิพรรคก้าวไกลที่ไม่รีบออกมาสื่อสารแบบเป็นทางการไม่ว่าจะแถลงหรือวิจารณ์ใดๆอันรู้สึกได้ว่า “ไร้น้ำใจ” กับ น.ส.พรรณิการ์ วานิช จนเกินไป กระทั่งรุ่งขึ้นอีกวันพลพรรคก้าวไกลออกมาดาหน้ากันคัดค้านและออกแถลงการณ์ช่วย น.ส.พรรณิการ์กันเป็นแถว อันถือได้ว่าเป็นการชี้นำ ครอบงำ ต้องห้ามตามกฎหมายพรรคการเมืองหรือไม่

ทั้งนี้ ตาม พ.ร.ป. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ม. 28 กำหนดเป็นข้อห้ามไว้ชัดเจนว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ

ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม ส่วนใน ม.29 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่า โดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมหากฝ่าฝืน ม.28 อาจมีโทษตาม ม.92(3) เป็นเหตุให้ กกต.เสนอศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมืองดังกล่าวได้ ส่วนผู้ที่ฝ่าฝืน ม.29 ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 5-10 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นด้วย

ดังนั้น การกระทำของนายปิยบุตร ซึ่งมิได้เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลที่ได้ออกมาโพสต์ข้อความในลักษณะดังกล่าว ดูเหมือนจะมีอิทธิพลต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพรรคก้าวไกลอย่างมาก ถึงขนาดดาหน้ากันออกมาให้สัมภาษณ์ รวมทั้งพรรคก้าวไกลก็ออกมาโพสต์แถลงการณ์คัดค้านคำพิพากษากรณีช่อ พรรณิการ์กันอย่างเอิกเกริกหลังจากนั้น สอดรับกับการชี้นำของนายปิยบุตรโดยชัดแจ้ง

กรณีเช่นนี้ อาจถือได้ว่า พรรคก้าวไกลและนายปิยบุตรกระทำการอันมีลักษณะเป็นการฝ่าฝืน ม.28 และหรือ ม. 29 แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ตามบทบัญญัติดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งผู้ที่จะสามารถวินิจฉัย ตรวจสอบ และให้คำตอบได้ดีที่สุดและเป็นไปตามกฎหมาย นั่นคือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง

ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงจำต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมาร้องเรียนและชี้เบาะแสให้ กกต.ดำเนินการตรวจสอบและไต่สวนตามครรลองของกฎหมายต่อไป หากพบเป็นการฝ่าฝืนก็ให้ดำเนินการลงโทษและหรือเสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองดังกล่าวต่อไป