ได้กลิ่น ทักษิโณมิกส์ 'นิดหนึ่ง' ในเงาไทยรักไทย

ได้กลิ่น ทักษิโณมิกส์ 'นิดหนึ่ง' ในเงาไทยรักไทย

ได้กลิ่นทักษิโณมิกส์ ‘เศรษฐา’ นายกฯ สไตล์ซีอีโอ คิดไวทำไว แวดล้อมด้วยทีม ‘ไทยรักไทย’ สายตรงบ้านจันทร์ส่องหล้า

‘หมอมิ้ง’ นายกฯน้อย ประจำการไทยคู่ฟ้า ‘หมอเลี้ยบ’ ขับเคลื่อนเรือธง ‘คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ’ สมทบด้วยทีมเพื่อนอุ๊งอิ๊งเต็มทำเนียบ

รัฐบาลต้นทุนต่ำ ‘เศรษฐา’ สวมวิญญาณสายเปย์ ลด แลก แจก แถม ปลุกอภิมหาประชานิยม อุดปัญหาปากท้อง ผ่อนแรงเสียดทานการเมือง

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง รู้ดีว่า ผลกระทบจากการตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยเสียต้นทุนทางการเมืองไปเกือบหมด จึงต้องเร่งฟื้นศรัทธา

ดังนั้น ที่ประชุม ครม.เศรษฐา นัดแรก จึงโชว์ผลงานแรกซื้อใจประชาชนอาทิ ลดค่าไฟฟ้า และลดราคาน้ำมันดีเซล พักหนี้เกษตรกรและธุรกิจขนาดเล็ก 3 ปี ฯลฯ

ส่วนการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้คนอายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 1 หมื่นบาท จำนวน 56 ล้านคน รวมเป็นเงิน 5.6 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น คงต้องรอต้นปีหน้า

ได้กลิ่นไทยรักไทย

ยกแรกของรัฐบาลเศรษฐา ปักธงแก้ปัญหาเศรษฐกิจเป็นด้านหลัก จึงมีเสียงวิจารณ์ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจที่คล้ายสมัยพรรคไทยรักไทย หลังการเลือกตั้งปี 2544

นักวิชาการบางคนพูดถึง ‘ทักษิโณมิกส์’ ภาค 2 ภายใต้การบริหารของเศรษฐา และรัฐบาลเพื่อไทย 

เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ยุทธศาสตร์การพัฒนาคู่ขนาน ภายใต้ทักษิโณมิกส์ รัฐบาลทักษิณดำเนินตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ควบคู่กับการพึ่งพิงตลาดต่างประเทศ 

ทักษิโณมิกส์ในฐานะเมนูนโยบายเศรษฐกิจ มี 2 เมนูที่สำคัญ ได้แก่ นโยบายประชานิยม และยุทธศาสตร์การพัฒนาคู่ขนาน

ในเงาทักษิณ

การปรากฏตัวในทำเนียบรัฐบาลของ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ส่งสัญญาณการกลับมาของพรรคไทยรักไทย ภายใต้รัฐนาวาลำใหม่

ได้กลิ่น ทักษิโณมิกส์ \'นิดหนึ่ง\' ในเงาไทยรักไทย

หมอมิ้ง เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในรัฐบาลทักษิณ ส่วนตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หมอมิ้งได้รับตำแหน่งนี้ 2 รอบ

ในฐานะนายกฯน้อย ปี 2549 หมอมิ้งได้รับมอบหมายถือเอกสารต้านการปฏิวัติ หลังนายกฯทักษิณ ต้องเดินทางไปประชุมสหประชา ชาติ ที่สหรัฐอเมริกา ช่วงกลางเดือน ก.ย.2549

บทบาทนายกฯน้อย ในรัฐบาลเศรษฐา หมอมิ้งคงไม่ต้องถือเอกสารต้านการปฏิวัติ เพราะนี่คือรัฐบาลพิเศษ หรือที่พรรคก้าวไกลเรียกว่า ส่วนต่อขยายของระบอบประยุทธ์

หมอมิ้ง จะเป็นมันสมอง และผู้กลั่นกรองแฟ้มงาน ก่อนส่งถึงมือนายกฯเศรษฐา เนื่องจากมีประสบการณ์การทำงานร่วมกับอดีตนายกฯทักษิณมายาวนานกว่า 5 ปี

นอกจากนี้ หมอมิ้ง ยังมีรองเลขาธิการนายกฯ อีก 3 คน ที่มาช่วยกรองงานและปฏิบัติภารกิจการเมือง

คนแรก สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง น่าจะถูกวางตัวให้เป็นฝ่ายตอบโต้ทางการเมือง แทนหมอชัย หรือชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล 

สมคิด เชื้อคง อดีต สส.อุบลฯ 2 สมัย และอดีตดาวสภา มีความช่ำชองในเกมการเมือง ซึ่งเลือกตั้งที่ผ่านมา โชคร้ายเจอนักการเมืองหน้าใหม่แต่กองหนุนเยี่ยม เอาชนะไปได้ที่เขต 11 อุบลราชธานี


จักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง สายตรงบ้านแจ้งวัฒนะ เจ๊แดง เยาวภา ตั้งใจปั้นให้ดาวดวงใหม่ พาย้ายจากเขต อ.สันกำแพง มาลงสมัคร สส.ในเขต อ.เมืองเชียงใหม่

ท็อป จักรพล อดีต สส.เชียงใหม่ 1 สมัย พ่ายพายุสีส้ม สอบตกแบบช็อกทั้งตระกูลชินวัตร จึงได้นั่งรองเลขาธิการนายกฯ เป็นรางวัลปลอบใจ

พงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เคยเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย น่าจะมาช่วยกรองงานเศรษฐกิจ

จั๋ง-พงศ์ศรัณย์ ลูกชาย เฮียเน้า-สมชัย อัศวชัยโสภณ บ้านใหญ่บางคล้า เลือกตั้งเที่ยวนี้ แพ้ทีมบ้านใหญ่พนมสารคาม พรรคพลังประชารัฐ

เพื่อนอิ๊งค์ก็มา

ในตึกไทยคู่ฟ้า ไม่ได้มีแค่ทีมไทยรักไทย ภาพที่นักข่าวเห็น เอิง-คณาพจน์ โจมฤทธิ์ เดินประกบ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็บอกได้ว่า ทีมไทยรักษาชาติ ก็มากันพร้อมหน้าพร้อมตา

ได้กลิ่น ทักษิโณมิกส์ \'นิดหนึ่ง\' ในเงาไทยรักไทย

เอิง-คณาพจน์ โจมฤทธิ์ เพื่อนสนิทอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ ได้กลายมาเป็นทีมงานเบื้องหลังให้อุ๊งอิ๊งในช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา

ปลายปี 2565 อุ๊งอิ๊ง เปิดตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยมี เอิง-คณาพจน์ โจมฤทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักษาชาติ และป๋อม-ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตหัวหน้าพรรค ทษช. เป็นทีมงานหลังม่าน

มิเพียงเท่านั้น ในคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ก็ยังมีเอิง คณาพจน์ ยังมี ป๋อม-ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช พร้อมกับเพื่อนแกนนำพรรค ทษช.รวมอยู่ด้วย 

วันนี้ ทั้ง ร.ท.ปรีชาพลและคณาพจน์ ก็เข้ามาประจำการในทำเนียบโดยไม่มีตำแหน่งทางการเมือง เนื่องจากยังถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง จากกรณียุบพรรค ทษช.

เหนืออื่นใด มาดามแจ๋น-พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตแกนนำพรรค ทษช. ยังดึงทีมเพื่อนอิ๊งค์ มาสมทบที่ตึกไทยคู่ฟ้าอีกกลุ่มใหญ่

เรือธงเศรษฐา

นโยบาย แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เป็นเมนูประชานิยมระยะสั้น แต่การตั้ง “คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ” ซึ่งมีนายกฯเศรษ ฐา นั่งเป็นประธาน และแพทองธาร ชินวัตร เป็นรองประธาน นี่ต่างหากที่จะเป็นเรือธงขับเคลื่อนทักษิโณมิกส์ภาค 2

ได้กลิ่น ทักษิโณมิกส์ \'นิดหนึ่ง\' ในเงาไทยรักไทย

ส่วน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะรับบทผู้ประสานงาน โดยมีกรรมการ 29 คน มาจากหลายสาขาอาชีพ

ตัวละครที่จะเป็นแกนหลักของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ มีอยู่ 2 คนคือ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และ พันศักดิ์ วิญญรัตน์

หมอเลี้ยบ-นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีต รมว.คลัง และอดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ถือว่าคนในบ้านจันทร์ส่องหล้า

ได้กลิ่น ทักษิโณมิกส์ \'นิดหนึ่ง\' ในเงาไทยรักไทย

พันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายเศรษฐกิจ รัฐบาลทักษิณ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจแบบคู่ขนาน (Dual Track) หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า ทักษิโณมิกส์

การปรากฏตัวของ พันศักดิ์ หมอมิ้ง และหมอเลี้ยบ ในรัฐบาลเศรษฐา เป็นสัญญาณการพลิกฟื้นแห่งยุคไทยรักไทย

ช่วงที่หมอเลี้ยบ หนึ่งในผู้ก่อการกลุ่มแคร์ ได้จัดรายการแคร์ทอล์คในคลับเฮาส์ โทนี่หรือทักษิณ ได้พูดคุยกับเอฟซีเพื่อไทย เดือนละ 2 ครั้ง และจัดรายการ Dare to Care ทุกวันศุกร์ ทั้งสองรายการเป็นการระดมความรู้และจุดประกายให้เกิดนโยบาย ‘1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์’ (One Family One Soft Power)

ได้กลิ่น ทักษิโณมิกส์ \'นิดหนึ่ง\' ในเงาไทยรักไทย

หัวใจของการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ อุตสาหกรรม และศักยภาพของคน

นโยบายพัฒนาศักยภาพคน หรือนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ จะยกระดับคนไทยให้เป็นแรงงานทักษะสูง มีรายได้สูงขึ้น 

ส่วนด้านอุตสาหกรรม ทีมเพื่อไทยจะตั้ง THACCA : องค์กรพัฒนาอุตสาหกรรม โมเดลเดียวกับ KOCCA ในเกาหลีใต้

คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ โดยอุ๊งอิ๊ง และคีย์แมนไทยรักไทยเดิม ตั้งใจจะใช้โครงการ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ เป็นเรือธงในการทำศึกสงครามมวลชน ไม่ต่างจากยุคไทยรักไทย ที่ใช้กองทุนหมู่บ้าน และโครงการหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งผลิตภัณฑ์ชุมชน สร้างฐานเสียง 17-19 ล้านคน 

เบื้องต้น พรรคเพื่อไทย คาดหวังจะสร้างคนพันธุ์ใหม่ 20 ล้านคน สร้างงานไม่ต่ำกว่า 20 ล้านตำแหน่ง และสร้างรายได้ให้ไม่ต่ำกว่า เดือนละ 20,000 บาท 

หากนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ สัมฤทธิ์ผล ในสมรภูมิเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทยก็สามารถต่อกรกับก้าวไกลได้สมน้ำสมเนื้อ