"เศรษฐา" ลั่น มีอิสระความคิด จาก "ตระกูลชินวัตร" รับนั่ง ปธ.ก.ตร. เอง

"เศรษฐา" ลั่น มีอิสระความคิด จาก "ตระกูลชินวัตร" รับนั่ง ปธ.ก.ตร. เอง

"เศรษฐา" ชี้ ต้องให้เกียรติ ขรก. เวลาสั่งการ ชี้ ผลงาน กำหนดความก้าวหน้า ไม่ใช่ซื้อขายตำแหน่ง ลั่น จะไม่ให้เกิดขึ้น เผย นั่ง ปธ.ก.ตร. เอง รอแถลงนโยบาย ก่อนตั้ง ผบ.ตร. ยัน มีอิสระทางความคิดจากครอบครัวชินวัตร รับ กดดัน ปชช.คาดหวังสูง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษก่อนแถลงนโยบายรัฐบาลว่า วันนี้เป็นการพบปะพูดคุยครั้งแรกใน ครม. นัดพิเศษ เป็นการรับฟังความคิดเห็น พูดคุยกัน ไม่ได้เป็นการสั่งการใดๆ แต่ได้ให้แนวทางเฉยๆ ว่า ในการทำงานของเรา เป็นรัฐบาลเหมือนที่ตนได้แถลงไปเมื่อวาน คือเป็นรัฐบาลของประชาชน เราต้องมาทำงานเพื่อประชาชนลืมความเหน็ดเหนื่อยตามหลักกฎหมายและความชอบธรรม ต้องดูให้ดีในเรื่องการจัดสรรงบประมาณ ให้เหมาะสมและต้องให้เกียรติข้าราชการเวลาสั่งการ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในที่ประชุมได้มีการเน้นย้ำคณะรัฐมนตรีเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เพราะเป็นฤดูกาลของการแต่งตั้งโยกย้ายพอดี และเป็นที่ทราบกันดีว่าเรื่องพวงนี้มีการเกิดขึ้นอยู่ตลอด อยากจะเน้นย้ำเพราะราชการทุกภาคส่วนมีความสำคัญอย่างยิ่งกับการขับเคลื่อนประเทศ เขาทำงานมาตลอดชีวิตก็ยังได้ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การปูนบำเหน็จทั้งหลายก็ขอให้เป็นธรรมด้วยผลงาน ไม่ใช่ด้วยมาจากการซื้อขายตำแหน่ง

เมื่อถามว่า สบายใจได้หรือไม่ว่าในเรื่องของการซื้อขายตำแหน่ง จะไม่เกิดขึ้น นายเศรษฐากล่าวว่า จะพยายาม นโยบายหลักหรือเป็นหนึ่งในเรื่องแรกๆที่ตนพูดถึง หวังว่ารัฐมนตรีทุกท่านจะให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะว่าจริงๆแล้วคณะรัฐมนตรีเรามีนโยบายดีๆมีนโยบายที่เราจะแถลงต่อรัฐสภา หลายๆเรื่องเราต้องการการขับเคลื่อนจากข้าราชการถ้าเกิดเราไม่ให้เกียรติ ไม่ให้ความเป็นธรรมกับเขา เรื่องของการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ก็จะเป็นไปด้วยความลำบาก 

เมื่อถามว่า จะไม่มีนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย อยู่ในร่างนโยบายที่จะแถลงต่อสภานายกฯ กล่าวว่า เป็นคำแถลงกว้างๆ เราจะดูเรื่องการขนส่งทั้งหมด โดยในเรื่องรถไฟฟ้าก็ต้องมาดูการเชื่อมต่อทุกสายให้เข้ากัน และต้องใช้บัตรใบเดียวเพื่อความสะดวก ต้องดึงเรื่องทั้งหมดกลับมาดูว่า ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมจะเป็นเท่าไหร่ รัฐบาลจะต้องมีการชดเชยเท่าไหร่ ในแง่ของงบประมาณทั้งหมด แต่ยืนยันว่าบรรจุไว้เป็นเรื่องคร่าวๆอยู่แล้ว 

เมื่อถามว่า ที่ยังไม่ทำทันทีเป็นเพราะต้องเอางบประมาณไปใช้ในเรื่องอื่นก่อนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ครับ เราทำทันที เราก็เริ่มดูแลทันที ต้องเอาระบบการขนส่งทางรางทั้งหมดเชื่อมต่อให้เป็นรูปธรรม และก็ต้องมีบัตรใบเดียวเพื่อดูค่าใช้จ่ายทั้งหมดว่าเท่าไหร่ ซึ่งทุกเรื่องเร่งด่วนหมด 

