'วิโรจน์' จี้ 'เศรษฐา' แจงคุณสมบัติ รมต. ขอให้ผลงานพิสูจน์หน้าตารัฐบาลใหม่

'วิโรจน์' จี้ 'เศรษฐา' แจงคุณสมบัติ รมต. ขอให้ผลงานพิสูจน์หน้าตารัฐบาลใหม่

'วิโรจน์' จี้ 'เศรษฐา' แจงคุณสมบัติรัฐมนตรีให้ชัด ขอให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์หน้าตารัฐบาลใหม่ เชื่อ 'ชลน่าน' ลาออกหัวหน้าเพื่อไทย ลดแรงเสียดทานสังคมไม่ได้ เหตุไปรับตำแหน่งใหญ่กว่า โยน กก.บห. 'ก้าวไกล' ตัดสินใจ การทำงานของพรรคให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2566 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงบุคคลที่จะมีดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ทั้งนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ว่าที่ รมช.มหาดไทย และนายพิชิต ชื่นบาน ทนายความครอบครัวชินวัตร ว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ว่า เป็นไปตามที่ประชาชนเห็นว่า เป็นบุคคลเดิม ๆ เพียงแต่มีการสลับกระทรวงกัน แต่ก็ขอให้ระยะเวลาทำงานการของรัฐบาลเป็นตัวพิสูจน์

ส่วนเรื่องคุณสมบัติขอผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ควรจะออกมาตอบคำถามต่อสังคม และเห็นว่า การติติงเรื่องคุณสมบัติของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จากประชาชน เป็นสิ่งที่ควรรับฟัง แต่ก็ควรให้โอกาส และให้เวลากับรัฐบาลเพื่อผลงานมาพิสูจน์ว่า รัฐมนตรีคนใดดีหรือไม่ดี มีผลงานหรือไม่มีผลงาน 

"ผมเห็นว่าเมื่อมีการเปิดรายชื่อบุคคล ที่จะมาทำหน้าที่รัฐมนตรีแล้ว ประชาชนก็จับจ้อง เพราะคาดหวังสิ่งใหม่ ๆ แต่หากเป็นบุคคลเดิม ๆ สลับเหมือนเก้าอี้คนเดียว ประชาชนก็อาจจะสิ้นหวังบ้าง แต่ก็เป็นแรงกดดัน ที่จะทำให้รัฐบาลต้องพิสูจน์ตัวเอง" นายวิโรจน์ กล่าว 

ส่วนกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เตรียมลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า ถือเป็นการตัดสินใจของ นพ.ชลน่าน พร้อมตั้งข้อสงสัยว่า สังคมยังให้ความสนใจข่าวนี้อยู่อีกหรือ และเชื่อว่า นพ.ชลน่าน คงจะมีการประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่อ ซึ่งตนได้มองข้ามขั้นตอนนี้ไปแล้ว และเชื่อว่า สื่อมวลชนคงจะทราบดีว่า จะสามารถลดแรงเสียดทานของสังคมหรือไม่ เพราะไม่ใช่การลาออกให้ตัวเปล่าเล่าเปลือย เพราะคำว่าลาออก ในมุมมองประชาชน คือ การลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่ลาออกเพื่อไปรับตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้น

สำหรับการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคก้าวไกลจะเป็นไรอย่างไรนั้น นายวิโรจน์ กล่าวว่า จะต้องรอการทำงานของรัฐบาลก่อน แต่ขณะนี้ พรรคก้าวไกล เร่งเสนอแก้ไขและทบทวนกฎหมายที่ล้าสมัย หรือเอื้อประโยชน์ให้เกิดการทุจริต ไม่โปร่งใส และการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลหลังจากนี้ พรรคก็จะให้ความสำคัญต่อการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาล 

ส่วนการประชุม สส.พรรคก้าวไกล วานนี้ (29 ส.ค.) นายวิโรจน์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยถึงการทบทวนตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยที่ประชุมมอบหมายให้กรรมการบริหารพรรค เป็นผู้หารือ แต่ยืนยันว่าพรรคจะพิจารณาว่า ตำแหน่งใดที่จะทำให้พรรคก้าวไกลสามารถขับเคลื่อนนโยบายได้ดีที่สุด ทั้งการเสนอแก้ไขกฎหมายที่จำเป็น และการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล เพราะตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ยังเป็นองค์ประกอบในกรรมการสรรหาบุคคลดำรงตำแหน่งกรรมการองค์กรอิสระด้วย รวมถึงการเปิดอภิปรายคณะรัฐมนตรี

นายวิโรจน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ เช่นเดียวกับ สัดส่วนกรรมาธิการสามัญสภาผู้แทนราษฎร ที่ สส.ของพรรค มอบหมายให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้ตัดสินใจเลือก เพื่อให้พรรคสามารถขับเคลื่อนนโยบายพรรคให้ตอบโจทย์ประชาชนได้มากที่สุด โดยไม่ได้คำนึงถึงการเรียกรับผลประโยชน์