ส่อง ‘สุทิน-ชลน่าน’ ตำนาน ‘สส.นกแล’ สู่เสนาบดี

ส่อง ‘สุทิน-ชลน่าน’ ตำนาน ‘สส.นกแล’ สู่เสนาบดี

สิ่งที่เกินฝันสำหรับครูสุทินคือ การได้ตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม เช่นเดียวกับ หมอชลน่าน ที่หวังจะได้เป็นประธานสภา แต่สถานการณ์เพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ จึงต้องเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข สุทิน-ชลน่าน คือต้นแบบ สส.นกแล นักการเมืองลูกชาวบ้าน ที่ไม่ได้เติบโตมาจากร่มเงาบ้านใหญ่

เปิดปูมหลัง ‘สุทิน คลังแสง’ รมว.กลาโหม ‘นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว’ รมว.สาธารณสุข ผู้สร้างตำนาน ‘สส.นกแล’ ยุคไทยรักไทย 

22 ปีที่รอคอย ครูสุทิน มาไกลเกินฝัน คุมกระทรวงคชสีห์ หมอชลน่านสานฝัน 30 บาทรักษาทุกโรค 

บรรดารัฐมนตรีป้ายแดงใน ครม.เศรษฐา 1 บุคคลที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคนหนึ่งคือ สุทิน คลังแสง ครูเก่าเมืองมหาสารคาม บุญพาวาสนาส่งได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม

ดังนั้น เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2566 สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีกลาโหม จึงเดินทางเข้าพบ บิ๊กแอ๊ด-พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีต รมว.กลาโหม สมัยรัฐบาลทักษิณ พรรคไทยรักไทย ที่บ้านพักส่วนตัว

เนื่องจาก สุทิน คลังแสง และ พล.อ.ธรรมรักษ์ รู้จักมักคุ้นกันมานานแล้ว ตั้งแต่ทักษิณ ชินวัตร มอบหมายให้บิ๊กแอ๊ด เปิดสำนักงานพรรคไทยรักไทย ทั่วภาคอีสานช่วงปี 2542-2543

การพบปะของสนามไชย 1 (นามเรียกขาน รมว.กลาโหม) และอดีตสนามไชย 1 ในครั้งนี้ ทำให้นักข่าวรุ่นหลังได้รู้จักคำว่า ‘สส.นกแล’ สมัยพรรคไทยรักไทย

ที่น่าสนใจ ใน ครม.เศรษฐา 1 มี สส.นกแล ในตำนาน ได้เป็นรัฐมนตรี 2 คนคือ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข

สส.นกแล-ในตำนาน

คำว่า ‘สส.นกแล’ คือ สส.หน้าใหม่และคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานการเมือง ไม่ได้มีเส้นสายหรือสืบสายเลือดจากนักการเมืองรุ่นก่อน

อันเนื่องมาจากชัยชนะเหนือความคาดหมายของพรรคไทยรักไทย ในวันที่ 6 ม.ค.2544 กวาด สส.มาได้ 248 คน (แยกเป็น สส.เขต 200 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ  48 คน) 

ในจำนวน 248 คนพบว่า เป็น สส.เก่า จากการเลือกตั้งปี 2539 เพียง 93 คน ที่เหลืออีก 155 คน บางคนเป็นอดีต สส.รุ่นเก่า แต่ส่วนใหญ่คือ ‘สส.นกแล’ หรือ สส.ใหม่ป้ายแดง

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี แกนนำกลุ่มแคร์ ได้บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับ สส.นกแล ไว้ว่า “คนรุ่นใหม่เหล่านี้ มีพลังมุ่งมั่น มีอุดมการณ์ จุดอ่อนคือยังไม่เป็นที่รู้จักกว้างขวาง เราเรียกกันเล่นๆว่า นกแล แต่นกแลเหล่านี้แหละที่เดินหาเสียงอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย...เมื่อผลเลือกตั้งออกมา ปรากฎว่า ช้างล้ม ไปจำนวนมากเพราะนกแลหนุ่มสาวนี้เอง”

ยกตัวอย่างภาคอีสาน ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทยในสมัยนั้น ได้ตั้ง พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นแม่ทัพอีสาน ออกเดินสายไปเปิดสำนักงานพรรคทั้ง 20 จังหวัด

เฉพาะที่มหาสารคาม สุทิน คลังแสง อดีตครูสอนเด็กพิการทางสายตาฯ ที่ผันมาเป็นนักวิจัยประจำมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรค ทรท. เพราะเห็นว่า พรรคนี้ให้ความ สำคัญกับคนรุ่นใหม่  

สุทิน ไม่เคยเล่นการเมืองท้องถิ่น แต่เมื่อเห็นนโยบายพรรคไทยรักไทย ด้วยคำโฆษณาที่สั้นกระชับ สื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายคือ สามสิบบาทรักษาทุกโรค, กองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละล้าน, พักหนี้เกษตรกร 3 ปี จึงเลือกที่จะลงสนามเลือกตั้งในสีเสื้อ ทรท.

