"นายกฯ" เรียกถกด่วน กก.แก้ยาเสพติด จ่อปรับกรอบแก้ปัญหา หลังถูกสภาฯท้วง

"นายกฯ" เรียกถกด่วน กก.แก้ยาเสพติด จ่อปรับกรอบแก้ปัญหา หลังถูกสภาฯท้วง

รัฐสภา อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันที่สอง เริ่มแล้ว "สว." ชง "นายกฯ" ปรับกรอบแก้ปัญหายาเสพติด ด้าน "เศรษฐา" ลุกขึ้นรับลูก นัดถกด่วน กก.แก้ปัญหาอย่างบูรณาการ 16ก.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เป็นวันที่สอง ได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.10 น. โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ซึ่งให้สมาชิกรัฐสภาอภิปรายต่อเนื่องจากวันที่ 11 ก.ย. โดยไม่เช็คองค์ประชุม เพราะเป็นการพิจารณาต่อเนื่อง

 

สำหรับการใช้เวลาอภิปรายนโยบายรัฐบาลในวันแรก (11 ก.ย.) นั้น สำนักประชุมสภาฯ แจ้งผลสรุปไว้ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 24 นาที คงเหลือเวลา 3 ชั่วโมง 35 นาที, สว. ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 21 นาที คงเหลือ 1 ชั่วโมง 38 นาที, สส.พรรคร่วมรัฐบาล ใช้เวลา  3 ชั่วโมง 1 นาที คงเหลือ 1 ชั่วโมง 58 นาที, สส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ใช้เวลา 7 ชั่วโมง 32 นาที เหลือเวลา 6 ชั่วโมง 27 นาที และเวลาของประธาน ใช้เวลา 31 นาที คงเหลือ 29 นาที  ดังนั้นเวลาที่ใช้รวมทั้งสิ้น 15 ชั่วโมง 50 นาที คงเหลือ 14 ชั่วโมง 9 นาที

 

\"นายกฯ\" เรียกถกด่วน กก.แก้ยาเสพติด จ่อปรับกรอบแก้ปัญหา หลังถูกสภาฯท้วง

จากนั้นเป็นการอภิปรายของนายวีระศักดิ์ ภูครองหิน สว. อภิปรายเสนอแนะให้รัฐบาลปรับกรอบเวลาแก้ปัญหายาเสพติดจากที่กำหนดไว้ในกรอบระยะกลางและระยะยาว เป็นกรองระยะสั้น เพื่อให้ทำได้ทันที โดยเฉพาะการกำหนดนิยาม ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย ต้องทำความเข้าใจที่ชัดเจน ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงระดับนโยบาย  ปัจจุบันมีคณะกรรมการดำเนินการทั้งส่วนกลางและพื้นที่ ทั้งนี้ตนมองว่าองค์กรที่สำคัญและมีบทบาทมาก คือ คณะกรรมการหมู่บ้านที่จะช่วยคัดกรองผู้เสพว่าเป็นอย่างไร นอกจากนั้นผู้ที่เสพยา และได้รับการบำบัดแล้ว จะทำอย่างไรเพื่อให้ใช้ชีวิตหรือคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ร่วมสังคมได้ ไม่เป็นปัญหาสังคม

ต่อจากนั้นเวลา 09.35 น. นายเศรษฐา  ลุกชี้แจงทันที ว่า ตนขอขอบคุณที่เสนอแนะให้วางกรอบการแก้ปัญหายาเสพติดเป็นกรอบระยะสั้น ซึ่งวันที่ 16 ก.ย.นี้ ตนจะประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการงานร่วมกัน พร้อมกับวางแผนในระยะสั้น ถึงระยะยาว จากนั้นจะแถลงให้ประชาชนทราบอีกครั้ง

 

“รัฐบาลตระหนักในปัญหายาเสพติด และจากการลงพื้นที่พบว่าปัญหายาเสพติดเป็นประเด็นที่ประชาชนเรียกร้องอย่างมาก   ไม่ด้อยไปกว่าปัญหาปากท้อง ดังนั้นรัฐบาลต้องจัดการแน่นอน ทั้งเรื่องผู้เสพคือผู้ป่วย รวมถึงหากรักษาหายแล้วจะทำอย่างไร เพื่อส่งคืนสู่ครอบครัวอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่กลับมาเสพอีก” นายเศรษฐา กล่าว

 

นายเศรษฐา ชี้แจงด้วยว่า  สำหรับการบริหารจัดการผู้ทำผิด รวมถึงการยึดทรัพย์ที่เป็นปัญหา รัฐบาลตระหนักและมองว่าต้องยึดทรัพย์โดยเร็ว รวมถึงการทำลายยาเสพติดที่หากทำช้าจะมีการลักลอบนำออกไป ดังนั้นต้องเร่งจัดทำแผนงานระยะสั้น เพื่อให้สถาบันครอบครัวแข็งแรง.