"วันนอร์" เร่งกระชับสัมพันธ์ ไทย-อินโดฯ แก้ปัญหายางพาราตกต่ำ

"วันนอร์" เร่งกระชับสัมพันธ์ ไทย-อินโดฯ แก้ปัญหายางพาราตกต่ำ

ประธานรัฐสภา ให้การรับรองเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทยกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐสภาทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และหารือแก้ปัญหายางพาราร่วมกัน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง นายระห์มัต บูดีมัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้าแนะนำตนเองในฐานะเอกอัครราชทูตฯ  และแสดงความยินดีกับประธานรัฐสภาในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่  โดยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เนื่องจากมีความร่วมมือระหว่างกันครอบคลุมทุกด้านทั้งความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านการประมง ด้านการท่องเที่ยว ด้านการศึกษา ด้านวัฒนธรรม ด้านการเกษตร และด้านความร่วมมือในกรอบอาเซียนและเวทีระหว่างประเทศ

           

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 44 ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 5-11 สิงหาคม ที่ผ่านมา และพบปะหารือกับ นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ถึงการยกระดับความร่วมมือด้านการเกษตร โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ รวมถึงด้านการประมง และการแลกเปลี่ยนการศึกษา

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวอีกว่า ตนได้หารือกับ นายซุลกิฟลี ฮาซัน รมว.การค้าสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เรื่องยางพารา ซึ่งอินโดนีเซียนำเสนอ 3 ประเด็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับกฎ ระเบียบว่าด้วยการปลอดสินค้าจากการตัดไม้ ทำลายป่าของสหภาพยุโรป  ราคายางตกต่ำ ความท้าทายเกี่ยวกับโรคระบาดในยาง

"ขณะที่ฝ่ายไทยเห็นควรให้มีความร่วมมือระหว่างกันในการกำหนดราคายางร่วมกัน ส่งเสริมการใช้ยางภายในประเทศ และการร่วมมือวิจัยยาง สร้างนวัตกรรมยางเพิ่มขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยจะมีการพูดคุยกับประธานาธิบดีอินโดนีเซียเร็วๆนี้ จึงหวังว่าจะเป็นนิมิตรหมายอันดีที่จะได้แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทั้งสองประเทศร่วมกัน" นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

\"วันนอร์\" เร่งกระชับสัมพันธ์ ไทย-อินโดฯ แก้ปัญหายางพาราตกต่ำ

ทั้งนี้ ในระดับรัฐสภา รัฐสภาไทยและรัฐสภาอินโดนีเซียมีความสัมพันธ์ในรูปการเป็นภาคีสมาชิกสหภาพรัฐสภา (IPU) การประชุมรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (APPF) สมัชชารัฐสภาเอเชีย (APA) และสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) โดยสมาชิกรัฐสภาทั้งสองประเทศได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการ ประชุมขององค์กรดังกล่าว และการประชุมที่เกี่ยวข้อง.