'ประยุทธ์' หักดิบ 'ตั๋วป่ารอยต่อฯ' ไม่รับบทนายแบก 'พี่ป้อม'ช้ำใจ

'ประยุทธ์' หักดิบ 'ตั๋วป่ารอยต่อฯ'  ไม่รับบทนายแบก 'พี่ป้อม'ช้ำใจ

โผแรกของ 'นายกฯเศรษฐา' แต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่  และ รอง ผบ.ตร.ไปจนถึง ผบก. จะพลิกฝุ่นตลบหรือไม่ ก็เป็นเรื่องน่าคิด เพราะอย่าลืมว่า "ทักษิณ ชินวัตร"อดีตนายกฯ นอนรักษาตัวอยู่บนชั้น 14 รพ.ตำรวจ

ตั้งลำกันแทบไม่ทัน เพราะอยู่ดีๆ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ก็อ้างเรื่องธรรมาภิบาล ขอเลื่อนการแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ออกไปก่อน 

ส่งผลกระทบไปยังตำแหน่งอื่นในระดับ รอง ผบ.ตร. และ ผู้บังคับการ (ผบก.)เพราะเมื่อหัวยังไม่นิ่ง เก้าอี้อื่นก็ขยับไม่ได้ เพราะเดิมที "พล.อ.ประยุทธ์"จะนำ "โผทหาร -โผตำรวจ" ทูลเกล้าฯไปพร้อมๆกัน

แต่หลัง "เศรษฐา ทวีสิน"  ขอเข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ เกิดเปลี่ยนใจเสียงั้น รีบประเคนอำนาจดังกล่าวให้นายกฯคนใหม่ทันที

ส่งผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)วานนี้ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ นั่งหัวโต๊ะ ต้องถอนวาระการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ และ การแต่งตั้งระดับ รองผบ.ตร.ไปจนถึง ผบก.ออกไปก่อน 

พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกตำรวจ ชี้แจงว่า ให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลใหม่ในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย เพื่อให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล โดยขยายเวลาออกไปจนถึงสิ้นเดือน30กันยายนนี้

ส่วนบัญชีรายชื่อ รองผบ.ตร.-ผบก.ที่คณะกรรมการกลั่นกรอง(บอร์ดกลั่นกรอง) ได้พิจารณาไปแล้วนั้น ก็จะต้องมีการรประชุมพิจารณาใหม่ทั้งหมดเพื่อให้ได้ผู้ที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่ง ส่วนจะมีการพลิกโผรายชื่อบัญชีเดิมหรือไม่อยู่ที่การพิจารณา

งานนี้สะเทือนไปถึงตั๋วบ้านป่ารอยต่อฯที่มีเต็มกระบุงรับผลกระทบกันทั่วหน้า จากที่เคยมั่นอกมั่นใจว่าได้แน่ก็เริ่มไม่แน่เสียแล้ว ส่วนคนที่หมดหวังไปก่อนหน้านี้ ก็พอมีลุ้น ขั้วอำนาจเปลี่ยน มีนายกฯใหม่ รัฐบาลใหม่ จากที่เคยตามหลังเป็น100เมตร จากนี้มาแข่งที่จุดสตาร์ทเดียวกัน วัดกันที่ฝีมือ-ผลงาน

วิเคราะห์กันว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่ "พล.อ.ประยุทธ์" ต้องมารับบทนายแบก หลังแบกตั๋วบ้านป่ารอยต่อฯ มากว่า 8 ปี เหตุเกรงใจ "พี่ป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แม้ความสัมพันธ์จะไม่หวานชื่นเหมือนเก่าก่อน แต่ยังคงให้ความเคารพนับถือ

ยกเว้นกับคนข้างกาย 'พี่ป้อม' ที่เข้าขั้น "ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ" เห็นชัดงานวันเกิดครบ 78 ปี เมื่อ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา เปรียบเหมือน เสือกับสิงห์ อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ คนหนึ่งเดินเข้ามา ทางประตูหน้า อีกคนรีบสวนออกไปทางประตูหลังทันควัน คนเห็นกันทั้งงาน

ส่วนคนที่ช้ำใจสุดคงเป็น "พี่ป้อม" ลำพังปัญหาในพรรคพลังประชารัฐก็ว่าหนักแล้ว ยังมาเจอปฏิบัติการ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปอีก เมื่อสภาพจิตใจไม่ดี ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อร่างกาย

เพราะก่อนหน้านี้ "บิ๊กป้อม" ก็บ่นเจ็บสะโพก เดินแทบไม่ไหวจนมีข่าวเล็ดลอดจากบ้านพักที่มีนบุรีถึงขนาดต้องนั่งรถเข็นไฟฟ้าผู้สูงอายุ ในงานเลี้ยงวันเกิดรอบสองเมื่อ 19 ส.ค. ที่เปิดให้เฉพาะคนใกล้ชิด มิตรสหาย เช่น เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 6  ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ พร้อมตั้งกฎห้ามถ่ายรูป

เรื่องนี้ "บิ๊กกี่" พล.อ.นพดล อินทรปัญญา เพื่อนซี้ "บิ๊กป้อม" ถึงกับออกมาชี้แจงแทน โดยยืนยันว่า

"ป้อมยังแข็งแรงดี ไม่มีปัญหาสุขภาพตามที่มีข่าวออกไป ผมพึ่งโทรคุยกับป้อมเมื่อครู่นี่เอง แต่ยอมรับว่า ป้อม บ่นเจ็บสะโพกจริง ส่วนวันนั้นไม่ได้นั่งรถไฟฟ้าผู้สูงอายุ แต่เป็นรถกอล์ฟ เพราะบ้านป้อมมีพื้นที่กว้าง เขาเลยนั่งรถกอล์ฟ นำเพื่อนเที่ยวรอบๆบ้าน โชว์โน้นนี่ เยี่ยมชมร้านอาหารต่างๆ ส่วนที่ป้อมเคยปั่นจักรยานประสบอุบัติเหตุล้ม เมื่อหลายปีก่อนนั้น ตอนนี้ป้อมหายดีขึ้นแล้ว แทบจะหายเป็นปริดทิ้ง"

ส่วนเก้าอี้ ผบ.ตร. ก็ยังคอนเฟิร์มกันว่าเป็น "บิ๊กต่อ" พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ตามที่คาดการณ์กันมาหลายสัปดาห์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

แต่เหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จะมีพรายกระซิบ หากคนอกหัก ไม่พอใจกับการแต่งตั้งเก้าอี้ ผบ.ตร. จนถึงขั้นฟ้องศาลปกครองแล้วจะยุ่ง ก็จะชวดกันไปหมด สู้ยกให้เป็นหน้าที่ นายกฯคนใหม่ เสียดีกว่า

ดังนั้นโผแรกของ "นายกฯเศรษฐา" แต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่  และ รอง ผบ.ตร.ไปจนถึง ผบก. จะพลิกฝุ่นตลบหรือไม่ ก็เป็นเรื่องน่าคิด เพราะอย่าลืมว่า "ทักษิณ ชินวัตร"อดีตนายกฯ นอนรักษาตัวอยู่บนชั้น 14 รพ.ตำรวจ