"พิเชษฐ์" ปัดเกี๊ยะเซียะ "ประธานกมธ."โยงคุมกระทรวง เมิน "ก้าวไกล" ยื้อเคาะ

ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่2  กล่าวภายหลังการประชุมร่วมตัวแทนพรรคการเมืองเพื่อพิจารณาจัดสรรกรรมาธิการ(กมธ.)สามัญ ประจำสภาผู้แทนราษฎรว่า ในส่วนของประธานกมธ. เบื้องต้นได้ข้อสรุปในหลักการ ตามที่ได้เสนอคือพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย จะได้พรรคละ10คณะ ขณะที่พรรคที่เหลือจะมีประธานกมธ.จำนวนเรียงไปตามลำดับ

ทั้งนี้ในที่ประชุมพรรคก้าวไกลได้เสนอว่า อยากให้รอการเลือกตั้งซ่อมระยองก่อน หากก้าวไกลแพ้จำนวนประธานกมธ.ก็จะมี10คณะเท่าเดิม แต่หากชนะจะส่งผลให้สัดส่วนขยับเป็น11คณะ แต่ในที่ประชุมเห็นว่า ควรจะยึดสัดส่วนตามที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเพราะการเลือกตั้งซ่อมยังมีกระบวนการรับรองผลซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะแล้วเสร็จสิ้นเมื่อใด ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นควรยึดสัดส่วนตามที่มีการประกาศไปแล้ว

นายพิเชษฐ์ ยังกล่าวว่า ในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่4ก.ย.จะเป็นการพิจารณาการจัดสรรคสมาชิกในแต่ละพรรคว่าใครจะอยู่คณะใดบ้าง

ก่อนที่วันที่13 ก.ย. จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับประธานกมธ.ทั้ง35คณะ และประชุมกมธ.นัดแรกในวันที่14ก.ย.

ทั้งนี้ ในการจัดสรรกมธ.ของแต่ละพรรคจะยึดตามความต้องการของพรรคเป็นหลัก หากไม่ซ้ำกันก็จะได้คณะนั้นไปเลย แต่หากซ้ำกัน ก็จะมีการพูดคุยอีกรอบเพื่อหาข้อสรุป 

เมื่อถามว่ามีการออกมาตั้งข้อสังเกตว่า หากมีการจัดสรรเก้าอี้กมธ.ที่ซ้ำกับกระทรวงที่พรรคตนเองเป็นรัฐมนตรีจะทำให้กระบวนการตรวจสอบเป็นไปอย่างลำบาก  นายพิเชษฐ์ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดแต่การจัดสรรยึดความต้องการของพรรคนั้นๆเป็นสำคัญ

ถามต่อว่า หากผลการเลือกตั้งซ่อมระยอง พรรคก้าวไกลชนะจะต้องมีการเจรจากันภายหลังหรือไม่ รองประธานสภา กล่าวว่า วันนี้เป็นแบบนี้ไปก่อนแต่ถ้าก้าวไกลชนะเรามีวิปของทุกพรรคที่จะมาพูดคุยกันหากพรรคก้าวไกลชนะสัดส่วนกมธ.ก็จะเปลี่ยนแปลงไป