‘เพื่อไทย’ ยื้อแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี ลดแรงต่อรองขั้วตั้งรัฐบาล

‘เพื่อไทย’ ยื้อแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี ลดแรงต่อรองขั้วตั้งรัฐบาล

ยิ่ง “พรรคสองลุง”ยังไร้วี่แววตั้งโต๊ะแถลงเข้าร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ยิ่งใกล้วันโหวตนายกรัฐมนตรี แรงต่อรองทางการเมืองยิ่งลดน้อยลง

ชั่วโมงนี้ พรรคเพื่อไทย ถือไพ่เหนือคู่แข่งทางการเมืองทุกพรรค ภายหลังรวบรวมเสียง 9 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการ 238 เสียง รอเปิดตัว “พรรคสองลุง” ก่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อผนึกพรรคพลังประชารัฐ 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 ส่งให้ขั้วพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลมี 314 เสียง

แม้การจับมือกับ “พรรคสองลุง” จะมีต้นทุนที่พรรคเพื่อไทยต้องจ่าย แต่เมื่อหมากยังเดิน ต้องอาศัยเสียงโหวตนายกรัฐมนตรีจาก สว. ซึ่งรอ “ลุง” กดปุ่ม คำนวณแล้วก็คุ้มทุนอยู่พอสมควร

“บิ๊กเพื่อไทย” ประเมินว่าหากรัฐบาลเพื่อไทยทำผลงานเข้าตาประชาชน สามารถฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาดีขึ้น เพิ่มเงินในกระเป๋า จะทำให้พรรคกลับมาได้รับความนิยมเหมือนเดิม ซึ่งถือเป็นเดิมพันที่สูงลิบเช่นกัน

หมากเกมนี้ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร ยอมเดิมพันอนาคตของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น “ทีม ครม.” พรรคเพื่อไทยต้องคัดคนละเอียดยิบ ยึดกระทรวงเศรษฐกิจเอาไว้บริหาร แบ่งโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีให้พรรคร่วมรัฐบาล โดยไม่ปล่อยให้ตัวเองเสียการคอนโทรลในภาพใหญ่

ภายหลังการฟอร์มรัฐบาลค่อนข้างลงตัว เปิดไพ่ทีละใบจนหมดหน้าตัก แต่ “ทักษิณ-เพื่อไทย” โชว์ลูกเก๋าทางการเมือง ไม่เปิดทางให้พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลได้มีโอกาสได้ต่อรองโควตารัฐมนตรีมากนัก แบ่งบทให้ “แกนนำเพื่อไทย” ส่งสัญญาณแบ่งเก้าอี้หลังโหวตนายกรัฐมนตรี

อีกทางหนึ่งส่งบทให้ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ออกโรงขย่ม จะไม่ให้โควตารัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลนั่งกระทรวงเดิม เพื่อขจัดข้อครหาวางงาน-วางบิล-วางคน

สัญญาณแรงจากพรรคเพื่อไทย ทำให้พรรคภูมิใจไทย เคยคุมกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พรรคชาติไทยพัฒนา เคยคุมกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ค่อยแฮปปี้

โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ซึ่งคุมบังเหียนกระทรวงคมนาคมมา 4 ปี แม้จะรู้ว่าแรงต่อรองค่อนข้างน้อย เนื่องจาก “นายทุน” คู่ขัดแย้งเป็นสปอนเซอร์หลักของ “พรรคสีแดง-พรรคปลายด้ามขวาน” ต้องงัดทุกสรรพกำลังมางัด ไม่ยอมเสียเก้าอี้กระทรวงคมนาคมให้พรรคภูมิใจ

แต่ “บิ๊กภูมิใจไทย” ต้องการต่อรองยื่นหมูยื่นแมว เปิดโต๊ะต่อรองขอกระทรวงเกรด A+ หากต้องเสียกระทรวงคมนาคมไป ก็อยากได้กระทรวงที่แลกกันแล้วพอสมน้ำสมเนื้อ

เช่นเดียวกับ “เสี่ยท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา หมายมั่นจะคุมกระทรวงทรัพยากรฯ เหมือนเดิม 

จนคนในบ้านศิลปอาชา ยื่นคำขาด พรรคชาติไทยพัฒนาต้องได้กระทรวงทรัพยากรฯ เท่านั้น แต่จำนวน สส. 10 เสียง แรงต่อรองน้อย สุ่มเสี่ยงจะไม่ได้เก้าอี้ “รมว.” เสียด้วยซ้ำ ทำให้ต้องหลบฉาก

ด้าน “พรรคสองลุง” แม้ดีลจบ แต่เพื่อไทยยังยื้อ ไม่ได้เปิดโต๊ะต่อรอง เพราะอ่านเกมออกว่าจะยื่นเงื่อนไขมาสูงลิบ เพื่อเป็นหมากบังคับให้เพื่อไทยยอมมอบกระทรวงที่ขอไป 

การดึงเกมของเพื่อไทย เพื่อหลบกระแสทัวร์ลง ไม่เอาลุง แต่ยิ่งใกล้ถึงวันโหวตนายกรัฐมนตรี ยิ่งเป็นการบีบให้ “พรรคสองลุง” จนกระดาน ไม่สามารถต่อรองได้ และหลังโหวตนายกรัฐมนตรีแล้วเสร็จ พรรคเพื่อไทยเหลือกกระทรวงใดให้ ก็ต้องจำใจรับสภาพ

ปฏิบัติการของพรรคเพื่อไทย ที่พยายามยื้อเพื่อลดแรงต่อรองของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล แม้พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา จะแถลงร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ก็ไม่สามารถการันตีเก้าอี้รัฐมนตรีได้ 

ยิ่ง “พรรคสองลุง”ยังไร้วี่แววตั้งโต๊ะแถลงเข้าร่วมรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ยิ่งใกล้วันโหวตนายกรัฐมนตรี แรงต่อรองทางการเมืองยิ่งลดน้อยลง