กระแสคมกว่ากระสุน

‘สส.นกแล’ ของพรรคไทยรักไทย เมื่อ 22 ปีที่แล้ว ก็ไม่ต่างจากปรากฏการณ์ สส.สีส้ม ในปัจจุบัน พวกเขาไม่ใช่ลูกหลานบ้านใหญ่ ไม่ได้มีฐานมาจากการเมืองท้องถิ่น

นี่คือกระแสที่มีพลานุภาพกว่ากระสุน โดย ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ริเริ่มใช้การเมืองเชิงนโยบาย เอาชนะการเมืองเก่าที่ถนัดสาดกระสุนในคืนหมาหอน

ปี 2542 ช่วงก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ทักษิณกระซิบกับคนใกล้ชิดว่า ถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ก็ตั้งเป้า สส.ว่าจะได้ สส.แค่ 25 คนเท่านั้น

ปลายปี 2543 เมื่อนโยบายประชานิยม มีเสียงตอบรับดีขึ้น แกนนำพรรค ทรท.ประเมินว่า จำนวน สส.ที่คาดหวังไว้ น่าจะทะลุ 100 คนแต่ไม่มีใครคิดว่าจะไปถึง 248 คน

อีกด้านหนึ่ง ทักษิณได้เจรจาดึง สส.เก่า หรือ สส.บ้านใหญ่บางกลุ่มเข้ามาเสริมทัพ และผลักดันนักการเมืองรุ่นใหม่บางส่วนลง สส.บัญชีรายชื่อ

ผลการเลือกตั้ง พ.ศ.โน้น มีรายการล้มช้างหลายสิบจังหวัด โดย เฉพาะภาคอีสาน และภาคเหนือ อดีต สส.บ้านใหญ่ ในสีเสื้อพรรคความหวังใหม่,พรรคชาติไทย และพรรคเสรีธรรม สอบตกเป็นแถว

ปัจจุบัน สส.นกแล พรรคไทยรักไทย ปี 2544 ที่ยังคงได้รับเลือกเป็น สส.ในสีเสื้อเพื่อไทย มีอยู่หลายคน อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และ สุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ

รวมถึง พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ สส.เชียงราย, เอกธนัช อินทร์รอด สส.หนองคาย, ธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี ,กิตติ สมทรัพย์ สส.ร้อยเอ็ด, เกษม อุประ สส.สกลนคร ฯลฯ

เสนาบดีนกแล

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และ สุทิน คลังแสง มีสิ่งที่เหมือนกันคือ ทั้งคู่เคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน

ก่อนปี 2544 เวลานั้น นพ.ชลน่าน เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว อ.ปัว จ.น่าน ด้วยความเป็นหมอหนุ่มหน้าตาดี มีชาว บ้านชื่นชอบจำนวนมาก

แกนนำพรรค ปชป.ภาคเหนือ ตามจีบหมอชลน่าน ให้ลงสมัคร สส.น่าน ในนามพรรค ปชป.ถึง 2 ครั้ง แต่หมอหนุ่มปฏิเสธด้วยเหตุผลว่า หากได้ตำแหน่งแล้ว ไม่รู้ว่าจะทำงานอะไรให้พี่น้องประชาชน 

กระทั่งเห็นนโยบายใหม่ๆของพรรคไทยรักไทย และได้เห็นแกนนำพรรค ทรท.ลงพื้นที่เมืองน่านเป็นเวลานานนับปี จึงตัดสินใจสมัคร สส.น่าน ในนามพรรคไทย ทรท. และได้เป็น สส.น่าน สมใจ

“ผมเหมือนกับคุณหมอ(นพ.ชลน่าน)หลายอย่าง คือ หนึ่ง - เกิดปีเดียวกัน สอง - เป็นสมาชิกประชาธิปัตย์เหมือนกัน สาม - เป็นข้าราชการเหมือนกัน แต่ของผมต่างกับคุณหมอนิดเดียวคือ ผมเป็นสมาชิกพรรครุ่นแรก และเป็น สส.บัญชีรายชื่อ และเป็นวิทยากรเดินทางไปปราศรัยจังหวัดนั้นจังหวัดนี้ เรียกทีมนี้ว่าฝ่ายพัฒนาการเมือง” สุทิน เล่าความหลังครั้งที่เข้าสภาฯ รุ่นเดียวกับ นพ.ชลน่าน

บังเอิญว่าตอนเลือกตั้งปี 2544 ที่มหาสารคาม มี สส.เก่าเข้ามาอยู่พรรค ทรท.หลายคน สุทิน คนหน้าใหม่เลยต้องไปลง สส.บัญชีรายชื่อ ส่วน นพ.ชลน่าน ได้ลง สส.เขต

ในวันที่สุทิน คลังแสง ยังเดินสายในฐานะวิทยากรฝ่ายพัฒนาการเมืองของพรรค ทรท. ลงไปสัมมนากับชาวบ้าน เพื่ออธิบายนโยบายพรรค สส.หน้าเก่าจะหัวเราะเยาะ เพราะเห็นว่า พวกนี้เป็น สส.นกแล

“ผมเลยเป็นวิทยากรรุ่นแรก แล้วพอบอกว่า สุทินเป็นวิทยากร สส. ลายครามนี่หัวเราะเยาะนะ เพราะเราเป็น สส. นกแลหน้าใหม่”

พ.ศ.นี้ สุทิน คลังแสง กลายเป็น สส.ลายคราม และมีผลงานโดดเด่นเป็นดาวสภา ไม่ต่างจาก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว 

สิ่งที่เกินฝันสำหรับครูสุทินคือ การได้ตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม เพราะก่อนหน้านั้นก็หวังแค่ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายก รัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีศึกษาธิการ

เช่นเดียวกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่หวังจะได้เป็นประธานสภาผู้แทน ราษฎร แต่สถานการณ์เพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ จึงต้องเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข แลกกับต้นทุนการเมืองที่หายไปในเกมรัฐบาลพิเศษสลายขั้ว

จะอย่างไรก็ตาม สุทิน-ชลน่าน ก็คือต้นแบบ สส.นกแล นักการเมืองลูกชาวบ้าน ที่ไม่ได้เติบโตมาจากร่มเงาบ้านใหญ่