เมื่อถามว่า ในวันที่ 11 ก.ย. นี้ นอกจากการแถลงนโยบายแล้ว จะมอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดชี้แจงข้อสงสัย นายเศรษฐา กล่าวว่า ถ้าเกิดกระทรวงไหนเกี่ยวข้องหรือถูกพาดพิง และต้องการการอธิบาย ตนเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกท่านเตรียมความพร้อมในการชี้แจง 

เมื่อถามถึงการแต่งตั้งข้าราชการ ว่าจะเข้าไปดู ก.ตร.ด้วยตัวเองหรือไม่หลังมีการเบรควาระแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าใช้คำว่าเบรคจะถูกต้องหรือไม่ แต่ตนเองก็จะนั่งประธาน ก.ตร. อย่างแน่นอนและขอดูวันที่เหมาะสมก็จะมีการนัดประชุมต่อไป ส่วนการพิจารณาแต่งตั้งผบ.ตร. คนใหม่ จะมีส่วนในการตัดสินใจหรือไม่นั้นเรื่องนี้ยัง และก็ยังไม่ได้เข้าไปบริหารอะไรเลย ขอเป็นหลังแถลงนโยบายก่อน 

เมื่อถามถึงการกำชับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ว่าเป็นการมุ่งปฏิรูปตำรวจหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เปล่า ทุกๆ ภาคส่วนของข้าราชการไม่ได้เจาะจงบอกว่าหน่วยงานไหนมีปัญหามากเป็นพิเศษ 

เมื่อถามว่า นายกฯ มีอิสระในการทำงานมากหรือน้อยเพียงไหน เพราะพรรคเพื่อไทย มีความใกล้ชิดกับตระกูลชินวัตร นายเศรษฐา กล่าวว่า "ผมขอเวลาในการบริหารราชการ และขออีกสัก6 หรือ 3 เดือน สื่อมวลชนมาถามอีกที ผมเชื่อว่าผมมีอิสระทางด้านความคิด ไม่ใช่แค่ครอบครัวชินวัตร หากใครมีข้อมูลดีๆ มีเรื่องราวดีๆ ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ผมมาวันนี้รัฐบาลนี้ทำงานเพื่อประชาชน อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ใครที่มีข้อมูลหรือการแนะนำที่ดีคนก็รับฟัง" นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามว่า ในโอกาสที่จะเดินทางไปไปประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่สหรัฐอเมริกา มีโอกาสในการทำให้ต่างประเทศสนใจประเทศไทยและอยากจะมาเมืองไทยมากขึ้นอย่างไรนายกฯกล่าวว่า คงเป็นโอกาสหนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศกำลังรวบรายชื่อผู้นำต่างประเทศที่จะเข้าพบ ส่วนตัวก็จะพยายามนัดหมายกับนักธุรกิจระดับโลกหลายคน เพื่อพูดคุยถึงความต้องการลงทุนในประเทศไทย ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็ถือว่าเป็นการประชุมสหประชาชาติประจำปีในทุกๆเดือน กันยายน ก็ถือเป็นเวลาอันดีที่ได้ไปพบปะพูดคุย ส่วนจะมีโอกาสได้พบปะกับผู้นำสหรัฐฯหรือไม่นั้น ขณะนี้กำลังนัดอยู่ ต้องได้อยู่แล้วเพราะท่านเลี้ยงอาหารค่ำวันหนึ่ง 

เมื่อถามว่า นายกฯรู้สึกกดดันบ้างหรือไม่ในการเข้ามา และประชาชนคาดหวังสูงในรัฐบาลนี้นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็มีความกดดันอยู่แล้ว ปัญหาของประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ ทำงานแล้วก็ต้องยอมรับเรื่องพรุ่งนี้ ยืนยันว่าตนมีความตั้งใจจริงแต่ขอเวลาทำงานนิดนึง ก่อนยกมือขึ้นไหว้และกล่าวขอบคุณ 

โดยช่วงหนึ่ง ผู้สื่อข่าวได้แซวว่า รู้ตัวหรือไม่ว่าเป็นคนที่ไหว้สวย นายเศรษฐา ไม่ได้ตอบคำถามเพียงแต่ยิ้มให้

เมื่อถามว่าจะเข้ากระทรวงการคลังเมื่อไหร่ เศรษฐาตอบว่าต้องขอดูฤกษ์นิดนึง ทั้งฤกษ์ดีและฤกษ์สะดวก