นายกฯ หารือ รมว.ท่องเที่ยว วางแผนรับมือทัวร์จีน หลังเปิดฟรีวีซ่า

นายกฯ หารือ รมว.ท่องเที่ยว วางแผนรับมือทัวร์จีน หลังเปิดฟรีวีซ่า

นายกฯ เรียก รมว.ท่องเที่ยว หน่วยงานเกี่ยวข้อง วางแผนรับมือทัวร์จีน หลังเปิดฟรีวีซ่า คาดนักท่องเที่ยวจีนทะลักเข้าประเทศไทย กำชับทำงานเชิงรุกสร้างความเชื่อมั่น ย้ำเพื่อสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

วันนี้ (12 ก.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมกับ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความมั่นคง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารทั้งภาครัฐและเอกชนด้านการท่องเที่ยว เพื่อหารือมาตรการเร่งรัดการท่องเที่ยวระยะสั้น ในช่วงเดือนกันยายน 2566 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567

นายกฯ หารือ รมว.ท่องเที่ยว วางแผนรับมือทัวร์จีน หลังเปิดฟรีวีซ่า
 

โดยในที่ประชุมได้หารือเพื่อแก้ไขปัญหาในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยได้กำหนดแนวทางการอำนวยความสะดวกในด้านการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย (Ease of Travelling) ร่วมกับมาตรการการดูแลและรักษาความปลอดภัย ควบคู่กับการส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยว เพิ่มการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมภาพลักษณ์ในรูปแบบต่างๆ อาทิ Brand Ambassador หรือ Influencers สำหรับตลาดจีนเพื่อภาพลักษณ์ใหม่ การบูรณาการตลาดแบบพุ่งเป้ากับ Online Travel Agency (OTA) และการนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ (Experience Tourism) ในลักษณะการเชื่อมโยงเมืองหลักสู่การท่องเที่ยวเมืองรอง ทั้งของประเทศไทยและประเทศจีน

โดยนายกฯ ได้กล่าวถึงมาตรการระยะสั้นเพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเรื่องมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ทั้งระยะกลาง และระยะยาว เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างเอกลักษณ์ กระแสความนิยมในประเทศไทย
 

นอกจากนี้ นายกฯ ได้กำชับให้หน่วยงานด้านความมั่นคง ทำงานเชิงรุก เพิ่มความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งคนไทย เพื่อรองรับการบริหารสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยว ภายหลังจากการอนุญาตชั่วคราวให้ชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทย แบบไม่ต้องขอวีซ่า ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ซึ่งเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะเดินทางเข้าไทยจำนวนมาก 

นอกจากนี้ นายกฯ ได้ย้ำว่า ขอให้ทุกหน่วยงานสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยเห็นแก่ความเดือดร้อน ปากท้องประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงิน พัฒนาเศรษฐกิจและกระจายรายได้